กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้

กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้ ห้ามก็อปไปเผยแผ่ที่ไหน // อ่านแล้ว ตอบ "ขอบคุณ" สักนิด...เพื่อกำลังใจน้อยๆ

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ผมกลายเป็นคนเอา เพื่อนเอาฝูง ภาค 8

ผมกลายเป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง ภาค 8

หวัดดีครับเพื่อนๆ ผม กาย เอาเพื่อนคนเดิม จะไม่ขอเกริ่นอะไรมาก ขอเชิญรับชมเรื่องราวของผมต่อกันเลยนะครับ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ต่อเนื่องจากครั้งก่อน(ภาค7) หลังจากที่ผมได้รับคำแนะนำจาก คุณแว่น เพื่อนสาวเพี้ยนๆของตาล ผมก็กลับมาครุ่นคิดทั้งคืนอย่างกังวล...

เนื่องจากคำแนะนำของเธอนั้น คือ การให้ไปขอความช่วยเหลือแก่ ณัฐกานต์ เพื่อนสาวที่ทำงานของผม ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้มีอิทธิพลของจังหวัดนนทบุรี...และทำไมผมถึงต้องคิดหนัก ก็คราวก่อน (ภาค4) แค่สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเล็กน้อยๆผมก็ถูกการ์ดเธอหิ้วและเกือบโดนจับนั่งยางแล้ว มันยังทำให้ผมเสียวสันหลังไม่หายเลย...

ถึงแม้หลังเหตุการณ์ในภาค 4 มันจะทำให้ท่าทีของณัฐกานต์ที่มีต่อผม ดูเปลี่ยนไปนิดๆ (ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า?) แต่เราก็ไม่ได้มีปากเสียงเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว และหลังเหตุการณ์นั้นผมก็ยังไม่ได้พูดคุยกับเธออย่างเต็มๆซะครั้งเลย

มันจะน่าเกลียดไปมัย พอมาพูดกับเธออีกที คือ การมาขอความช่วยเหลือแก่เธอเนี่ย...


ผมใช้เวลาที่เหลือในวันหยุดในการคิด วิธีเข้าไปพูดกับเธอ(ณัฐกานต์) จนกระทั้งเวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่ต้นสัปดาห์การทำงาน ซึ่งผมก็ไปทำงาน โดยที่ยังคิดหาวิธีเข้าไปพูดกับณัฐกานต์ไม่ออกเลย..แถมผมคิดมากจนทำให้ลืมเรื่องสำคัญอีกอย่าง ที่คุณแว่นได้เตือนไว้....

ตลอดทั้งวันผมก็แอบมองเธอ(ณัฐกานต์) อยู่หลายครั้งเพื่อคิดวิธีเข้าไปหา ไปขอความช่วยเหลือ ที่ดูไม่น่าเกลียดเกินไป และไม่รู้ผมคิดไปเองด้วยรึเปล่า? แต่ผมรู้สึกว่า วันนั้น ทางณัฐกานต์เองก็เหลือบมองผมอยู่หลายครั้งเช่นกัน??

สุดท้ายทั้งวันของวันจันทร์ก็จบลงตรงที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ด้วยความที่ไม่กล้า และยังคงกลัวถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นอยู่ เล่นทำเอาผมโมโห และโวยวายใส่ตัวเอง ถึงความไม่เอาไหนของตัวเองอยู่เหมือนกัน....และตั้งใจใหม่ว่า พรุ่งนี้แหละ พรุ่งนี้ต้องทำให้ได้...

ถึงแม้ผมจะตั้งมั่นมาซะดิบดีก็ตาม แต่พอเอาเข้าจริงทุกอย่าง ก็กลับเข้ารอยเดิม จนน่าโมโหตัวเองอย่างสุดๆ ใช่ ได้แต่มอง และมีท่าทียึกยักอย่างไม่กล้า จนกระทั้ง เวลาได้ผ่านไปเข้าสู่ช่วงกลางวัน..ในขณะที่ ผมและ พวกเพื่อนๆ กำลังสอบถามและตกลงกันว่า กลางวันนี้ จะพากันไปทานที่ไหน?

ทีแรกผมกะจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าไปหาณัฐกานต์ ใช่...กะจะทิ้งเพื่อนฝูงกินข้าวกับสาว แต่ไม่ทันที่ผมจะลงมือ ทำอะไร สาวคนที่ผม ต้องเข้าไปคุยนั้น ก็เป็นฝ่ายเข้ามาหาผมเสียเอง...

“กาย....” ณัฐกานต์ที่เดินเข้ามา ด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิดนั้นก็เอ่ยเรียกผม ซึ่งผมก็หันกลับไปทางเธอ ด้วยท่าทีที่ตกใจและแปลกใจสุดๆที่ เธอเป้นฝ่ายเดินเข้ามานั้น ก่อนที่จะต้องอึ้งและตกใจมากขึ้น ในถ้อยคำถัดมาของเธอ...

“คืนนี้นายจะต้องไปนอนค้างที่บ้านชั้นนะ..ห้ามลืมละ...” ถ้อยคำของเธอที่ทำให้ผมถึงกับอึ้ง แน่นอนว่าไม่ใช่ แค่ผมเท่านั้นที่อึ้งและตกใจ หากแต่ เพื่อนฝูง ก็วนที่ทำงานที่อยู่ตรงนั้น 3-4 คนถึงกับอึ้งเช่นกัน...

