กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้

กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้ ห้ามก็อปไปเผยแผ่ที่ไหน // อ่านแล้ว ตอบ "ขอบคุณ" สักนิด...เพื่อกำลังใจน้อยๆ

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ผมเป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง again!!. Extra Chapter 1 พัทยา (ฉบับ2021) ตอน 1

ผมเป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง again!!..

Extra Chapter 1 พัทยา (ฉบับ2021)

ตอนที่ 1 เริ่มต้นการผจญภัย 

สวัสดีครับ ผม ”กาย” เองครับ คราวนี้ผมจะมาเล่าเรื่องที่ติดค้างไว้เนิ่นนานอย่าง เหตุการณ์ที่ผมพาณัฐกานต์ มาเฟียสาว ไปยังพัทยา ในฐานะกระหรี่ส่วนตัวของผม ตามที่ผมได้บอกกับเธอไว้เมื่อคืน  (**หมายถึงคืนในตอนที่ 1 ภาค again **) และเหตุการณ์นี้ มันจะมีเรื่องราวหวาดเสียวขนาดไหน ก็เชิญชมได้เลยครับ...

“ช้าจังเลยนะ...” ผมเอ่ยเชิงทัก แก่มาเฟียสาวแสนสวยที่กำลังเดินตรงมาหาที่ยืนรออยู่ที่รถ ณ.ที่จอดรถของคอนโดหรูนั้น ซึ่งทางณัฐกานต์ มาเฟียสาวคนสวย ที่อยู่ในชุดเสื้อโค้ทยาวที่คลุมทั้งร่างของเธอนั้น ก็เอ่ยตอบทันที เมื่อเดินมาถึง..

“ก็คนมันระแวงนี่...ถึงนายจะล่วงหน้า ดูลาดเลาให้แล้วก็ตาม..” เธอตอบ ด้วยสีหน้าที่ดูระเรือแดงนิดๆ และมีท่าทีหอบหน่อยๆ แน่นอนว่า ท่าทีและคำตอบของเธอนั้น ก็ทำให้ผมอมยิ้มหน่อยๆ ก่อนจะเอ่ยตอบกลับทันทีเช่นกัน..

“จริงๆ....ณัฐไม่เห็นต้องกลัวเลยนะ ถึงจะมีคนเห็น แต่เค้าก็ไม่น่าจะจำณัฐ ในตอนนี้ได้หรอก..” ผมตอบอย่างจ้องมองเธออย่างยิ้มๆ ซึ่งณัฐกานต์ก็จ้องมองผมตอบ อย่างพูดไม่ออก เนื่องจากรูปลักษณะภายนอกของเธอในตอนนี้นั้น ได้มีปลอมแปลงเพื่อปกปิดตัวตนของเธออย่าง นิดๆหน่อยๆ เช่น สวมวิก ผมสั้น สีผมออกน้ำตาลแดง กับการ ใส่แว่นตาดำ...


“แล้วนี่ ณัฐ ใส่ชุดที่ผมเตรียมไว้มัย?..” ผมร้องถาม ด้วยรอยยิ้ม ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอ แสดงสีหน้าเชิงไม่พอใจออกมา แล้วตอบคำถามของผม..

“ชั้นบอกไว้เลยนะ ว่าชั้นยอมใส่อะไรแบบนี้ ก็แค่วันนี้เท่านั้นนะ..” ณัฐกานต์ตอบ พร้อมกับหันมองรอบๆ ว่า มีใครอยู่แถวนี้มัย? แล้วถึงค่อยทำการปลดเปลื้องเสื้อโค้ทที่สวมใส่อยู่นั้นออก 

และนั้นก็ทำให้พบว่า ภายใต้เสื้อโค้ทดังกล่าวนั้น เธอได้สวมใส่ชุดที่ผมเตรียมไว้ให้กับเธอจริงๆ มันเป็นชุดที่ผมเตรียมไว้นานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสให้เธอได้ลองใส่เลย..

“พะ พวกกระหรี่ ที่นายอยากให้ชั้นเป็น เค้าแต่งตัวกัน แบบนี้เหรอ?...” ณัฐกานต์เอ่ยปากร้องถาม ด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ ขณะที่ผมยังคงจ้องมองชุดที่ผมเป็นคนเตรียมให้เธอสวมใส่นั้น ซึ่งมันเป็นชุดที่ค่อนข้างโป๊เอามากๆ เพราะท่อนบน มันเป็น เสื้อสีดำ ที่ค่อนข้างรัดรูป และเอาสั้นมากๆ.. 

