กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้

กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้ ห้ามก็อปไปเผยแผ่ที่ไหน // อ่านแล้ว ตอบ "ขอบคุณ" สักนิด...เพื่อกำลังใจน้อยๆ

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

บัดซบ ตอนที่ 1

**นิยายเรื่องนี้ แต่งขึ้นจากจิตนาการ ไม่มีความจริง แต่อย่างใด**

******************************************************************************************

บัดซบ ตอนที่ 1

มันเกิดอะไรขึ้น..คำถามของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ ท่ามกลางความวุ่นวายที่มีผู้คนมากมายกำลังเดิน ผ่านเขาอย่างไปมา โดยผู้คนมากมายนั้นก็มีทั้ง นักข่าว กู้ภัย ตำรวจ และสารวัตรทหาร ที่ต่างกำลังปฏิบัติหน้าที่ของตน กับต้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งผมก็จ้องมองดูการทำงานของพวกเขา อย่างเริ่มพอเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง...

ก่อนที่จะมีคนที่ผมรู้จัก 2 คน ได้เดินเข้ามา ท่ามกลางวุ่นวายนี้...โดยทั้ง 2 คนที่ว่านั้น คือ แฟนสาว(ภรรยา) กับพ่อของผม นั้นเอง ทั้ง 2 ที่เดินเข้ามา และผ่านตัวของผมที่ยืนอยู่ อย่างตรงเข้าไป ยังจุดศูนย์กลางของความวุ่นวายนั้น ซึ่งก็เป็นรถของผม ก่อนที่เธอจะปล่อยโฮ และ พ่อของผมนั้นก็เข้าทำการสวมกอดและปลอบกับความเสียใจนั้น....

ขณะที่ผมนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรกับ ท่าทีของคนในครอบครัวของผมแม้แต่น้อย ใช่ ไม่รู้สึกแย่เลยแม้แต่น้อย แต่กลับกัน ยิ่งพวกเขาแสดงท่าทีเสียใจมากเท่าไร มันกลับทำให้ผมรู้สึกทั้งโกรธและเจ็บมากขึ้นเท่านั้น นั้นก็เพราะ พวกเขาเป็นคนที่ทำร้ายผม ทำร้ายจนทำให้ ผมต้องตัดสินใจกระทำแบบนี้...
.

.

.

.

ย้อนกลับไป เมื่อ 6 เดือนก่อน....

“ดูจากการตรวจครั้งล่าสุดแล้ว หมอขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้กลับบ้านแล้วจ่า...” นายแพทย์ที่มากประสบการณ์ เอ่ยขึ้น หลังจากอ่านใบรายงานการตรวจร่างกายล่าสุด ของ “จ่าสิบเอกสมชาย”  ซึ่งก็คือ ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง ในห้องคนไข้ โดยที่ข้างๆนั้นก็มีร่างของหญิงสาวผู้เป็นแฟน กับชายหนุ่มผู้เป็นพ่อของเขา ซึ่งยืนให้กำลังใจอย่างรอลุ้น ผลตรวจ...


แน่นอนว่า ถ้อยคำดั่งกล่าวก็ทำให้เค้าและครอบครัวต่างดีใจกันมาก...

“แต่อย่าลืม มาตรวจตามใบนัด นะ..” นายแพทย์ที่มากประสบการณ์คนดั่งกล่าวเอ่ยเชิงย้ำ ซึ่งทำให้ ผมที่เป็นคนไข้ของเขานั้นเอ่ยตอบรับ...

“ครับหมอ ขอบคุณมากครับ..”

“อย่าขอบคุณหมอเลย หมอแค่องค์ประกอบส่วนหนึ่ง แต่ส่วนสำคัญที่ทำให้คุณหายได้เป็นเพราะร่างกายของคุณต่างหากละ จ่า...” นายแพทย์คนดั่งกล่าวตอบ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ซึ่งทันทีที่คุณหมอได้เดินออกไปนั้น ชายวัย 55 ปี ที่เป้นพ่อของผมนั้นก็หันมาเอ่ยกับผมทันที...
“งั้นพ่อจะไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วเราจะได้กลับบ้านกันเสียที..” สมชาติ หรือที่ใครๆเรียกว่า ชาติ นั้นก็เอ่ยบอกแก่ลูกชายที่นอนอยู่ที่เตียงนั้น ซึ่งผมก็ทำการตอบรับผู้เป็นพ่อ...

“ครับพ่อ...” ชายหนุ่มตอบ ซึ่งเขาก็รู้ดีว่า คงใช้เวลาไม่นาน และพวกเขาก็ไม่ลำบากเรื่องค่าใช้จ่ายเท่าไร เนื่องจากค่าใช้ จ่ายพวกนั้น รัฐบาลได้เป็นคนออกให้นั้นเอง...และหลังจากที่เค้าตอบ คนเป็นพ่อก็ได้เดินออกไป ทิ้งให้เค้าอยู่ตามลำพังกับแฟนสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา...

“ดีใจด้วยนะ พี่ชาย...” ถ้อยคำสั้นๆที่เอ่ยอย่างหวานๆจากปากของแฟนสาว รวันดาที่ทำให้เค้าหันมายิ้มให้กับถ้อยคำของเธอ โดยที่เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จะมีวันที่จะได้ออกจากโรงพยาบาล...เพราะถ้าย้อนนับไปเกือบ 3 เดือนก่อน สภาพของเขานั้นเรียกได้ว่า โคม่า ปางตาย เลยละ...

มันเกิดอะไรขึ้นนะเหรอ? คือ เค้า.... จ่าสิบเอก สมชาย เป็น 1 ในทหารที่ถูกเลือกมาให้ประจำที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังคงเกิดปัญหาความรุนแรง ซึ่งเค้าก็มาประจำได้ 2 ปีแล้ว เหลืออีก 1 ปี ก็หมดเวลาและสามารถย้ายไปยังที่อื่นได้..