“นะ..นอนค้าง มันหมายความว่าไงเหรอ? น้องณัฐ..” พี่เชน ชายหนุ่ม เพื่อนร่วมงานของผมนั้นก็ร้องถามด้วยสีหน้าที่อึ้งๆ นอกจากเค้าก็ยังมี อีก 2 คนที่มีสีหน้าที่ไม่แตกต่างจากพี่เชน อย่าว่า แต่พวกนี้เลย ช่วยดูสีหน้าผมด้วย หน้าผมกับหน้าพวกนี้ก็ไม่แตกต่างกันเท่าไร?

“หมายความว่าไงเหรอ? ถ้าณัฐบอกว่า กายเป็นแฟนณัฐนี่จะต้องอธิบายอะไรอีกรึเปล่าค่ะ?...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยตอบ พี่เชน ด้วยน้ำเสียงท่าทีที่จริงจังตามแบบฉบับของเธอ เล่นทำเอาผม และเพื่อนฝูงผมถึงกับอึ้ง...ก่อนที่เธอจะหันมาเอ่ยกับผม

“ห้ามลืมเด็ดขาดละ ถ้าลืมละก็ ถึงตายเลยนะ..” เธอเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน ก่อนจะเดินออกไป ซึ่งผมก็ได้แต่ยืนมองเธออย่างอึ้งๆ จนทำอะไรไม่ถูก เรื่องที่จะพูดกับเธอ ก็ลืมจนหมดสิ้น ลืมตั้งแต่เธอชวนนอนค้างที่บ้านแล้ว...

และไม่กี่อึดใจ พี่เชน และคนอื่นก็เข้ากอดคอ ล้อมผมอย่างคาดคั่น...

“เรื่องนี้ท่าทางต้องคุยกันยาวๆนะ กาย..”

“ใช่พี่กาย เผลอแป๊บเดียว พี่สอยตัวท็อปสุดของบริษัทไปแบบนี้ ต้องคุยกันยาวๆเลย..”

“ไปจีบคุณณัฐตอนไหน ที่สำคัญถึงไหนกันแล้วตอบพวกผมมาซะดีๆนะพี่..”

ถ้อยคำที่มีแต่คำถามของเพื่อนร่วมที่ทำงานนั้นก็ทำเอาผมขยับปากพะงาบๆอย่างไม่รู้จะตอบไงดี ใช่มันปุ๊บปั๊บจนคิด/แต่งเรื่องขึ้นไม่ทัน กว่า จะแต่งเรื่องหลอกเอาตัวรอดจาก การสอบสวนมาได้เรียกว่าแทบแย่...

ใช่ กว่าจะหลุดได้แทบแย่ แต่มันก็ไม่จบไม่สิ้น เพราะตลอดช่วงทั้งบ่าย มีแต่คนเข้ามาถามผมว่า คบกับ “ณัฐกานต์จริงเหรอ?” ซึ่งที่เข้ามาถามมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง เล่นทำเอาผมมึน งง เหมือนกัน ว่าไหงเรื่องมัน ลือสะพัดไปทั้งบริษัทได้เร็วขนาดนี้เนี่ย...

ถ้าว่าผมชอบข่าวลือนั้นมัย? ผมไม่ค่อยชอบนะ เพราะมันทำให้ผมกลัว กลัว โดนบอดี้การ์ดของณัฐ ลากไปถ่วงน้ำชะมัด...

และข่าวลือนั้นก็ทำเอาผมลืมเตรียมตัวที่จะพูดกับณัฐกานต์เย็นนี้ไปเลย เนื่องจากปวดหัว วิตกกังวล ผลลัพธ์ของข่าวลือนั้นอย่างมาก...มารู้ตัวอีกที ก็เป็นตอนเย็นเลิกงานแล้ว และคนที่มาบอกผมเรื่องนั้นก็คือ ณัฐกานต์...

“เอ้า..กลับบ้านได้แล้ว...” ณัฐกานต์เอ่ยบอกที่ดูเหมือนสั่งผม ซึ่งผมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นก็แหงกหน้ามองเธออย่างถอนหายใจเล็กน้อย...ซึ่งหญิงสาวที่มีท่าทีทะมัดทะแมนอย่างมั่นอกมั่นใจสุดๆอย่างณัฐกานต์นั้นก็มองผม อย่าง งง สงสัย ซึ่งเธอไม่รู้หรอกว่า คำพูดของเธอเมื่อกลางวัน ทำเอา ยามบ่ายผมพังพินาศหมดแล้ว...

“นี่ณัฐ เรื่องนอนค้างเนี่ย มันหมายความว่าไง...” ผมที่เอ่ยถามเธอทันทีที่อยู่ กัน 2 ต่อ 2 ขณะเดินไปที่รถ ซึ่ง สาวสวยผมดำยาวที่ไว้ทรงหางม้า อย่างณัฐกานต์นั้นก็เอ่ยตอบทันที...

“ก็หมายตามที่พูดนั้นแหละ..” คำตอบของเธอก็ไม่ได้ช่วยให้ผมเข้าใจที่เธอสื่อเลย และเหมือนเธอเองก็พอจะรู้ถึงได้ถอนหายใจและเอ่ยกระซิบบอกผม...