ถ้าจะถามว่า มันรัด และสั้นสั้นขนาดไหนนะเหรอ? มันรัดชนิดที่เน้นเห็นนมของณัฐเป็นลูกๆอย่างเน้นๆเลยละ ส่วนสั้นนั้น ก็สั้นชนิดที่ โชว์เต้านมขาวๆของเธอ ให้เห็น ถึงครึ่งเต้า เลย....

ใช่.... เจ้าเสื้อรัดรูปตัวดั่งกล่าวนั้นมันปิดถึงแค่หัวนมของเธอเท่านั้น

ส่วนช่วงล่าง ผมให้เธอสวมใส่ กางเกงยีนส์ที่สั้นสุดๆ สั้นชนิด เสมอ...  


(ชุดที่ณัฐ สวมใส่นั้นก็จะประมาณนี้ แต่ตัวเสื้อจะโชว์นมครึ่งเต้า..)


“เรื่องนั้น ผมไม่รู้หรอก ผมก็แค่อยากให้ณัฐแต่งตัวแบบนี้ก็เท่านั้น..” ผมตอบ ด้วยรอยยิ้ม และมันก็เป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้สายเที่ยว ผมจะไปรู้ได้ไง ว่า กระหรี่เค้าแต่งตัวแบบไหน? ที่ให้ณัฐเค้าใส่ชุดแบบนี้ เพราะใบสั่งตามบท? เฮ้ย ไม่ใช่ เพราะความต้องการของผมเอง....

“นายนี่...โรคจิตกว่าที่ชั้นคิดอีกนะ..” ณัฐกานต์ที่จ้องมองหน้าผมนั้น ก็เอ่ยตอบ ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับถ้อยคำดังกล่าวของเธอ เนื่องจากบ่อยครั้งที่ผมถูกเธอยัดเยียดว่า เป็น ‘โรคจิต’ ทั้งๆที่ไม่ได้โรคจิตเลย จะมี ก็ครั้งนี้แหละที่ผมยอมรับว่า ผมโรคจิตจริงๆ...

โดยผมก็ไม่ได้เอ่ยโต้ตอบอะไรกลับไป นอกจากจะยิ้มให้กับณัฐกานต์ ก่อนจะทำการตรวจสอบต่อทันที ว่า เธอทำตามที่ผมสั่งไว้ครบหรือไม่?

“วะ ว้ายยยยยยยยยยย!!!...” ณัฐกานต์ร้องอย่างเสียงหลง อย่างมีท่าทีสะดุ้งสุดตัว จนแทบล้มลงนั่งกับพื้น ทันทีที่ผมได้ทำการกดสวิตซ์บางอย่าง ซึ่งท่าทีของเธอนั้นก็เป็นเครื่องบงชี้กลายๆว่า เธอได้ทำตามที่ผมสั่งไว้ คือ ได้สอดใส่ดิ้ลโด้(ควยปลอม) เอาไว้ในหีของเธอ...

“กะ...กด กดปิดมันเดี๋ยวนี้เลยนะ...” เธอที่ทรุดลงนั่งกับพื้นก็ยื่นมือมาเกาะแข้งขาผม และเอ่ยเชิงสั่งด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูเหมือนทรมานอย่างหนัก ซึ่งผมที่จ้องมองเธอนั้นก็ถึงกับยิ้มแย้ม และทำตามความต้องการของเธอ แต่ก็ไม่ได้ทำตามแบบแป๊ะๆหรอกนะ เพราะผมไม่ได้ปิดมัน เพียงแต่ลดระดับความสั่นให้เหลือระดับต่ำสุดเท่านั้น...

“ถ้าเหลือให้แค่นี้ พอไหวมัย?...” ผมร้องถาม หลังทำการลดระดับความสั่นลง ซึ่งณัฐกานต์ก็จ้องมองหน้าผม ด้วยสีหน้าที่ดูดีขึ้น ก่อนจะขยับลุกขึ้นยืนและเอ่ยเชิงถามกับผม..

“พูดแบบนั้น แสดงว่า นายไม่คิดจะไม่ปิดมันสินะ...” เธอร้องถาม ด้วยสีหน้าท่าทีที่ยังคงมีปฎิกริยานิดๆกับการสั่นของควยปลอมอยู่บ้าง แต่ไม่หนักเท่าเมื่อกี้...

“อื้อออออออ..” ผมตอบด้วยรอยยิ้ม ท่ามกลางสีหน้าค้อนๆของณัฐกานต์ที่แสดงแทบทันที หลังผมทำการตอบคำถามของเธอนั้น ....