โดยที่ตลอด 2 ปีนั้นเค้าก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังมาตลอด เพราะรู้ดีว่า พื้นที่ที่เค้าปฏิบัตินั้น เป็นพื้นที่อันตรายมีความเสี่ยงสูง....จนกระทั้งวันนั้น วันที่เค้า ถูกผู้ก่อการร้ายสุ่มโจมตี ขณะปฏิบัติภารกิจ ลาดตระเวนประจำวันอยู่นั้น เค้ากับเพื่อนร่วมทีมต่างถูกสุ่มโจมตีอย่างปิดล้อม...ระหว่างที่ยัน และ ขอความช่วยเหลือนั้น...

ใช่ พริบตาที่เค้าวอ ขอความช่วยเหลือนั้น...

“เฮ้ย ชาย ระวัง RPG...” เสียงร้องบอกของเพื่อนร่วมทีมที่เอ่ยร้อง และนั้นก็ทำให้เค้าหันกลับมามอง ก็ได้แต่อึ้งเมื่อเห็น จรวด RPG ได้พุ่งตรงมายังที่เค้า และด้วยความเร็ว และ ความกระชันชิด ก็ทำให้เค้าไม่อาจจะขยับตัวหลบได้ทัน ก่อนที่จรวด RPGนั้นจะเข้าปะทะ ถึงแม้จะไม่ได้ปะทะกับร่างของเขาก็ตาม แต่ปะทะเข้ากับตัวรถ ซึ่งเป็นจุดที่เค้ากำลังยืนอยู่ แต่แค่แรงระเบิดนั้น ก็ทำให้ร่างของเขาถึงกับปลิวลอยไปไกลเลยทีเดียว....

เสียงดังปึกกก ที่ดังขึ้น เมื่อร่างของเขาหล่นกระแทกกับพื้น...พร้อมกับความเจ็บปวดที่แปล๊บแล่นทั่วทั้งร่าง เจ็บจนชา จนเหมือนทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้ ก่อนที่เค้าจะต้องตกใจมากขึ้น เมื่อเห็นแท่งเล็กเศษจากรถนั้นได้เข้าเสียบทิ่มที่ช่วงท้องของเขา...ยังไม่นับรวมถึงความรู้สึกที่ขาขวา ที่เขาเหมือนรู้สึกว่า รูปร่างของมันได้ผิดเปลี่ยนไปด้วย...

“ชายยยย!!...” เสียงเพื่อนร่วมทีมทีเอ่ยร้องเรียกชื่อของเขา และ 1 ในนั้นก็มีทีท่าเหมือนวิ่งมาดู และนั้นทำให้เขาที่เหลือบมองดูนั้นก็ต้องตะลึง เมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมดั่งกล่าวถูกสังหารต่อหน้าต่อตา ทันทีที่วิ่งหมายมาดูอาการเขา...

ก่อนที่เพื่อนร่วมทีม อีก 2 คน จะถูกสังหารตามในลำดับถัดมา โดยต้นเหตุมาจากการที่เค้าถูกโจมตีนั้นเอง ซึ่งเขาก็ได้แต่มอง อย่างไม่สามารถทำอะไรได้ แม้แต่ส่งเสียยังทำไม่ได้ เพราะแค่จะเปล่งเสียง เค้าก็ไอสำลักอย่างมีเลือดออกมาเสียแล้ว

ทะ ทุกคน...เค้าที่ได้แต่เอ่ยในใจ และจ้องมองดูเพื่อนคนสุดท้ายที่ล้มลงเพราะถูกยิง ก่อนจะถูกผู้ก่อการร้ายที่เดินเข้ามายิงซ้ำที่กบาล ซึ่งนั้นก็เป็นภาพสุดท้ายที่เค้าเห็น ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง...

รู้สึกตัวอีกที... ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลทหารในกรุงเทพเสียแล้ว...ร่างของเขาก็เต็มไปด้วยสายโยงรยางค์อย่างมากมาย...และการพื้นรู้สึกตัวของเขาก็ทำให้ แพทย์และครอบครัวของเขานั้น ดีใจกันมาก ก่อนที่เค้าจะรู้ว่า ตัวเองได้สลบไปเกือบร่วมเดือน...ยิ่งพอฟังอาการบาดเจ็บของตัวเอง ก็ทำให้ตัวเอง งง ไม่น้อยว่า รอดมาได้ไง...ทั้ง ซีโครงหัก ปอบฉีก อวัยวะภายในทั้งบอกช้ำและเสียหาย แถม ขาขวาหักอีก....

และช่วงเกือบเดือนแรก ที่เค้าได้สตินั้นก็เป็นอะไรที่ทรมานมากๆ เพราะยังคงถูกใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ ไหนจะอาการช้ำในอีกที่ทำให้จะขยับหรือแค่หายใจนั้นก็ทำให้เค้าเจ็บเอาการ...ก่อนที่ทุกอย่างจะดีขึ้น เมื่อถูกถอนเครื่องช่วยออก และอาการช้ำในนั้นก็ดีขึ้น ใช่ ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งวันนี้ ที่เค้าได้ออกจากโรงพยาบาล...

ถึงแม้เรื่องอาการบาดเจ็บของตัวเองจะดีขึ้น แต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้เค้าไม่ค่อยพอใจเสียเท่าไร อย่างการยกยอดของสื่อที่ยกเขาเหมือนว่าเป็นวีรบุรุษ ทั้งๆที่จริงแล้วมันไม่ใช่...มันทำให้เค้าไม่ดีใจ แต่ทำให้รู้สึกแย่มากกว่า รวมถึงการที่เค้าได้เลื่อนขั้น และย้ายมากลับมายังส่วนกลางด้วย...

ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องดี แต่ในใจของเขานั้นกลับมิได้ยินดี เพราะเหมือนตัวเอง มีชื่อเสียง หรือ ได้ตำแหน่งเพราะการตายของเพื่อนร่วมทีม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้การแยกส่วนกลางนั้น เป็นเหมือนความฝันของเขาก็ว่าได้ ใช่...การย้ายกลับมา เพื่อจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับ แฟนสาวคนสวยของเขาเสียที หลังจากที่เสียเวลาไป 2 ปี จากการที่เค้าต้องมาประจำที่ภาคใต้ มันเป็นความโชคร้ายของเขาและเธอ เพราะหลังจากแต่งงานกันได้แค่ 2 เดือน เค้าก็ถูกสั่งให้ย้ายมาภาคใต้ซะนี่...

ถึงแม้จะรู้สึกแย่ และไม่พอใจ แต่เค้าก็ได้แต่ต้องทำใจยอมรับ และต้องใช้ชีวิตที่รอดมานี้ให้คุ้มกับการเสียสละไปของพวกพ้อง ใช่ นั้นคือบทสรุปที่ เค้าคิดได้...

“ถึงบ้านเราแล้ว คิดถึงมัย พี่ชาย...” รวันดา แฟนสาวที่เอ่ยเชิงถามกับเค้า เมื่อเค้าได้เดินทางกลับมาถึงยังที่บ้านของเขา...ซึ่งมันก็เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก ทั้งๆที่เค้าเองก็ไม่ได้ห่างหายจากบ้านหลังนี้ไปนานมากนัก ใช่ ตลอด 2 ปี ที่ประจำภาคใต้ เค้าก็มักใช้วันหยุด กลับมาเยี่ยม กลับมายังที่บ้านเสมอๆ อย่างไม่เว้นว่าง....ซึ่งมันก็ไม่น่าจะมีความรู้สึกที่คิดถึงอย่างโหยหาอะไรมากนัก....

แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ เขากลับรู้สึกคิดถึงมันมากๆ ไม่รู้เกี่ยวกับการที่เค้าเฉียดตายมาด้วยหรือเปล่า?....

“อื้อออออ....” สมชาย ชายหนุ่มที่เอ่ยตอบสั้นๆแก่คำถามของแฟนสาววัย 29 ปีรายนี้...ก่อนที่ผู้ที่เดินเข้ามาที่หลังสุด อย่าง ชาติ หรือ สมชาติ ผู้เป็นพ่อของเขาจะเอ่ยบอกกับเค้าว่า...

“หนูดาอย่าชวนพี่เค้ายืนคุยนานสิ พาพี่เค้าไปพักผ่อน...อ้อ ชาย เย็นนี้เดี๋ยวพ่อจะทำของโปรดของเราให้ทานด้วย...” ชาติ พ่อของผมที่เอ่ยเชิงสั่งและบอกกับผม ซึ่งนั้นก็ทำให้ผมมองแฟนสาวอย่างยิ้มๆ และหันมายิ้มให้กับผู้เป็นพ่อ...ซึ่งผมก็ค่อนข้างรู้สึกคิดถึง บรรยากาศครอบครัวที่อบอุ่นนี่นานพอควร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกแบบนี้ มันเมื่อไรกันนะ...

และนั้นจึงทำให้วันแรกที่ผมกลับมาพักที่บ้านนั้น เป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้....และผมก็เพิ่งสังเกตเห็นถึงบางอย่าง นั้นก็คือ ความสนิทสนมของแฟนผมกับพ่อของผม ที่กำลังช่วยกันทำกับข้าว ในมื้อเย็นที่เป็นการต้อนรับผมกลับมาบ้านนั้น...

ใช่ แปลกใจ เพราะไม่คิดว่าคนเข้มงวดอย่างพ่อของผม จะสามารถทำตัวสนิทสนมกับแฟนของผมได้ และ ดา แฟนผมก็เช่นกัน แรกๆก็ดูกลัวพ่อผมเหลือเกินด้วย...ถึงแม้จะแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรกับการเปลี่ยนแปลงนี่ซะเท่าไร...

เพราะผมเองที่เป็นคนฝากฝั่งให้ ดา ช่วยดูแลพ่อผม ขณะที่ผมปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ใต้ แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยถามซะหน่อย...

“ว่าแต่...ทั้ง 2 คนนี่ ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไรครับ? ผมแปลกใจนะเนี่ย ที่เห็นทั้ง 2 ดูสนิทกันดีจัง...” ผมที่เอ่ยถามขึ้น ขณะรับประทานอาหารเย็นที่ปรุงโดยบุคคลที่ผมรักทั้ง 2 นั้น ซึ่งผมก็มิได้สังเกตท่าทีของ ทั้ง 2 แม้แต่น้อย ว่ามีท่าทีเช่นไร เนื่องจากตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไรมาก...

“ อะไรๆมันก็เปลี่ยนกันได้นะ ลูกพ่อ...อีกอย่างตอนนี้พ่อก็ได้เห็นแล้วว่า หนูดา แฟนลูกนะเค้ามีดียังไง มันทำให้พ่อรู้สึกตาบอดเหลือเกินที่ไปตั้งอคติกับเค้าไว้ในตอนแรกนะ..” ถ้อยคำตอบของผู้เป็นพ่อนั้นก็ทำให้ผมอึ้งเล็กน้อย เพราะการที่พ่อผมยอมรับอะไรตรงๆสักอย่างนั้น เป็นเรื่องที่นับครั้งได้เลย...