“เดี๋ยวชั้นจะทำปากกาตก และนายก็ก้มลงเก็บ พร้อมกับค่อยๆมองไปยังข้างหลังอย่างไม่ให้ดูมีพิรุธละ..” ณัฐกานต์เอ่ย และเธอก็ทำตามทีเธอเอ่ย โดยที่ผมยังคง งง และทันทีที่ผมทำตามอย่างที่เธอว่า ซึ่งด้านหลังของผมก็ไม่มีใครนอกจากชายคนหนึ่ง ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่...

“ก็ไม่เห็นมีใครนี่...”ผมเอ่ยร้องถามหลังจากทำตามที่ณัฐกานต์สั่ง...ซึ่งเธอก็เอ่ยสวนกลับทันที...

“นายไม่เห็นผู้ชายคนนั้นจริงๆนะเหรอ?...”

“ผู้ชายคนนั้น? เห็นทำไมละ..” ผมตอบเชิงถามด้วยสีหน้าที่สงสัย..ซึ่งณัฐกานต์นั้นก็ตอบคำถามผมอย่างทันที..

“ชายคนนั้นตามนายได้ 2-3 อาทิตย์แล้ว...และวันนี้ ตอนเย็นเค้าได้รับคำสั่งให้ฆ่านายทิ้งซะ..” รํฐกานต์เอ่ยขณะกำลังเดินข้างๆตัวผมและมุ่งหน้าไปยังห้องของเธอ...

“พูดเล่นใช่มัย?...” ผมร้องถามอย่างเหงื่อตก ก่อนที่ผมจะชะงัก เพราะเพิ่งสังเกตเห็นท่าทีของณัฐกานต์ที่กอดกระเป๋าสะพาย มือข้างหนึ่งล้วงอยู่ในกระเป๋านั้น ราวกับกำถืออะไรบางอย่าง เตรียมไว้ตรวจเวลา...

“นายคิดว่า ท่าทีชั้นเหมือนคนพูดเล่นมัยละ?...” เธอเอ่ยถาม เมื่อเห็นท่าทีผมที่ได้สังเกตท่าทีของเธอนั้น..ก่อนที่เราทั้ง 2 จะเดินขึ้นไปที่รถ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ชายคนดั่งกล่าวยังคงตาม และจับตาดูตลอดเวลา...

“ไม่กล้าทำอะไรสินะ ก็แหงละ..” ณัฐกานต์ที่ขึ้นนั่งทางฝั่งคนขับนั้นก็มองชายคนนั้นผ่านทางกระจกมองหลัง..ซึ่งผมที่นั่งข้างๆนั้นก็ร้องถาม...

“นะ นี่มันเรื่องอะไร ทำไมถึงมีคนจะเอาชีวิต...” ผมที่เอ่ยถาม ณัฐกานต์และไม่ทันจะเอ่ยจอบ ณัฐกานต์ก็สวนผมกลับมาทันที

“ก็ใครใช้ให้นายไปตีท้ายครัว ลูกผู้มีอิทธิพลทำไมละ ก็นายไปทำแบบนั้น เค้าถึงได้ส่งคนมาเก็บนาย....” ณัฐกานต์ที่หันมาตอบผมอย่างเสียงดัง ซึ่งถ้อยคำดั่งกล่าวก็ทำให้ผมถึงกับชะงัก และตอนนั้นที่ผมเริ่มนึกถึงคำเตือน ของคุณแว่น ที่ลืมไปขึ้นมาได้...

นั้นเป็นเรื่องจริงหรือนี่.... ผมคิดในใจ...ขณะที่ณัฐกานต์นั้นก็ค่อยๆขับรถออกไป...

“ว่าแต่นายยังไม่ตอบชั้นเลยนะ ว่านึกบ้าอะไร ถึงกล้าไปแย่งแฟน ของลูกผู้มีอิทธิพลนะ..” ณัฐกานต์ที่ร้องถามย้ำ ด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ ก่อนที่ผมจะเอ่ยตอบเธอ...

“ไม่ได้แย่งนะ คือ เธอคนนั้นเค้ากำลังจะเลิกกับแฟนอยู่แล้ว...” ผมเอ่ยแย้ง...ก่อนที่ณัฐกานต์สวนกลับ...

“แต่ถึงตอนนี้เค้าก็ยังไม่ได้เลิกใช่มัยละ?...” คำกล่าวสวนที่ทำให้ผมถึงกับชะงัก ซึ่งมันก็เป็นดั่งที่ณัฐกานต์ ว่า...

“แล้วนายรู้มัยว่า แฟนหนุ่มของสาวคนที่นายไปยุ่งนะ เค้าเป็นคนโหดมากนะ โหดกว่าชั้นด้วย...” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าวบอกเชิงถามกับผม ซึ่งผมก็กำหมัดและเอ่ยตอบอย่างเกริ่นเข้าเรื่องของผม...

“รู้สิ และเพราะรู้ เรื่องนั้น ถึงอยากจะให้เธอช่วยอะไรสักหน่อย..” ผมตอบ...ซึ่งถ้อยคำของผมก็ทำให้ณัฐกานต์เหลือบมองเล็กน้อย ก่อนที่ตลอดทางผมก็ได้ทำการเล่าเรื่องของ ตาล ให้ณัฐกานต์ฟัง...ใช่ เล่าให้ฟัง จนกระทั้งเธอขับไปถึงยังตัวบ้านของเธอ ที่เรียกว่า เป็นคฤหาสถ์ก็ว่าได้...