“เอาละ ในเมื่อณัฐทำตามที่ผมสั่ง งั้นเราก็รีบออกเดินทางเลยดีกว่า อ้อ!! ผมจะให้ณัฐเป็นคนขับนะ..” ผมกล่าวต่อ ด้วยรอยยิ้ม และมันก็ทำให้ณัฐกานต์ที่ยังคงงอนค้อนๆให้กับการแกล้งของผมนั้น ถึงกับหันกลับมาอย่างเอ่ยร้องในทันที...

“หา!!!!!...” เธอร้อง แต่ถึงกระนั้น ก็ทำตามที่ผมต้องการแต่โดยดี....

“ไปพัทยาใช่มัย?....” ณัฐกานต์ถามขึ้น หลังขึ้นมาประจำที่นั่งคนขับ ซึ่งผมที่นั่งข้างๆนั้นก็ยิ้ม และเอ่ยตอบ...

“ใช่.....จุดหมายคือ โรงแรมxxxxx…”

“โรงแรมxxxx??? เป็นโรงแรมที่ฝรั่งมาพักกันเยอะไม่ใช่เหรอ? นี่นายจะพาชั้นไปให้พวกฝรั่งรุมโทรมจริงๆสินะ..” ณัฐกานต์เอ่ยตอบเชิงถาม ขณะทำการขับรถออกไปจากคอนโดซึ่งเป็นที่พักของพวกเรา....

“ผมไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า...” ผมตอบถ้อยคำนั้นของเธอทันที ซึ่งเธอก็เอ่ยตอบกลับทันทีเช่นกัน

“ไม่เชื่อนายหรอก ขนาดกล้าให้ชั้นแต่งชุดน่าอายแบบนี้ได้ แสดงว่า ต้องมีอะไรอีกแน่ๆ..” เธอเอ่ยอย่างกล่าวหา ถ้าพูดกันตรงๆ เธอกล่าวหาผมมาตั้งแต่เมื่อคืนแหละ แต่ผมไม่ได้เตรียมการอะไร ในแบบที่เธอกล่าวหาแม้แต่นิดเดียว...ก็ ใครมันจะไปกล้า พามาเฟียสาวไปโดนโทรมละ?? แค่ให้เธอใส่ชุดน่าอายนี่ ก็เหมือน เดินลงหลุมเตรียมโดนกลบแล้ว..

ใช่......ถ้านายเจ๋ง บอดี้การ์ดของนางรู้ เรื่องนี้ละก็ ผมคงได้นอนคุยกะรากมะม่วงแน่ๆๆ....(ถ้าไม่ไปคุยกะรากมะม่วงก็ นอนเป็นปะการังที่อ่าวไทยละ..)

“ก็บอกแล้วไงครับ ว่าผมไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก...” ผมเอ่ยอย่างยืนกราน แต่ณัฐกานต์ยังคงตอบกลับอย่างเชื่อว่า ผมจะทำอะไรสักอย่างกับเธอแน่ๆ

“ใครจะไปรู้ละ อีกอย่างวันนี้...ชั้น เป็นเพียง..กระ...หรี่ ของนายนี่...” เธอตอบ ด้วยท้ายประโยคที่ค่อนข้างตะกุกตะกักเล็กน้อย ซึ่งถ้อยคำนั้นของเธอ ก็ทำเอาผมทั้งชะงัก และยิ้มแย้มในคราวเดียวกัน...

“นั้นสินะ วันนี้ณัฐเป็นเพียง...กระหรี่ของผมนี่นะ...” ผมเอ่ยอย่างยิ้มๆ ก็อย่างที่ ผมและเธอเอ่ยเมื่อกี้ วันนี้เธอไม่ใช่ มาเฟียสาวแสนน่ากลัวคนนั้น แต่เป็น กระหรี่ ที่ผมเช่าซื้อมา.....ซึ่งวันนี้ ผมมีสิทธิ์สั่งอะไรเธอก็ได้....ถึงกระนั้นการจะสั่ง หรือ จะให้เธอโดนฝรั่งรุมโทรม มันเป็นอะไรที่เกินไปหน่อยรึเปล่า?? 

ถึงแม้ในใจลึกๆของผมนั้น ก็รู้สึกสนใจ และอยากเห็นเหมือนกัน ภาพ ของณัฐกานต์ที่โดนฝรั่งรุม โดนฝรั่งกำยำ ไม่ก็นิโกรจับอุ้มแตง แล้วโดนพวกมัน กระแทกท่อนเอ็นเข้ายังรูหน้า รูหลัง พร้อมกัน มันต้องเป็นอะไรที่น่าดูมากๆแน่ๆ....

