กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้

กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้ ห้ามก็อปไปเผยแผ่ที่ไหน // อ่านแล้ว ตอบ "ขอบคุณ" สักนิด...เพื่อกำลังใจน้อยๆ

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ผมเป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง again!!.. Extra Chapter 1 พัทยา (ณัฐกานต์ Story) ตอนที่ 1

 ผมเป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง again!!..

Extra Chapter 1 พัทยา (ณัฐกานต์ Story)

ตอนที่ 1 เริ่มการผจญภัย

“โรคจิต เป็นชุดที่โรคจิตจริงๆ...” ณัฐกานต์ มาเฟียสาวแสนสวย เอ่ยเชิงบ่น พร้อมกับจ้องมองชุดที่เธอกำลังสวมใส่อยู่นั้น ผ่านทางเงาสะท้อนจากกระจกบานใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าของเธอนั้น ซึ่งชุดที่เธอสวมใส่อยู่นั้น มันเป็นชุดที่ค่อนข้างลามกเอามากๆ..

มันเป็นชุดรัดรูปสีดำ ที่รัดเน้น จนเห็นนมของเธอเป็นลูกๆ แถมมันยังสั้นมาก เพราะมันปกปิด ถึงแค่หัวนมของเธอเท่านั้น หรือ ถ้าพูดให้เห็นภาพชัดหน่อย คือ มันเป็นชุดที่โชว์นมแทบจะครึ่งเต้าของเธอเลย

“มันโรคจิตจริงๆ...” เธอเอ่ยพึมพำอีกครั้ง ถึงแม้สีหน้าของณัฐกานต์จะระเรือแดงดูเขินๆอายๆกับชุดที่สวมใส่อยู่นั้น แต่ริมฝีปากของเธอกลับยิ้มนิดๆ ก่อนที่เธอจะหันกลับไปมองยังที่เตียง ที่มีบางอย่างวางอยู่

“นี่ก็ด้วย...” เธอเอ่ยทันทีที่หยิบกางเกงยีนส์ที่วางอยู่บนเตียงนั้นขึ้นมาดู ซึ่งมันเป็นกางเกงยีสต์ที่สั้นเอามากๆขึ้นมาดู และเป็นอีกชิ้นที่เธอต้องสวมใส่มันในวันนี้..

ไม่สิ มันไม่ใช่ของอีกชิ้นที่เธอจะสวมใส่ยังมีของ อีก 2 ชิ้น อย่าง กางเกงในที่ประกบกับท่อนควยปลอมนั้นได้อีกด้วย...แล้วที่เธอต้องมาสวมใส่ชุดบ้าๆในวันนี้นั้น เป็นเพราะสัญญาบ้าๆที่ตกลงไว้กับชายคนรัก แน่นอนว่า เธอสามารถเบี้ยวเขาได้ง่ายๆ หากต้องการ และเขาคงไม่กล้าหือกับเธอแน่...

แต่ที่เธอไม่ทำแบบนั้น เพราะอยากรู้ว่า วันนี้เขาจะทำกับเธออย่างสุดๆแค่ไหน เพราะตามข้อตกลง ตลอดวันนี้ทั้งวันเธอไม่ใช่ มาเฟียสาว แต่เป็นกระหรี่สาวของเขานั้นเอง...

ราวๆ 10 นาทีต่อมา..

“ช้าจังเลยนะ...” เสียงเชิงถามของกาย ชายคนรักของเธอที่ได้ยืนรอเธออยู่ที่รถ บริเวณที่จอดรถของคอนโด โดยที่ณัฐกานต์ก็เดินตรงมาหาเค้า และกล่าวตอบ..

“ก็คนมันระแวงนี่...ถึงนายจะล่วงหน้า ดูลาดเลาให้แล้วก็ตาม..” ณัฐกานต์ตอบ ซึ่งเธอก็อยู่ในชุดเสื้อโค้ท ยาวที่สามารถปกคลุมได้ทั่วทั้งร่างของเธอนั้น ก่อนที่เค้าจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มนิดๆ

“จริงๆ....ณัฐไม่เห็นต้องกลัวเลยนะ ถึงจะมีคนเห็น แต่เค้าก็ไม่น่าจะจำณัฐ ในตอนนี้ได้หรอก..” ถ้อยคำของเขานั้นก็ทำให้เธอจ้องมอง ถึงแม้มันจะเป็นดั่งที่เค้าว่ามาก็ตาม เพราะเธอไม่ได้แค่สวมใส่เสื้อโค้ทยาวตัวนี้เท่านั้น แต่มีการสวมวิก ผมสั้น สีผมออกน้ำตาลแดง และ สวมใส่แว่นสีดำ..จึงไม่น่ามีใครจะมองออกว่า เป็นเธออย่างแน่นอน.. 