“ค่อยไปคุยต่อที่ห้องของชั้นนะ...”ณัฐกานต์ที่เอ่ยบอกกับผม ก่อนที่จะทำการลงจากรถ...ซึ่งพอลงจากรถ ตลอดทางที่จะไปถึงห้องของเธอนั้น ณัฐกานต์ก็ถูกทักทายด้วย คนใช้ และการ์ดของเธอ โดยเฉพาะ “นายเจ๋ง” ที่เป็นบอดี้การ์ดคนสนิท ของเธอ...

“เดี๋ยวชั้น ค่อยฟังเรื่องที่นายไปสืบมาทีหลังนะ อ้อ ช่วยบอกแม่บ้าน ช่วยเตรียมอาหาร และห้อง ให้กับแขกด้วย...” ณัฐกานต์ที่เป็นฝ่ายเอ่ยกับ นายเจ๋ง ก่อน ทันทีที่เค้าเดินเข้ามาเหมือนจะรายงานบางอย่างกับเธอ ..ก่อนที่บอดี้การ์ดหนุ่ม รายนี้ จะเอ่ยตอบรับ

“ครับคุณหนู...” นายเจ๋งเอ่ย และชำเลืองมองผม สายตาที่ชำเลืองมองมานั้นก็ทำให้ผมขนลุก ผมยังรู้สึกกลัวๆจากคราวก่อนที่พี่แกจับผมจะเอาไปถ่วงทะเลยังไม่หายเลย...

“ทำตัวตามสบายได้เลยนะ กาย วันนี้ที่บ้านชั้นไม่มีใครอยู่ มีแค่ชั้นกับนาย และพวกลูกน้องพวกนี้เท่านั้น..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยบอกกับผม ก่อนจะนำผมไปยังห้องของเธอ....และเมื่อผมไปถึงห้องของเธอ สิ่งแรกที่ผมเอ่ยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องราวของตาลที่คุยค้างไว้ หากแต่ เป็นการถามเธอด้วยความสงสัย...

“ถามอะไรสักอย่างนะ เธอรู้เรื่องที่ผมกำลังมีอันตรายได้ไง..” ผมถามของผมที่ทำให้ณัฐกานต์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมถึงกับชะงัก..และเธอก็ส่งเสียงเหมือนอ้ำๆอึ้งๆเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบออกมา...

“กะ ก็นายเจ๋งนะสิ ถือวิสาสะ สืบเรื่องของนาย...จนเป็นเหตุทำให้ชั้นรู้เรื่องนี้เข้า..อย่าคิดว่าชั้นเป็นคนสั่งให้นายเจ๋งไปสืบเรื่องของนายซะละ..” ณัฐกานต์ตอบ ด้วยสีหน้าที่ระเรือเล็กน้อย ซึ่งไม่รู้ทำไม ผมมีความรู้สึกว่า เธอเป็นคนสั่งให้นายเจ๋ง สืบผมมากกว่า ที่นายเจ๋ง สืบเอง ถึงแม้ ณัฐกานต์เคยเล่าเรื่องของนายเจ๋งให้ฟังมาแล้วก็เถอะ...

โดยที่ผมก็ไม่ได้แย้งอะไร...และผมกับเธอนั้น ก็ต่างนั่งลงยังที่โซฟาที่อยู่ในห้องของเธอ ซึ่งในห้องส่วนตัวของเธอนั้นก็ใหญ่โตมาก...สมกับฐานะคนมีเงินจริงๆ..พอหลังจากลงนั่งซักพัก แม่บ้านก็นำเครื่องดื่มมาเสริฟ์ให้กับพวกเรา และหลังจากที่แม่บ้านได้เดินออกไป...ณัฐกานต์ที่ก็เป็นฝ่ายถามผมทันที...                                        

ก่อนที่แม่บ้านจะนำเครื่องดื่มเข้ามาให้ และหลังจากที่แม่บ้านได้ออกไป ณัฐกานต์ก็เป็นฝ่ายถาม...

“เอาละ...ขอฟังเรื่องราวของเธอคนนั้นต่ออีกหน่อยสิ....” ณัฐกานต์เอ่ยถาม พร้อม ขยับมือไม้เข้าหยิบแก้วชาขึ้นจิบดื่ม ซึ่งผมก็จ้องมองและทำการเอ่ยเล่าเรื่องของตาลที่ได้เอ่ยค้างไว้ต่อทันที...

“อืมมมม...แล้วนายจะให้ชั้นช่วยยังไง? ให้ชั้นส่งคนไปเก็บ เจ้าคนที่เป็นแฟนของผู้หญิงของนายงั้นเหรอ?..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยถาม หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดนั้นเสร็จ คำถามของเธอก็ทำให้ผมอึ้งไปแป๊บหนึ่ง เพราะผมพูดนี่ก็ยังไม่ได้คิดเลยว่า จะให้ ณัฐกานต์ช่วยยังไง?