ถึงแม้ท่านจะไม่ได้ตอบว่า ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไรก็ตาม....

“คุณพ่อเล่นตอบแบบนี้ ผมยิ่งชักอยากรู้แล้วสิ ว่า คุณไปทำอีกท่าไหน พ่อผมถึงได้ยอมรับคุณได้เนี่ย...” ผมเอ่ยเชิงถามอย่างหันไปมองยังแฟนสาวของผม ซึ่งเธอก็ยิ้มอย่างเขินอาย และคนที่ตอบคำถามนั้นก็คือพ่อของผม...

“ก็หลายท่าอยู่นะ...” คำตอบของพ่อผมที่ทำให้ผมหันไปมอง ก่อนที่แกจะเอ่ยต่อ
“พ่อหมายถึง มีหลายครั้งอยู่ที่ หนูดาทำดีนะ ถ้าถามเฉพาะเจาะจงก็ตอนที่พ่อไม่สบายหนักนะ..”

“เอ๋...มีเหตุการณ์นั้นด้วยเหรอครับ...” ผมที่เอ่ยถามด้วยความตกใจ อย่างไม่รู้สึกสงสัยกับคำตอบก่อนหน้านี้เลย ใช่ ที่ตกใจ เพราะผมเพิ่งเคยได้ยิน เรื่องอาการป่วยเป็นครั้งแรก...

“อื้อออออ พ่อบอกหนูดาเองว่า อย่าไปบอกแกนะ...และนั้นละที่ทำให้พ่อยอมรับแฟนแก...” พ่อของผมตอบ ซึ่งนั้นก็ทำให้ความข้องใจสงสัยผม หายไปเกือบหมดในทันที ที่ใช่คำว่าเกือบหมดนั้น เพราะยังไม่อยากเชื่อถึงคำพูดเหล่านี้เลย เพราะเมื่อก่อน ผมคิดว่า ต้องรอให้โลกแตกก่อนละมัง ถึงคุณพ่อจะยอมรับ ดา แฟนผม ได้...

ถึงแม้ผมจะได้รับคำตอบที่กระจ่างชัดจากท่านแล้วก็ตาม แต่ก็อดไม่ได้ที่ผมจะถามซ้ำอีกครั้งกับ รวันดา แฟนสาวคนสวยของผม...หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ และได้อยู่ตามลำพัง 2 ต่อ 2 กับเธอ...

“รู้มัย ว่าผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่า คุณสามารถชนะใจ พ่อผมได้เนี่ย...” ผมที่เอ่ยกล่าวขึ้น ขณะที่นั่งอยู่ที่เตียงนอน ขณะที่รวันดา แฟนสาวของผมเดินตามหลัง และกำลังปิดห้องนั้น ก็หันมาทางผมและเอ่ยตอบ...

“มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ?...”

“อือออ มากเลยละ การที่ทำให้คนหัวแข็งแบบพ่อผม การที่เปลี่ยนความคิดที่ได้ตั้งธงได้นั้น มันเหมือนเป็นเรื่องปฎิหาริย์เลยนะ..” ผมตอบ ซึ่งเธอก็เหมือนยิ้มน้อยๆและเอ่ยตอบ...

“มันเป็นเรื่องลูกฟลุคนะค่ะ แต่ดาว่าเราอย่าพูดเรื่องพ่อของคุณเลยค่ะ มาคุยเรื่องของเราจะดีกว่า..” รวันดา แฟนสาวของผมที่เอ่ย พร้อมกับเดินตรงเข้ามาหาผม...

“เรื่องของเราเหรอ?..” ผมเอ่ยทวน ซึ่งเธอก็ตอบและเอ่ยต่อ...

“ค่ะ สรุปว่า เบื้องบนเค้าว่าไงบ้างค่ะ..”

“เออ...เค้าให้ผมย้ายกลับมาส่วนกลาง แต่กว่าจะให้เริ่มงาน อีกนานนะ รอผมหายดีก่อน...” ผมตอบ และนั้นก็ทำให้เธอยิ้มกว้าง และขยับเข้ามาอย่างคร่อมนั่งที่ตักของผมเลย...

“ถ้างั้นเรามาเริ่มแผนการของเราเลยดีมัยค่ะ...” รวันดาเอ่ยเชิงบอกกับผม วึ่งมันทำให้ผมจ้องมองเธอเล็กน้อย ก่อนจะร้องถามอย่างไม่แน่ใจกับคำว่า แผน ของเธอ...

“หมายถึง มีลูกเหรอ?...” ผมเอ่ยเชิงถาม ด้วยท่าทีที่ไม่แน่ใจ...

“อื้อออ ค่ะ แล้วพี่ชายว่า ยังจะมีเรื่องอะไรได้อีกละค่ะ..” เอตอบผมด้วยท่าทีที่เขินอาย ซึ่งผมก็เกือบลืมไปแล้ว ถึงแผนการชีวิตของผมกับเธอที่ร่วมวางแผนกันไว้ ซึ่งเดิมทีเรากะจะมีลูกกันทันทีหลังแต่งงาน แต่โชคร้าย ที่ผมถูกสั่งให้ประจำที่ภาคใต้ จึงทำให้เลิกล้มความคิดที่มีลูกกันไปก่อน เพราะผมคงรู้สึกไม่สบายใจแน่ หากให้เธอตั้งท้องแล้ว ผมยังประจำอยู่ภาคใต้เนี่ย...

“แต่ผมยังเจ็บอยู่เลยนะ...” ผมตอบอย่างกลืนน้ำลาย ทั้งๆที่อยากจะสนองต่อคำชวนของแฟนสาว แต่สภาพร่างกายของผมนั้นไม่อำนวยให้โหมอะไรมากนัก ขาก็ยังหัก ยังมีอาการช้ำใน ไหนจะบาดแผลข้างในที่ยังไม่หายดี ถึงภายนอกจะสมานกันแล้วก็ตาม...