“แล้วนี่ ณัฐ ใส่ชุดที่ผมเตรียมไว้มัย?..” เขาถามต่อ ซึ่งมันก็ทำให้เธอมองอย่างไม่พอใจ แต่ก็ตอบกลับทันที..

“ชั้นบอกไว้เลยนะ ว่าชั้นยอมใส่อะไรแบบนี้ ก็แค่วันนี้เท่านั้นนะ..” ณัฐกานต์ตอบพร้อมกับหันมองรอบๆ ว่า มีใครอยู่แถวนี้มัย? แล้วถึงค่อยทำการปลดเปลื้องเสื้อโค้ทที่สวมใส่อยู่นั้นออก เพื่อให้เขาได้เห็นว่า ภายใต้เสื้อโค้ทนั้น เธอได้สวมใส่ชุดที่เขาได้ตระเตรียมให้จริงๆ..



“พะ พวกกระหรี่ ที่นายอยากให้ชั้นเป็น เค้าแต่งตัวกัน แบบนี้เหรอ?...”ณัฐกานต์ร้องถามต่ออย่างเสียงสั่นๆด้วยความเขินอาย เพราะเค้าจ้องมองเธอที่สวมใส่ชุดสุดลามกนั้นอย่างเขม้งสุดๆ ไม่รู้ที่จ้องแบบนั้น เพราะมันลามก หรือ เพราะไม่อยากเชื่อว่าเธอจะสวมใส่มันจริงๆกันนะ?

“เรื่องนั้น ผมไม่รู้หรอก ผมก็แค่อยากให้ณัฐแต่งตัวแบบนี้ก็เท่านั้น..” เค้าตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ดูแล้วน่าหมั่นไส้ จนอยากจัดทั่วร์ดูปะการังให้ซะจริงๆ....
 
“นายนี่...โรคจิตกว่าที่ชั้นคิดอีกนะ..” ณัฐกานต์เอ่ยตอบด้วยท่าทีที่ยังคงหมั่นไส้กับท่าทีและน้ำเสียงของเขาซะจริงๆ ก่อนที่ไม่กี่อึดใจเธอจะต้องสะดุ้ง เมื่อเขาได้ทำการทดสอบว่า เธอได้สวมใส่มาครบตามที่เค้าต้องการรึเปล่า..

“วะ ว้ายยยยยยยยยยย!!!...” ณัฐกานต์ร้องอย่างเสียงหลง อย่างสะดุ้งสุดตัว จนแทบทรุดลงนั่งทันทีที่ เขาได้กดสวิตซ์รีโมท ให้เจ้าควยปลอมที่เธอได้สอดใส่มันไว้ที่หีนั้น ได้ทำงาน...

“กะ...กด กดปิดมันเดี๋ยวนี้เลยนะ...” ณัฐกานต์กลั้นใจเอ่ยเชิงสั่งออกมา เนื่องจากเขาไม่ได้กดเปิดการทำงานของเจ้าควยปลอมแบบธรรมดา หากแต่ดูเหมือนจะเปิดให้มันสั่นแบบแรงสุดๆด้วย ก่อนที่เขาจะทำการร้ายกาจกับเธอ โดยการไม่ปิดมัน แค่ลดระดับการสั่นของมันไว้แค่นั้น..