พอเธอถามมาแบบนี้ ประกอบกับ เห้นสิ่งที่คนที่เรียกตัวเองว่า แฟน ทำกับ ตาล นั้น มันทำให้ผมตอบรับ ข้อเสนอนั้นของณัฐอย่างว่าง่าย ซึ่งผมเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน เพราะตัวเองไม่ใช่คนที่โหดร้าย ขนาดมีความคิดที่อยากจะฆ่าใครขนาดนี้แท้ๆ

“ถ้าได้แบบนั้น มันก็ดีเหมือนกันนะ...” ผมตอบ คำถามของเธอ ด้วยความรู้สึกจริงๆที่มาจากก้นบึ้งของผม ซึ่งก็ทำให้ณัฐกานต์มีท่าทีเหมือนแปลกใจประหลาดใจกับคำตอบของผมนิดๆ...

“เป็นคำตอบที่ผิดคาดแฮะ แต่เอาเถอะ ชั้นเองก็ไม่ขัดข้องอะไรนะ กับ การกำจัดคนแบบนี้...เพราะผู้ชายแบบนี้ เป็นผู้ชายที่ชั้นเกลียดเหมือนกัน เพียงแต่ติดปัญหาบางอย่างอยู่นะ..” ณัฐกานต์เอ่ยตอบผม ซึ่งผมก็เข้าใจปัญหาที่เธอหมายถึง...

“เพราะเขาเป็นลูกผู้มีอิทธิพลใช่มัย?..” ผมเอ่ยถามอย่างเข้าใจ เพราะ แฟนของตาล คนที่ผมอยากจัดการ นั้น ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นลูกผู้มีอิทธิพล..ซึ่งณัฐกานต์ก็ทำท่าทีครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยตอบ...

“นั้นก็ใช่...แต่ยังไม่ถือว่าเป็นปัญหาหรอก..... ปัญหาจริงๆ คือ ผู้ชายที่เป็นแฟน ผู้หญิงของนาย และเป็นคนสั่งเก็บนาย เค้าเป็นพี่ชายชั้นเอง...” ถ้อยคำดั่งกล่าวที่ทำให้ผมถึงกับตาโต อย่างชะงัก...

“พะ...พี่ชายเหรอ?....”ผมเอ่ยถาม ด้วยน้ำเสียงอ้ำๆอึ้งๆ อย่างตกใจและคาดไม่ถึง...

“ถ้าพูดให้ถูก คือ ลูกพี่ลูกน้องนะ..”ณัฐกานต์กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ...ขณะทางผมก็อึ้ง ก่อนจะเสียววาบ ด้วยความคิดด้านลบ ที่กลัวว่า การมาขอความช่วยเหลือนั้น จะกลายเป็นหนทางเข้าสู่กับดักนั้นเอง...

“ไม่ต้องทำท่าทางแบบนั้นก็ได้ ตาบ้า....ถ้าชั้นอยู่ข้างพี่ชั้นจริงๆ ละก็... ชั้นไม่พาตัวนายมานอนค้าง แล้วปล่อยข่าวว่า นายเป็นแฟนชั้นหรอก..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยอย่างหงุดหงิด เมื่อเห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนของผม สีหน้าที่เธอเอ่ยถ้อยคำนั้นก็ออกแดง
ระเรือหน่อยๆ....

“ปะ ปล่อยข่าวงั้นเหรอ?...” ผมที่เอ่ยทวน..ด้วยสีหน้าที่คลายหังวลแต่กลับสงสัยแทน...

“ใช่..นายไม่สงสัยบางรึไง ว่าทำไม ข่าวที่ชั้นคบกับนายมันแพร่สะพัดไปไวนะ ก็เพราะชั้นเป็นคนปล่อยข่าวเอง..เพื่อให้เข้าหูคนที่นายตามอยู่ และเพื่อให้มั่นใจ จึงพาตัวนายมาที่นี้ ไม่งั้น วันนี้ ขากลับบ้าน นายได้ตายคารถของนายแน่..” ณัฐกานต์ ตอบผม ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แต่สีหน้าของเธอนั้นก็ยังคงระเรือแดงหน่อยๆอย่างไม่เปลี่ยน..

ถ้อยคำของเธอที่ทำให้ผมทำตาปริบๆ เนื่องจากตามเรื่องตามราวไม่ทัน เข้าใจเพียงว่า เธอได้ช่วยผม ให้พ้นจากวิกฤตที่แฟนของตาลจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น..ถึงผมจะเข้าใจและโล่งใจที่ตัวเองไม่ถูกฆ่า แต่ทุกอย่างก็วกกลับไปจุดเดิม คือ ไม่อาจช่วยเหลือตาลได้นั้นเอง..และในขณะที่ผมเริ่มสิ้นหวังนั้น ณัฐกานต์ก็เอ่ยขึ้นมาว่า...

“ชั้นไม่อาจจะเอาชีวิต พี่ชั้นได้ก็จริง... แต่ถ้าช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นละก็...ทำได้อยู่แล้ว...” เธอเอ่ย และนั้นก็ทำให้ผมแหงกหน้ามองเธอด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้น ราวกับเห็นทางสว่าง...