แต่ใช่ว่า ผมจะไม่สนใจนะครับ สนใจ สนใจมากๆเลย...ถ้าว่ากันตามตรง ผมก็ไม่ได้มีอะไรกับเธอมานานมากแล้ว จะว่าไปตอนที่มีคำสั่งย้าย ก็ทำให้ความสัมพันธ์ลดลงไประดับหนึ่งเลย เพราะคำสั่งนั้นทำให้เธอไม่พอใจที่ทำให้ แผนการชีวิตต้องมีอันเลื่อนออกไป...แถมถึงผมจะหมั่นกลับมายังที่บ้านทุกๆวันหยุดยาว ก็หาได้มีอะไรกับเธอเสียเท่าไร...

นับครั้งได้ ยิ่งพอปีก่อน...รวันดา ถูกปลดออกจากงาน ก็ทำให้เธอยิ่งเครียด ส่งผลทำให้ไม่มีอะไรกันยิ่งกว่าเดิม ถึงแม้เรื่องราวอันวิกฤตนั้นจะผ่านพ้นมาได้ และตอนนี้เธอก็ผันตัว มาเป็นเจ้าของร้านเบเกอร์รี่ ซึ่งกิจการก็เป็นไปได้ดีพอสมควรเลยละ....

“ถ้ายังเจ็บอยู่...ให้ดาเป็นฝ่ายทำให้มัยค่ะ...” ถ้อยคำที่เอ่ยอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าที่ดูเขินอายนั้น ก็ทำให้ผมถึงกับชะงักไปพอสมควร เพราะไม่คิดว่า รวันดา แฟนสาวผมจะกล้าเอ่ยเสนออะไรแบบนี้...แถมพอเธอเอ่ยจบ ก็เข้าทำการจูบปากผมอย่างไม่รอช้า ราวกับ โหยหา และคิดถึงอย่างสุดๆ...

“อืมมมมมมม...อื้ออออออออ...” ผมที่เอ่ยร้องครางในลำคอ พร้อมกับร่างที่ค่อยๆเอนกายอย่างล้มลง เพราะไม่อาจจะทนทานต่อแรงโถมของเธอได้ ใช่ มันทำให้ผมล้มลงนอน โดยมีร่างของ รวันดา แฟนสาวคร่อมอยู่บนร่างนั้น...

“..... ......” ผมที่ล้มลงนอนนั้นก็จ้องมอง รวันดาที่ได้ถอนริมฝีปากและคร่อมอยู่บนร่างของผมอย่างพูดอะไรไม่ออก ใช่อึ้งและไม่อยากเชื่อกับการรุกเข้าใส่ของเธอนั้น ซึ่งเป็นอะไรที่เธอไม่เคยทำมาก่อน เล่นทำให้อารมณ์ของผมลุกโชกพอสมควรเลย...

“ถะ ถ้าดาทำเจ็บก็บอกนะ..” เธอเอ่ยบอกกับผมด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆไม่น้อย กับถ้อยคำนั้น เพราะส่วนใหญ่ ฝ่ายชายต้องเป็นคนพูดคำนั้นมากกว่า...ซึ่งหลังจากที่เธอเอ่ยจบ เธอก็ขยับก้มลงทำการจูบปากของผมอีกครั้ง...

ก่อนจะขยับเลือนมือไม้เข้าทำการปลดเปลื้องเสื้อเชิ้ตของผมออก...พร้อมกับขยับลงไปไล่เลียที่ซอกคอและแผ่นหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของผม ท่าทีที่โหยหายอย่างหื่นกระหายของ รวันดา นั้นก็ทำให้ผมตื่นตะลึงพอสมควร ซึ่งผมก็ไม่ได้นึกสงสัยในการกระทำของเธอได้ เพราะมันมีข้ออธิบายว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้ ได้หลายอย่าง...

ถ้าตามที่ผมคิดและเดาไว้...ที่เธอกล้าทำแบบนี้ เพราะ ผมเฉียดตาย และ ผมได้กลับมาอยู่ข้างเธอ อย่างสามารถดำเนินแผนการชีวิตตามที่วางไว้ได้แล้ว เพราะ 2 อย่างนี้ อาจจะทำให้เธอปลดปล่อยความต้องการอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก็ได้..

ผมที่มองการรุกของเธอด้วยใจที่เต้นแรง ขณะที่รวันดานั้นได้ขยับเลื่อนกายไปยังช่วงล่างของผม ซึ่งก่อนที่เธอจะทำการรุกต่อนั้น เธอได้แหงกหน้ามองผมอย่างยิ้มหวานด้วย...ใช่ พอแหงกหน้าส่งยิ้มหวานให้ผมเล็กน้อย เธอค่อยรุกต่อ ด้วยการปลดเปลื้องกางเกงที่ผมสวมใส่อยู่นั้นออก...

และเธอก็ไม่ธรรมดาเลย เพราะเธอนั้นได้ทำการดึงถอนทั้งกางเกงขาสั้น และกางเกงในของผมให้หลุดผัวะออกไปอย่างรวดเดียว การถูกดึง ออกไป 2ชิ้นในคราวเดียวก็ทำให้ผมเขินอายนิดๆเหมือนกัน แน่นอนว่า ตัวของรวันดาเองก็เช่นกัน เพราะสิ่งที่อยู่ใต้ชิ้นผ้าเหล่านั้น คือ มังกรผงาด ที่มันได้ตื่นตัวขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ถูกเธอรุกใส่แล้ว...
“.........” รวันดาที่ถึงกับนิ่งอย่างจ้องมองอย่างตื่นตะลึงกับท่อนเอ็นของผม ที่แข็งโด่ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าที่เธออึ้งตะลึงไปครู่หนึ่งนั้น เป็นเพราะอะไร? เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเห็นควยผม...รึว่า ตกใจเพราะขนาดผมเองก็ยังรู้สึกได้ว่า ควยองผมนั้นคึกคักกว่าทุกที รึมันคึกคักจนขยายตัวใหญ่กว่าทุกทีหว่า?....