“ถ้าเหลือให้แค่นี้ พอไหวมัย?...” เขาถามกับเธอ ในขณะที่เธอพยายามลุกขึ้นยืน และตอบกลับอย่างมองหน้าของเขา

“พูดแบบนั้น แสดงว่า นายไม่คิดจะไม่ปิดมันสินะ...” ณัฐกานต์ถาม ด้วยน้ำเสียงที่ดูสั่นๆ เพราะยังคงเสียวๆจากการสั่นของเจ้าควยปลอมนั้นอยู่ ซึ่งเขาก็ตอบคำถามนั้นอย่างทันที

“อื้ออออออ..” เค้าตอบด้วยรอยยิ้ม ที่ชวนน่าจัดทัวร์ดูปะการัง หรือ ทัวร์ คุยกะรากมะม่วง ให้กับเค้าจริงๆ

“เอาละ ในเมื่อณัฐทำตามที่ผมสั่ง งั้นเราก็รีบออกเดินทางเลยดีกว่า อ้อ!! ผมจะให้ณัฐเป็นคนขับนะ..” เค้ากล่าวขึ้น พร้อมกับเตรียมขึ้นรถทางฝั่งที่นั่งข้างๆคนขับแน่นอนว่า คำกล่าวนั้นก็ทำให้ ณัฐ ถึงกับอึ้งเอ่ยร้องออกมาด้วยความตกใจ..

“หา!!!!!...” ณัฐกานต์เอ่ยร้อง พร้อมกับจ้องมองเขา และเมื่อเห็นว่า เขาเอาจริง เธอก็ได้แต่ทำตามแต่ว่าง่าย..

“ไปพัทยาใช่มัย?....” เธอถามเขาทันทีที่ขึ้นมานั่ง ยังที่นั่งคนขับแล้วนั้น..

“ใช่ จุดหมายคือ โรงแรมxxxxx…” คำตอบของเขาก็ทำให้เธอชะงักไปแวบแล้วหันมาร้องถามกลับทันที..

“โรงแรมxxxx??? เป็นโรงแรมที่ฝรั่งมาพักกันเยอะไม่ใช่เหรอ? นี่นายจะพาชั้นไปให้พวกฝรั่งรุมโทรมจริงๆสินะ..” ณัฐกานต์ร้องถาม ทั้งๆที่เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่า อย่างเค้าคงไม่กล้าทำอะไรกับเธอแบบนั้นหรอก แต่ต้องการแหย่เขาเพื่อความสนุกส่วนตัว...

“ผมไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า...” เค้าตอบกลับ แต่เธอยังแหย่เค้าต่อ..

“ไม่เชื่อนายหรอก ขนาดกล้าให้ชั้นแต่งชุดน่าอายแบบนี้ได้ แสดงว่า ต้องมีอะไรอีกแน่ๆ..” เธอเอ่ยด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง แต่ในใจกลับยิ้มแย้ม และอยากรู้จริงๆว่า เขาจะเตรียมทำอะไรกับเธอในวันนี้บ้างนะ?..

“ก็บอกแล้วไงครับ ว่าผมไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก...” เขาตอบอย่างยืนกรานเช่นเดิม ซึ่งมันก็เป็นถ้อยคำที่ชวนน่าเบื่อนิดๆนะ มันคงดีถ้าเขาจะรับมุขเธอ แล้วตอบกลับอย่างทีเล่นทีจริงให้เธอหวิวๆบ้างอย่าง 

‘ใช่!! ผมจะทำแบบนั้นเตรียมใจไว้ได้เลย..’

“เฮ้อ...ใครจะไปรู้ละ อีกอย่างวันนี้...ชั้น เป็นเพียง..กระ...หรี่ ของนายนี่...” ณัฐกานต์ตอบอย่างตะกุกตะกักเล็กน้อย อย่างสีหน้าระเรือแดง พร้อมกับตบเกียร์เพื่อออกรถอย่างทันที โดยที่เค้าก็ได้แต่เอ่ยพึมพำเบาๆ

“นั้นสินะ วันนี้ณัฐเป็นเพียง...กระหรี่ของผมนี่นะ...”

.

.

.

“นี่กาย ชะ ช่วยปิดเจ้าควยปลอมนี่ได้รึเปล่า?....” ณัฐกานต์เอ่ยขึ้น หลังจากทำการขับรถอยู่พักหนึ่งนั้น และสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเอ่ยแบบนี้ เพราะเจ้าควยปลอมที่ทำการสั่นเบาๆนั้น มันค่อนข้างรบกวนสมาธิการขับรถของเธอเอามากๆ...