“ถึงเธอทำได้ แต่มันจะดีกับเธอเหรอ? มันจะไม่ทำให้เธอผิดใจกับพี่ชายเธอเหรอ?..” ผมร้องถามด้วยความเป้ฯห่วง อีกใจ ก็อยากให้ณัฐกานต์ช่วยเหลือ เพราะผมยอมรับว่า ผมคงไม่มีปัญญาช่วยเหลือตาลได้แน่ แค่เดินเข้าไปเจรจาแมนๆกับ นายต้นนั้น ยังไม่รู้จะทำได้รึเปล่า? ดีไม่ดีอาจจะ โดนยิงทิ้งซะก่อนด้วย...

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ชั้นกับเค้า เดิมทีก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากอยู่แล้ว หนำซ้ำ ชั้นยังเกลียดเค้ามากด้วยซ้ำ..กับพฤติกรรมของเขานะ ถึงเคยได้ยินมาบ้าง แต่ก็ไม่นึกว่าจะเลว ได้โลห์ขนาดนี้...” ณัฐกานต์เอ่ยตอบ อย่างไม่หันมองหน้าผมตรงๆ แต่ใช้การปรายตามอง สีหน้ายังคงดูระเรือแดงหน่อยๆเหมือนเดิม..

“แต่ถ้าว่ากันตามตรง ถ้าพวกนายคบกันช้ากว่านี้ซะหน่อย มันก็ไม่มีปัญหาแล้วละ..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยกล่าวต่อขึ้น หลังจากเว้นวรรคไปได้ครู่หนึ่งนั้น ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ทำให้ผม งง เหลือเกิน...

“ที่พูดนะ หมายความว่าไงนะ ” ผมร้องถามอย่างไม่เข้าใจ...

“ก็ตอนนี้ พ่อของพี่ต้น หรือ ลุงของชั้น เข้าโรงพยาบาล อาการหนักมาก เห้นว่า เป็นมะเร็งในตับระยะสุดท้าย เท่าที่ได้ยิน ไม่น่าเกิน เดือน 2 เดือน คงเสียชีวิตแน่..”ณัฐกานต์ตอบ..ซึ่งนั้นก็ทำให้ผม งง อยู่ดี....

“พ่อของหมอนั้นป่วย? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?..” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ซึ่งณัฐกานต์นั้นยิ้มเล็กน้อยและเอ่ยตอบ..

“เกี่ยวสิ เพราะทันทีที่ พ่อหมอนั้น หรือ คุณลุงตาย พี่ต้นก็คงรีบเผ่นไปนอก และไม่มีทางกลับมาที่นี้อีกแน่..เห็นได้ยินว่าเตรียมทีทางไว้แล้ว...” ณัฐกานต์ตอบ ขณะที่ผมถามต่ออย่างไม่เข้าใจ..

“เผ่นเหรอ?...ทำไมละ?”

“ก็ตานั้น ก่อเรื่อง มีโจทก์ไปทั่ว เกือบ 6-7 รายได้ ดีที่คุณลุง หรือ พ่อของเขาใหญ่ และมีบารมีพอ ที่พอคุ้มกบาลเขาไว้ได้...แต่ถ้าตายลง ก็ไม่แน่ใจว่า บารมีพ่อเขาจะคุ้มครองอีกรึเปล่า เพราะได้ยินมาว่า มี 2-3 กลุ่มจ้องอยู่เหมือนกัน...” ณัฐกานต์เอ่ยตอบ ซึ่งผมก็ค่อยๆเข้าใจมากขึ้น...

“งั้นถ้าเรารอให้ถึงเวลา ตาลก็รอดพ้น โดยที่ไม่ต้องทำอะไรใช่มัย?...” ผมร้องถาม ด้วยความเข้าใจของผมเอง ซึ่งณัฐกานต์ส่ายหัวและเอ่ยตอบ...

“ถ้าพี่ต้น เค้าไม่รู้เรื่องพวกนาย...ก็คงอย่างที่นายว่า แค่รอเวลา แต่นี่ไม่ใช่ เค้ารู้เรื่องพวกนายแล้ว และเท่าที่ชั้นรู้นิสัยเค้า ตอนนี้เค้าคงโกรธและแค้น นาย กับ ผู้หญิงคนนั้น มากแน่ๆ...ดูจากคำสั่งให้มีการเก็บ นาย แสดงว่าทางฝั่ง ผู้หญิงเองก็น่าจะโดนอะไรที่สาหัส มากเหมือนกัน บางที นายอาจจะไม่ได้เห็น ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วก็เป็นไปได้...” ณัฐกานต์ตอบ ด้วยท่าทีที่นั่งกอดอก ขณะที่ผมก็ร้องถามเธอต่อ...

“หมายความว่าไงนะ..ที่จะมีโอกาสไม่ได้พบกันอีกนะ...”

“ก็หมายความว่า เธอ คนนั้น อาจจะโดนเก็บแบบนาย หรือไม่ ก็ โดนพาไปขายในซ่องก็ได้...” ณัฐกานต์ตอบ ซึ่งถ้อยคำของเธอนั้นก็ทำให้ผมนึกถึง คลิป และภาพที่ เห็นใน web และมีความเป็นไปได้สูงที่ จะเป็นอย่างหลังที่ณัฐกานต์พูด...

“ถ้างั้น เราต้องรีบไปช่วยเธอแล้วละ..” ผมเอ่ยโพล่งอย่างลุกขึ้น ด้วยท่าทีที่เป็นห่วงและร้อนรน...ก่อนจะต้องชะงักกับถ้อยคำของณัฐกานต์...