แต่.....ไม่เอาดีกว่า ถึงแม้มันจะมีโอกาสที่จะได้เห็นภาพนี้ เพราะดูแล้วเธอไม่น่าจะขัดใจผมก็ตาม แต่ผมเชื่อว่า มันไม่คุ้มอย่างแน่นอน อีกอย่าง การละเล่นวันนี้ มันก็มีข้อแลกเปลี่ยนหน่อยๆ ด้วย คือ ครั้งนี้ เธอยอม ตามใจผม ครั้งถัดไป ผมต้องเป็นฝ่ายยอมเธอบ้าง ซึ่งตรงนี้ละที่ผมไม่รู้ เกิดครั้งนี้ผมทำอะไรเธอหนักๆละก็ ไม่อยากคิดถึงตอนที่เธอเอาคืนเลย... 

ฉะนั้น อย่าไปทำอะไรที่มันเสี่ยงกว่านี้เลย ทำตามเป้าหมายเดิมของเรา เป็นดีที่สุด...แล้วเป้าหมายของผม ในวันนี้ก็คือ การอยากเห็น ความร่านสุดๆของณัฐกานต์นะครับ ถึงให้เธอใส่เสื้อผ้าสุดน่าอาย พร้อมเสียบดิ้ลโด้ที่หมายจะให้มันปลุกปั่นอารมณ์เธอทั้งวัน อยากรู้จริงๆว่า คืนนี้ เธอจะเผ็ดร้อนขนาดไหน...ไม่สิ...บางทีอาจจะไม่ต้องรอให้ถึงตอนกลางคืนก็ได้....เพราะสภาพของณัฐกานต์ในเวลานี้ ก็เหมือนจะเริ่มมีอารมณ์พอสมควรแล้ว...

โดยผมนั้นก็แอบมองเธอที่ขับรถให้ผมอย่างเป็นระยะ ซึ่งจะเห็นว่า เธอเริ่มแสดงท่าทีอย่างมีอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีการครางเบาๆ และหายใจแรง ไหนจะหัวนมที่ตั้งชั่นจนแทบจะทะลุเจ้าเสื้อครึ่งเต้าอันแสนรัด ตัวนั้นอยู่แล้ว..
 
“นี่กาย ชะ ช่วยปิดเจ้าควยปลอมนี่ได้รึเปล่า?....” ณัฐกานต์ที่ขับรถอยู่ครู่หนึ่งนั้น ก็เอ่ยร้องขอขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

แต่คำร้องขอดังกล่าวนั้นก็ถูกผมตอบกลับอย่างทันทีด้วยรอยยิ้ม...

“ไม่ครับ..” คำตอบของผม ก็ทำให้เธอ มีท่าที งอนๆค้อนๆ ใส่ พร้อมกับทำการขับรถดังกล่าวต่อไป 

ท่ามกลางสายตาของผมที่จ้องมองท่าทีอันเสียวซ่านที่โดนควยปลอมนั้นเล่นงานอย่างยิ้มๆ...

ใช่...มองอย่างไม่ละสายตา ก่อนที่ ผมและเธอต่างสะดุ้ง ตกใจให้กับ เสียงโทรศัพท์มือถือของณัฐกานต์ที่ได้ดังขึ้น..และคนที่โทรมาหาเธอนั้น ก็คือ นายเจ๋ง......

“ฮัลโหล...” ณัฐกานต์ หลังกดรับสายก่อนที่สีหน้าของเธอจะดูเปลี่ยนสีหน่อยๆ ซึ่งเธอคุยไปเพียงเดี๋ยวเดียวเท่านั้น และจึงค่อยวางสาย และหันมาร้องถามกับผม (ตั้งแต่ตอนที่เธอกดรับสาย เธอก็ได้เลี้ยวรถจอดยังข้างทางแล้ว..)

“กาย.... ทำไงดีละ เหมือนจะมีปัญหา แล้วนายเจ๋ง อยากให้ชั้นเข้าไปตัดสินใจให้หน่อย...” ณัฐกานต์ที่หันมาร้องถามกับผม ซึ่งนั้น ก็ทำให้ผมถึงกับตกใจเช่นกัน...จริงๆแล้ว สิ่งที่เธอร้องถามนั้น มันเป็นเรื่องปกติที่เจอได้บ่อยๆ จนไม่น่าที่จะหันมาเอ่ยถามกับผม แต่ที่เธอหันมาร้องถามนั้น ก็เพราะ สภาพของเธอในเวลานี้ มันค่อนข้างโป๊เอามากๆ และดูไม่เหมาะสมที่จะไปหาพวกลูกน้องในสภาพแบบนี้เลย...