“ใหญ่จังเลยนะ ควยของพี่ชายเนี่ย..” รวันดาที่เอ่ยขึ้น หลังจากอึ้งนิ่งไปครู่หนึ่งนั้น ซึ่งเธอเอ่ยและขยับใบหน้าอย่างเข้าไปหาและทำการเล้าโลมท่อนควยของผมอย่างทันที ด้วยริมฝีปากสวยๆของเธอ บอกตามตรงว่านั้นทำให้ผมตกใจมากเลย

ทำไมเหรอครับ ก็เธอไม่เคยใช้ปากกับควยของผมเลยนะสิ...ทุกทีเธอจะปลุกเร้ามันให้ลุกสู้ด้วย มือนุ่มๆของเธอเท่านั้น..

“อะ อูยยยยยยย ดา....” ผมที่สูดปากและเอ่ยเรียกชื่อของเธอ...ด้วยความเสียวให้กับลีลาของเธอ โดยที่ลีลาการดูดควยของแฟนสาวผมนั้นก็ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ จนทำให้ผมอึ้งเหมือนกัน ให้กับลีลาที่เรียกได้ว่า เชี่ยวชาญมากๆนั้น...

ใช่....ทั้งเชี่ยวและเป็นงาน จนผมอยากจะถามเธอจริงๆ แต่ก็ต้องหยุดเรื่องที่ถามไว้ ถึงแม้ผมยอมรับว่าตัวเองจะไม่ใช่คนที่ฉลาดอะไรนักก็ตาม แต่ก็พอรู้ว่าการถามเรื่องนี้ ณ. เวลานี้อาจจะทำให้ชวดแห้วกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจากนี้ได้ หรือ สรุปสั้นๆ เข้าใจง่ายๆคือ ถ้าผมถาม อาจจะทำให้บรรยากาศความเสียวนี้จบสิ้นได้...

“อืออออออ อืออออออ อือออออออ...”เสียงครางในลำคอของแฟนสาวที่เอ่ยร้องอย่างต่อเนื่อง ขณะทำการดูดท่อนเอ็นของเขาอย่างไปมาไม่หยุด ซึ่งท่อนเอ็นอันแข็งโด่ของเขานั้นก็ค่อยๆแข็งโด่มากขึ้นและชโลมไปด้วยน้ำลายของเธอ...เกือบจะ 5 นาทีได้ที่ผม ถูกเธอทำการดูดอมควยด้วยท่วงท่าที่จัดจ้านแบบนี้...

ก่อนที่เธอจะไปเป็นฝ่ายหยุดการกระทำนี้เอง....

“อือออออ เอาละ..” รวันดา แฟนสาว(ภรรยา) ที่แหงกหน้าและเอ่ยกล่าวอย่างสั้นๆด้วยสีหน้าที่ระเรือแดง ด้วยท่าทีที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ภาพของเธอที่ทำให้ตื่นตาและชวนหลงใหลหลงรักเธออีกรอบ ภาพของเธอที่กำลังจ้องมองผมด้วยแววตาท่าทีอย่างแสดงความต้องการนั้น...และมันก็ทำให้ผมเลือกไม่ถูกจริงๆระหว่าง รวันดาก่อนหน้านี้ที่จัดเป็นสาวเขินอาย เรื่องบนเตียง กับรวันดาในเวลานี้ที่ดูร้อนแรง แบบไหนมันดีกว่ากันนะ....

ใช่...ผมคิด ขณะจ้องมองดูเธอที่ขยับร่างลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับทำการปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่สวมใส่ของตัวเองออก...ซึ่งมันก็ทำให้ทำให้ผมคึกคักมากขึ้น...เมื่อค่อยๆเห็นร่างอันเปลือยเปล่าของเธอ...ผิวที่ขาวนวล ส่วนสัดที่เข้ารูปอย่างสมส่วน ใช่ผมที่จับจ้องมองยังร่างเปลือยเปล่า และทรวงทรงของเธอนั้น...

โดยที่สายตาของผมก็จับจ้องยังที่ทรวงอกขาวๆที่มีปทุมถั่นสีสวย ซึ่งผมก็จ้องมองด้วยความลังเลและไม่แน่ใจ เนื่องจากผมมีความรู้สึกว่า ทรวงอกของแฟนสาวผมเหมือนมันจะใหญ่ขึ้นนะ...

“นมใหญ่ขึ้นเปล่าเนี่ย...” ผมร้องถามเชิงแซว ซึ่งนั้นก็ทำให้รวันดา แฟนสาวผมนั้นมีท่าทีเขินอาย ก่อนจะตอบเชิงว่าผมนิดๆ

“พี่ชายนะ ลามก..” เธอเอ่ยพร้อมกับขยับมือไม้ปิดหน้าอกหน้าใจของตัวเอง ท่ามกลางรอยยิ้มของผมกับคำพูดท่าทีนั้นของเธอ...

“แล้วมันจริงรึเปล่าละ..” ผมเอ่ยถามต่อด้วยความอยากรู้...ซึ่งแฟนสาวผม ก็หน้าแดง ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างยอมรับ...

“อื้อออ... จริงจากเมื่อก่อน คัพA ตอนนี้ไป คัพBแล้ว ดาไม่น่าให้....” แฟนสาวผมตอบ ก่อนที่เธอจะมีท่าทีชะงัก ในช่วงท้ายประโยค...ก่อนจะเอ่ยต่อ จนทำให้ผมไม่รับรู้ถึงบางอย่างที่เธอได้ซ่อนไว้...