“เรา?....ชั้นตอบตกลงนายแล้วเหรอ? ว่าจะช่วยเธอคนนั้นนะ...ถ้าจำไม่ผิด ชั้นยังไม่ได้พูดเลยนะว่า ตกลงจะช่วยเธอคนนั้น...ชั้นแค่บอกว่า ถ้าแค่ช่วยนะ พอทำได้ ยังไม่ได้เอ่ยปากตอบตกลงนายนะ กาย...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยกล่าวบอกกับผมอย่างยิ้มเล็กน้อย ด้วยท่าทีที่ดูยำเกรงและน่ากลัว นี่ คงเป็นอีกโฉมหน้า หนึ่ง เธอไม่ผิดแน่...ทั้งสีหน้า ท่าที และบรรยาย สมกับเป็น ลูกสาว ผู้มีอิทธิพล..ไม่มีผิด....

ผมที่หันไปมองเธออย่างขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัวนิดๆ แต่ถึงกระนั้นก็เอ่ยถามเธอ...

“แล้วที่ช่วยผมละ...”

“ตอบแทนเรื่องในคราวก่อน..” เธอตอบกลับอย่างทันที และยังคงจ้องมองผมอย่างเขม้ง ก่อนที่ผมจะหันร่างเดินกลับเข้าไปหาเธอที่นั่งไขว์ขา อย่างกอดอกนั้น และเมื่อเดินเข้าไปใกล้ถึงเธอนั้น ผมก็กระทำการบางอย่างที่ผู้ชายที่ไร้พลังอย่างผมพอทำได้....นั้นคือ การก้มกราบขอร้อง ซึ่งผมรู้ดีว่า มันเป็นอะไรที่ไร้ศักดิ์ศรีมากๆ....

“ขอร้องละ กรุณาช่วยตาลด้วยเถอะ ณัฐ....จะให้ผมทำอะไรก็ยอม...” ผมเอ่ยกล่าว อย่างก้มหน้า เลยไม่ได้เห็นปฏิกิริยาของณัฐกานต์ในเวลานี้ ผมรู้อย่างเดียวว่า หลังผมเอ่ย ทุกอย่างนิ่งเงียบทันที...ราวกับว่าเธออึ้งพอดูกับการกระทำนั้นของผม..ก่อนที่ไม่กี่อึดใจผมจะได้ยินเธอเอ่ยขึ้นมาว่า...

“ทะ ทำอะไรก็ยอมงั้นเหรอ? งั้นเลียเท้าให้ชั้นดูหน่อยสิ ถ้านายยอมเลีย ชั้นอาจจะยอมช่วยเธอคนนั้นก็ได้..” ณัฐกานต์ตอบ พร้อมกับขยับเท้ายื่นมาตรงหน้าผม ซึ่งถ้อยคำและการกระทำของเธอนั้นก็ทำให้ผมอึ้งพอควร...ถึงแม้ผมจะไม่ใช่ผู้ชายที่ถือหยิ่งในศักดิ์ศรีผู้ชายมากนัก แต่ก็พอรู้ว่าการกระทำนี้มันมากไปจริงๆ...แต่ถึงกระนั้นผมก็ยอม...

แต่ไม่ทันที่ผมจะขยับเอาลิ้นเข้าไปแตะ แค่ทำท่าทีเหมือนกำลังจะเข้าไปเลียเท่านั้น เท้าของณัฐกานต์นั้นก็ชักออกและ เข้าถีบผมจนหงายหลัง พร้อมกับร่างของเธอที่ขยับยืนขึ้นและเอ่ยโวยวายใส่ผมด้วยท่าทีที่หงุดหงิด..

“นายนะ!! ยังเหลือศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายอีกรึเปล่า!! นายรู้ตัวมัยว่ากำลังทำอะไรลงไป แล้ว ผู้หญิงแบบนั้น ผู้หญิงที่อ่อนแอก้มหน้ารับชะตากรรม โดยไม่ดิ้นร้นแบบนั้น มันคู่ควรให้นายทิ้งศักดิ์ศรีเหรอ!!...”ณัฐกานต์ที่เอ่ยโพล่งอย่างเสียงดัง ด้วยท่าทีที่โกรธมาก ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเธอโกรธ แต่ผมก็ได้แต่ตอบเธอว่า...

“ถ้าบอกว่า ที่ทำเป็นเพราะความรัก มันพอฟังขึ้นรึเปล่าละ...” ผมเอ่ยตอบอย่างจ้องมองหน้าของเธอ ถึงแม้ตัวผมยังอยู่สภาพกึ่งๆนอนหงายอยู่ก็ตาม...ถ้อยคำของผมที่ทำให้ณัฐกานต์ถึงกับชะงัก และมีท่าทีที่ไม่สบอารมณ์อย่างมาก ก่อนที่เธอหันหลังเหมือนบ่นอะไรบางอย่างพึมพำซึ่งผมจับใจความไม่ค่อยได้ ได้ยินแค่ว่า...

“ให้ตายเถอะ ทำไมคนอย่างชั้นต้อง.....ด้วยนะ..” เธอเอ่ยอย่างมีท่าทีไม่สบอารมณ์แถมเกาหัวด้วย...ก่อนที่ผมกับณัฐกานต์จะหันไปที่ประตู เมื่อ นายเจ๋งได้เปิดประตูเข้ามาในห้อง....