นอกจากรบกวนแล้ว ยังทำให้เธอเริ่มเงี่ยนขึ้นเรื่อยๆด้วย ถึงจะยังไม่ได้ก้มลงมองดูตัวเอง แต่ก็เชื่อว่า ในตอนนี้ หัวนมของเธอนั้น คงตั้งชั่นสุดๆเป็นที่เรียบร้อยแล้วละ จากความรู้สึกนะ...

“ไม่ครับ..” เค้าตอบกลับทันทีด้วยรอยยิ้มที่น่าหมั่นไส้ เป็นครั้งที่ 3  ซึ่งณัฐกานต์ก็ไม่ได้เซ้าซี้ ในเมื่อเค้าไม่ยอมปิด ก็ไม่ได้ว่าอะไรถึงแม้จะทำท่าทีงอนๆใส่เขาไปก็ตาม...

หลังจากนั้นอีกพักหนึ่งได้ อยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของณัฐ นั้นก็ดังขึ้น ทำเอา ทั้งเขาและเธอพากันสะดุ้งสุดตัว เพราะช่วงเวลานั้นต่างคนต่างเงียบ เพลงก็ไม่ได้เปิด...

แล้วคนที่โทรเข้ามาหาณัฐนั้นก็คือ นายเจ๋ง บอดี้การ์ดของเธอ...

“ฮัลโหล...” ณัฐกานต์เอ่ย หลังกดรับสายดังกล่าว ก่อนที่จะอึ้งๆ เมื่อบอดี้การ์ดของเธอ โทรมาแจ้งว่า ‘มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น’ ซึ่งถ้าเป็นยามปกติแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือ เรื่องคิดมากเท่าไร ก็แค่ไปหาเขา ไปสั่งการ ไปแก้ปัญหา ก็จบ...

แต่เพราะวันนี้มันไม่ปกติไง อย่างน้อยๆก็สภาพชุดที่สวมใส่อยู่ตอนนี้ ถ้าขืนไปทั้งแบบนี้ละก็...

“กาย.... ทำไงดีละ เหมือนจะมีปัญหา แล้วนายเจ๋ง อยากให้ชั้นเข้าไปตัดสินใจให้หน่อย...” ณัฐกานต์จึงหันไปร้องถามกับชายหนุ่ม หลังจากวางสายไปนั้น แน่นอนว่าทาง ‘กาย’ เค้าก็มีท่าทีตกใจเอามากๆเช่นกัน แต่เค้ากลับมีสติและคิดหาวิธีการให้กับเธอได้เร็ว...

“ก่อนอื่น ก็หาที่เปลี่ยนชุดก่อน แล้วค่อยไปหานายเจ๋ง..” เขาเอ่ยเชิงบอกออกมา ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอถึงกับชะงัก กับการมีสติ แลบะการแก้ไขปัญหาของเขา ก่อนที่จะร้องถามเขากลับไป..

“อืมมมม นั้นสินะ...ว่าแต่ที่ไหนดีละ..”

“เปลี่ยนมันในรถนี่เลยก็แล้วกัน เดี๋ยวผมไปหยิบกระเป๋า จากนั้นผมจะเป็นคนขับรถให้ ระหว่างนั้นณัฐก็จัดการเปลี่ยนชุด แต่งหน้าให้ดูเป็นปกตินะ..” เขาตอบ ซึ่งมันก็ทำให้ณัฐกานต์ตกใจไม่น้อย..

“เปลี่ยนในรถนี่เลยเหรอ!!..” ณัฐกานต์เอ่ยร้อง เพราะเธอไม่เคยทำแบบนั้นเลย ถึงแม้มันไม่น่ามีปัญหาใดๆเพราะกระจกรถของเธอนั้นมันทึบ ซึ่งภายนอกนั้น ไม่สามารถมองเข้ามาข้างในได้..ส่วนเรื่องเขินอาย อาจจะมีบ้าง แต่ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะต่างฝ่ายก็ต่างเคยเห็นของกันและกันมาหมดแล้ว..

พอตกลงวิธีการกันได้ ทาง นายกาย ก็รีบลงจากรถ เพื่อไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้า เพื่อหาเสื้อผ้าปกติให้กับเธอ แต่ในระหว่างนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีกครั้ง ซึ่งคนที่โทรมาก็คือ นายเจ๋ง ...