โดยผมที่เข้าใจถึงเหตุผลการร้องถามของเธอนั้น ก็ต้องรีบคิดรีบตัดสินใจแทนเธอ ถึงแม้จะเครียดเช่นกันก็ตาม...

“ก่อนอื่น ก็หาที่เปลี่ยนชุดก่อน แล้วค่อยไปหานายเจ๋ง..” ผมที่รีบคิดนั้น ก็รีบเอ่ยตอบ...เพราะณัฐกานต์ยังมีชุดอื่นๆ ที่อยู่ในกระเป๋าสัมภาระที่ผมได้ขนใส่รถ ก่อนที่เธอจะตามมาที่รถนั้นเอง...

“อืมมมม นั้นสินะ...ว่าแต่ที่ไหนดีละ..” ณัฐกานต์ถามต่อ ซึ่งคำถามนี้มัน ก็เป็นคำถามที่ยากเหมือนกัน.

“เปลี่ยนมันในรถนี่เลยก็แล้วกัน เดี๋ยวผมไปหยิบกระเป๋า จากนั้นผมจะเป็นคนขับรถให้ ระหว่างนั้นณัฐก็จัดการเปลี่ยนชุด แต่งหน้าให้ดูเป็นปกตินะ..” ผมตอบเชิงตัดสินใจแทนเธอ ซึ่งถ้อยคำของผมนั้น ก็ทำให้ณัฐกานต์ถึงกับร้องถามอย่างตกใจ

“เปลี่ยนในรถนี่เลยเหรอ!!..” เธอร้องอย่างตกใจ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมทำตามที่ผมว่า หลังจากเธอยอมทำตามคำแนะนำของผมนั้น ผมก็ลงจากรถเพื่อไปหยิบกระเป๋าสัมภาระที่อยู่ท้ายรถ และในระหว่างที่หยิบนั้น ผมก็ได้ยินเสียงเหมือนโทรศัพท์มือถือของณัฐกานต์จะดังขึ้นอีกครั้ง...

และทันทีที่ผมกลับมา พร้อมกับนำกระเป๋าสัมภาระวางยังที่เบาะหลัง เพื่อให้ณัฐกานต์เปลี่ยนชุดที่ดีกว่านี้นั้น....เธอก็ได้เอ่ยบอกกับผมว่า....

“ไม่ต้องแล้วละกาย....เมื่อกี้นายเจ๋งโทรมาบอกว่า ชั้นไม่ต้องมาแล้วละ...” ณัฐกานต์เอ่ยเชิงบอกกับผมอย่างยิ้มจางๆ และนั้นก็ทำให้ผมโล่งใจ ก่อนจะกลับมานั่งยังที่นั่งข้างคนขับ และเอ่ยอย่างปลดปล่อยออกมา...

“ให้ตายเถอะ....”

“ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้วุ่นวาย....” ณัฐกานต์เอ่ยขึ้น ขณะที่มองผมที่แสดงท่าทีที่โล่งใจนั้น

“ไม่เป็นไรหรอก...ยังไงมันเป็นเรื่องที่ผมต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว..” ผมที่หันมาเอ่ยตอบ พร้อมกับครุ่นคิด ว่า หากไม่มีชุดอื่น และพาณัฐกานต์ไปทั้งๆชุดนี้นี่ สงสัยโดนสอบสวน และโดนนายเจ๋ง ฆ่าตายแหงๆๆ....

“นั้นสินะ เพราะนายเป็นคนสั่งให้ชั้นต้องใส่ชุดแบบนี้นี่ แต่เหตุการณ์เมื่อกี้ ทำให้ชั้นรู้ว่า ชั้นก็พึ่งนายได้เหมือนกันนะ..” เธอเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียง และท่าทีที่ชำเลืองผม ซึ่งมันทำให้เธอดูสวยเอามากๆ...

“พูดเกินไปแล้ว...พึงพาอะไร..” ผมตอบกลับ และไม่ทันจะตอบจบ ณัฐกานต์ก็แย้งกลับทันที..

“ไม่พึงพาได้จริงๆ เพราะเมื่อกี้ชั้นตกใจจนคิดอะไรไม่ออก แต่นายกลับคิดออกได้ไวกว่าชั้นซะอีก..” เธอตอบพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวนั้น ก็ทำเอาผมแย้งเธอไม่ออกจริงๆ ได้แต่ตัดบทและเอ่ยเชิงบอกกับเธอว่า...

“เราเดินทางกันต่อดีกว่า..” ผมเอ่ยตัดบทอย่างยิ้มๆ แล้วจากนั้น พวกเราก็มุ่งหน้าไปยังพัทยากันต่อ...

To...be...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น