“ไม่น่าทานยาคุมเลย น้ำหนักก็ขึ้น นมก็ใหญ่ เฮ้อ...” รวันดา เอ่ยต่อ เชิงบ่นและโอดครวญ ซึ่งผมก็ไม่รู้สึกสงสัยแต่อย่างใด เพราะผมเองก็พอรู้มาบ้างว่ายาคุมมันมีหลายชนิด หลายแบบ ซึ่งผู้หญิงบางคนกินเพื่อเร่งเรียกฮอร์โมนของตัวเอง ซึ่งรวันดาเองก็เป็น 1 ในสาวๆพวกนั้น...

“น้ำหนักขึ้นด้วยเหรอ? เท่าที่ดูก็ไม่เห็นเปลี่ยนเลย หรือ ไอ้ที่เพิ่มขึ้นนะมันอยู่ที่นมหมดกันนะ..” ผมเอ่ยเชิงแซว ซึ่งนั้นก็ทำให้รวันดา แฟนสาวผมมีท่าทีเหมือนไม่พอใจกับถ้อยคำแซวของผม ก่อนที่เธอจะตัดบทด้วยถ้อยคำที่แสนระทึกสำหรับผม

“ฮึ....นี่พี่ชาย ดาขอทำการ ”จัดการ” เลยนะ..” ถ้อยคำของเธอที่ค่อยๆขึ้น ซึ่งทำให้ มีท่าทีชะงักเล็กน้อย แต่ก็รับรู้และเข้าใจอย่าง่ายดายถึงความหมายของคำว่า จัดการ ที่เธอเอ่ยออกมานั้น....

“อะ อื้ออออออ...” ผมตอบรับคำขอของเธอ ซึ่งถ้าพูดตามตรง มาถึงจุดนี้ ผมชักอยากฝืนร่างกายของตัวเอง เป็นฝ่ายสำเร็จโทษเธอเองแล้ว ก็ค่ำคืนนี้แฟนสาวผมช่างร้อนแรงได้ใจผมที่สุดเลยนี่น่า...และหลังจากที่ผมทำการเอ่ยตอบเธอนั้น รวันดาก็ค่อยๆขยับอย่างคร่อมร่างพร้อมกับขยับมือเข้าจับยังลำควยของผม เพื่อหมาย จับและขยับมันให้ตรงกับช่องทางที่มันต้องเชื่อมต่อนั้น...

และไม่กี่อึดใจ เธอก็ค่อยๆหย่อนสะโพกเข้ากดลงไปทับยังลำควยของผม ซึ่งทำให้ผมต้องสูดปากร้องคราญด้วยความเสียว ขณะที่รวันดานั้นก็ส่งเสียงร้องครางอย่างดังลั่นแบบไม่อายใครออกมา...

“อ๊าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา...” เธอเอ่ยร้องพร้อมกับร่างที่สั่นเทิ้มด้วยความเสียว แน่นอนว่าผมเองก็เสียวไม่แพ้เธอ เนื่องจากร่องของเธอนั้นทั้งตอดทั้งดูดควยของผมอย่างหนึบหนับมากๆ...

“คะ คิดถึงเหลือเกิน คะ ควยของพี่ชายเนี่ย...” รวันดาที่ค่อยๆเอ่ยกล่าวเชิงบอกกับผมด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือบงบอกถึงความเสียวซ่าน ซึ่งถ้อยคำของเธอนั้นก็ทำให้ผมชะงักมิน้อย...

ควย? เมื่อกี้ ดา พูดว่า ควยเหรอ? ผมที่ชะงักและคิดในใจอย่างไม่เชื่อหูของตัวเองที่ได้ยิน เธอเอ่ยพูดคำๆนี้ ซึ่ง แฟนผมมิเคยพูดแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว และไม่ทันทีที่ผมจะคลายความสงสัย ผมก็ถูกเธอทำให้หายสงสัยเสียเอง ด้วยการขยับเข้ามากระทำการจูบปาก....ใช่....ถูกเธอจูบทำเอาลืมถึงข้อสงสัยเมื่อกี้นี้ไปเลย..

ก่อนที่จะมาสงสัยใหม่ก็ตอนที่เธอทำการขยับเอวเข้าเย็ดควยของผม...ใช่...ตอนที่เธอขยับเอวร่อนด้วยท่วงท่าที่จัดจ้านมากๆ ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่นึกว่าเธอจะจัดจ้านร้อนแรงได้ขนาดนี้....ทีแรกผมก็คิดว่า เธอคงขยับขย่มด้วยท่วงท่าที่ไม่เท่าไร เพราะเธอไม่เคยทำท่านี้กับผมเลย...

ครับ...ทำนองเดียวกับเรื่องดูดควยนั้นแหละ 2 เรื่องนี้ที่เธอมักอ้างว่า มันสกปรก และ น่าอาย....

แน่นอนว่ามันทำให้ผมฉงนสงสัยแต่ก็ไม่ได้ทำการเอ่ยถามเธอในตอนนี้ ได้แต่ดื่มด่ำกับความเสียวอันจัดจ้านที่ รวันดา แฟนสาวสุดสวยของผมเป็นผู้จัดให้นั้น...ซึ่งแฟนผมนั้นก็ทำการขย่มควยของผมด้วยท่วงท่าที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับว่า เธอรู้สึกสนุกและมันส์ในการขย่มควยของผม...