“ไม่ต้องแล้วละกาย....เมื่อกี้นายเจ๋งโทรมาบอกว่า ชั้นไม่ต้องมาแล้วละ...” ณัฐญกานต์เอ่ยอย่างยิ้มอ่อนๆให้กับเค้า ซึ่งนั้นก็ทำให้เค้าชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกลับมายังที่นั่งข้างคนขับ และเอ่ยออกมา..

“ให้ตายเถอะ....”

“ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้วุ่นวาย....” เธอเอ่ยอย่างมองเค้ายิ้มๆ ซึ่งดูเหมือนเหตุการณ์นั้นจะทำให้เค้าร้อนใจพอดูเลย ดูจากเหงื่อของเขาที่แตกพล่านนั้น

“ไม่เป็นไรหรอก...ยังไงมันเป็นเรื่องที่ผมต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว..” เขาตอบกลับทันที..


“นั้นสินะ เพราะนายเป็นคนสั่งให้ชั้นต้องใส่ชุดแบบนี้นี่ แต่เหตุการณ์เมื่อกี้ ทำให้ชั้นรู้ว่า ชั้นก็พึ่งนายได้เหมือนกันนะ..” ณัฐกานต์เอ่ย พร้อมกับยิ้มหวานให้กับเขา ถ้าพูดกันตามตรง เรื่องความสามารถคิดเร็วของเขานี่ มันก็เป็นเรื่องที่เธอพอรู้อยู่เหมือนกัน ในช่วงที่ยังทำงานกับเขานั้น..

“พูดเกินไปแล้ว...พึงพาอะไร..” เค้าตอบกลับอย่างถ่อมตัว..

“ไม่พึงพาได้จริงๆ เพราะเมื่อกี้ชั้นตกใจจนคิดอะไรไม่ออก แต่นายกลับคิดออกได้ไวกว่าชั้นซะอีก..” ณัฐกานต์ตอบ จะว่าไปนี่น่าจะครั้งที่ 3 แล้วมัง ที่ความคิดเร็วของตานี่ช่วยเราไว้ เพราะสมัยที่ทำงานด้วยกัน เค้าก็เคยช่วยเธอไว้แบบนี้อยู่ 1-2 ครั้งเหมือน อืมมม...จะเรียกว่า ช่วย หรือ หักหน้า ดีละ?

“เราเดินทางกันต่อดีกว่า..” เค้าตัดบทอย่างยิ้มๆ แต่ก็พอรับรู้ได้ว่ากำลังเขินอยู่แน่ๆ ซึ่งณัฐกานต์ก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อด้วย ก่อนที่จะออกเดินทางกันต่อ....

To....be....ตอนที่ 2

ผู้แต่ง

อันมุมมองปกตินั้น ส่วนใหญ่จะแก้ไข-เพิ่มเติม แต่อันนี้จะต่างไป คือ แต่งใหม่หมด เพราะของเดิมมันมีแค่ในช่วงท้ายๆบท แต่ฉบับนี้อย่างที่เห็นตั้งแต่เริ่มเดินทางกันเลย...

จะพยายามลงพร้อมกัน 2 มุมมองแบบนี้ ซึ่งต้นฉบับมุมมองปกตินะ มันเรียบร้อยแล้ว หลายคนอาจจะได้อ่านกันไปแล้ว คือ ทำการแจกไฟล์ทั้งเรื่องไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ใน FB และทวิต ส่วนมุมมองของณัฐ เพิ่งจะปั่นถึงตอน 3 เอง 

ป.ล. ใครอยากอ่านมุมมองณัฐ ตอน 2 ไปหาอ่านแบบเรียกน้ำย่อย ใน FB และ ทวิต นะครับ เพราะกว่าจะลง น่าจะอย่าง น้อย 2 อาทิตย์ เพราะเนื้อหาตอน 2 ของฝั่งณัฐ มันเล่าถึงเหตุการณ์ในปั๊ม...ซึ่งทางฝั่งนายกาย กว่าจะเข้าปั๊ม ก็ราวๆ ตอน 4 ได้  หรือตอน 2 ของฝั่งณัฐจะมาหลังตอน 4 นั้นเอง...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น