ก่อนจะมาหยุดชะงักก็ตอนที่ผมเอ่ยร้องด้วยความเจ็บนั้นแหละ เมื่อแรงขย่มมันกระเทือนถึงช่วงท้องที่ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ นั้นถึงค่อยๆทำให้ความร้อนแรงของรวันดา ค่อยหยุด ค่อยชะงักลงบ้าง....

“ขอโทษ มันสะเทือนโดนแผลเหรอ พี่ชาย...” เธอร้องถามอย่างหน้าตื่น ทันทีที่ได้ยินผมเอ่ยร้องด้วยความเจ็บปวดที่แล่นแปล็บนั้น ซึ่งผมก็ได้แต่มองและตอบรับสั้นๆ...

“อื้ออออ แต่ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอก..” ผมเอ่ยตอบ พร้อมกับจ้องมองเธอ ก่อนที่เธอจะกระทำการขย่มควยของผมต่อ แต่คราวนี้ไม่รุนแรงและจัดจ้านมาก อยู่ในระดับกลางๆ พอๆดีๆ สำหรับผมในตอนนี้...

ท่ามกลางเสียงครวญครางของรวันดาที่เอ่ยร้องอย่างระงม...ขณะที่ทำการเย็ดควยของผมนั้น..ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่า ผมถูกเธอทำการขย่มนานกี่นาที ก่อนที่ผมจะเอ่ยร้องคำรามออกมาด้วยความเสียวที่ถึงจุดสุดยอดนั้น...

“อัคคคคคคคค..” เสียงสบคำรามของผมที่เอ่ยดังขึ้น ก่อนที่เสียงหวีดร้องครางยาวของแฟนสาวผมจะค่อยๆดังลั่นตามมาอย่างติดๆ...

“อ๊าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา..” เธอร้องครางลั่น อย่างเนื้อตัวที่กรตุกอย่างเสียวสุขสุดๆ ด้วยความเสียวซ่านที่มาพร้อมกับน้ำควยร้อนๆมากมายของผม...ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นปฏิกิริยาอย่างงี้จากเธอมาก่อนเลย เล่นทำเอาผมตกใจเหมือนกัน เพราะกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร...

แต่พอขยับใบหน้าก้มลงมาหาผมที่นอนอยู่ใต้ร่างของเธอได้นั้น ก็ทำให้ผมค่อยโล่งใจลง...

“สะ สุดยอดเลยค่ะ ดาไม่เคย รู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย...” รวันดาเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือด้วยความเสียวสุข ก่อนจะล้มตัวลงมานอนทางทับร่างของผมด้วยความเหนื่อยล้าอย่างแสนสุขสมนั้น ซึ่งผมก็พอจะเข้าใจในความหมายที่เธอเอ่ยเมื่อกี้พอสมควร เพราะขนาดผมยังตกใจกับปริมาณน้ำควยที่ตัวเองได้ปลดปล่อยออกไปเลย...

ถึงแม้จะรู้ตัวว่าเก็บกดและไม่ได้ทำการชักว่าวรีดน้ำควยออกไปมาหลายเดือนแล้วก็ตาม ซึ่งถ้ารวมที่นอนแป๊กที่โรงพยาบาลอย่างน้อยก็เกือบๆครึ่งปีได้ แต่ถึงงั้นมันก็น่าตกใจอยู่ดี เพราะปริมาณที่มันออกมาดั่งเหมือนน้องๆฉี่ น้องๆเยี่ยวเลย ถ้าวัดปริมาณน่าจะอยู่หลัก ร้อยมิลลิตรแน่ๆ...

“....... .......” ผมที่หอบครางด้วยความเหนื่อยล้า พร้อมกับค่อยๆขยับมือไม้เข้าสวมกอดร่างของแฟนสาวที่นอนทาบทับอยู่บนกายผมนั้น โดยที่ในตอนนั้นผมก็รู้สึกหลากหลายมากๆ ถึงแม้จะ งง สงสัย...แต่อีกใจก็รู้สึกชอบพอ และหลงรัก รวันดา คนที่ร้อนแรงนี้เหลือเกิน...และผมก็ไม่รู้เลยว่า การที่เธอร้อนแรงนั้น มันมีสาเหตุ และเป็นจุดเริ่มต้นของความเลวร้ายที่สุดในชีวิตของผม...


To....be..... 

ผู้แต่ง

นานๆจะเขียนท้ายเรื่องพูดคุย กับแฟนคลับนนี้ก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน สำหรับคนที่อ่านเรื่องนี้ ไม่ต้อง งง สงสัย ผมได้แรงบันดาลใจเรื่องนี้ จากเรื่องจริงของคุณแอร์ ที่ได้ถูกนำไปสร้างเป็นละคร Club Friday The Series 4 หรือรักแท้จะแพ้ความต้องการ โดยแปลงเรื่องราว จาก แม่ยายกับผัวของลูกสาว มาเป็น พ่อผัวกับลูกสะใภ้แทน....

โดยผมแต่งเพื่อหลายๆความหมาย มิได้สรรสร้างให้มันเสียวอย่างเดียว...ส่วนตัวแต่งเพื่อจำลองเหตุการณ์แหละว่า ถ้าเกิดขึ้นกับลูกชาย จะเป็นยังไง...แต่ส่วนตัวก็เหมือนรู้สึกแหกกฎตัวเองนิดๆนะ เพราะเคยบอกกับตัวเองว่า จะไม่แต่งแนวพ่อ-ลูก (แนวครอบครัวแต่งแค่พี่น้องเท่านั้น) มันดูเหมือนแหกกฎ ถึงจะไม่ตรงเดะๆก็เถอะ...แต่เรื่องนี้มันก็ พ่อ-ลูกชัดๆ 555+

เรื่องนี้ วางไว้ 4 ตอนจบครับ....เบื้องต้นคิดว่า น่าจะครบรส ตามสูตร NTR นะ....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น