“เมื่อกี้ได้ยินเสียงคุณหนูโวยวาย ไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นครับ หรือ เจ้าหมอนี่มันทำอะไรคุณหนูงั้นเหรอครับ?...” นายเจ๋ง ชายชุดสูทสีดำหน้าตาเข้ม น่ากลัว ที่เอ่ยถาม ด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดๆ...ซึ่งณัฐกานต์ก็มอง บอดี้การ์ดคนสนิทอย่างถอนหายใจ และเอ่ยตอบว่า...

“ไม่มีอะไรหรอก แค่ตานี่ขัดใจชั้นนิดหน่อยนะ...”

“งั้นผมเอาเขาไปถ่วงทะเลเลยนะครับ....” นายเจ๋งตอบ พร้อมกับเดินตรงเข้ามา ขณะที่ผมก็หันขวับไปทางบอดี้การ์ดคนนั้นอย่างเหงื่อตก และ สงสัยในเวลาเดียวกันว่า บอดี้การ์ดคนนี้ของณัฐกานต์ ไม่มีอย่างอื่นอยู่ในหัวแล้วรึไง? เอะอะๆ ก็จะจับถ่วงอ่าวไทย ท่าเดียว...(มึงจะโหดไปไหน...)

แต่ไม่ทันที่นายเจ๋งจะเดินมาถึงตัวผม.. ณัฐกานต์ก็เดินเข้ามาขวางและเอ่ยร้องเชิงสั่ง...

“เดี๋ยว...” ณัฐกานต์เอ่ย ก่อนที่ผมจะเห็นเธอคุยกับนายเจ๋ง ด้วยท่าทีเหมือนสั่งบางอย่าง และ นายเจ๋งก็พยักหน้าลูกเดียว..และไม่กี่อึดใจเขาก็เอ่ยตอบรับอย่างเสียงดังพอที่ผมจะได้ยิน...

“ครับ ผมจะจัดการให้ครับ คุณหนู..” นายเจ๋งเอ่ยตอบรับ แต่ไม่ทันที่จะเดินออกไป เหมือนเขาจะนึกอะไรได้...

“อ้อ คุณหนูครับ ได้เวลาอาหารแล้วนะครับ?..” นายเจ๋งเอ่ยบอก ซึ่งณัฐกานต์ก็พยักหน้าและตอบรับ

“เข้าใจแล้ว...เดี๋ยวชั้นลงไป..”ณัฐกานต์ตอบ ก่อนที่จะหันกลับมาหาผมพร้อมกับเดินตรงเข้ามา ส่วนนายเจ๋งนั้นก็ขยับเดินออกไปจากห้อง แน่นอนว่าสายตาของผมนั้นก็จับจ้องมองมาที่ณัฐกานต์ที่เดินกลับมาหาผม ผมที่นั่งแหมะอยู่ที่พื้นจากการถูกเธอถีบเมื่อกี้นี้...

“เรายังพูดเรื่องเมื่อกี้นี้ ยังไม่จบเลยนะ..” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าวเชิงถามผม ซึ่งผมก็แหงกหน้าอย่างจ้องมองเธอพร้อมกับร้องตอบ

“นั้นสินะ...แล้วจะให้ผมต้องทำยังไง เธอถึงจึงจะยอมช่วยละ..” ผมตอบเชิงถาม ซึ่งณัฐกานต์ก็จ้องมองอย่างนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังและเอ่ยตอบกับผมว่า

“เอาไว้...หลังทานอาหารเสร็จ ชั้นค่อยตอบนายก็แล้วกัน ว่าชั้นจะให้นายทำอะไร....” เธอตอบ พร้อมกับหันหลังและเหมือนจะเดินออกไปจากห้อง ซึ่งไม่ทันที่จะเดินออกไป เธอก็หันมาเรียกผม

“มัวนั่งอะไรของนาย!! ลุกขึ้นสิ...ชั้นจะพาไปทานข้าว..” ณัฐกานต์เอ่ย ซึ่งผมก็ทำตามที่เธอว่า และเธอก็นำผมไปยังโต๊ะอาหารของเธอ ซึ่งก็ไม่ได้ยาวใหญ่เวอร์ เหมือนในหนัง ที่รองรับได้เป็น 20-30 คนแต่อย่างใด ก็เป็นขนาดโต๊ะธรรมดา เพียงแต่ตัวโต๊ะมีราคา และตกแต่งหรูหราเท่านั้น...

โดยบนโต๊ะนั้นก็มีอาหารวางอยู่เป็นที่เรียบร้อย พอลงนั่งก็มีการตัก/เสริฟ์ข้าวให้ทันที จนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าคนนายคนเลย ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ผมคงตื่นเต้นกับประสบการณ์/ความรู้สึกแบบนี้ไปแล้ว แต่ในเวลานี้ผมกลับไม่มีอารมณ์แบบนั้นเลย ในหัวของผมยังคงกังวลและครุ่นคิดหาทางเกลี้ยกล่อมณัฐกานต์อยู่แทบตลอดเวลา...

เกลี้ยกล่อม?? ผมอาจจะใช้คำ หรูไป เพราะ เอาเข้าจริงแล้ว ผมว่า คงไม่ได้เกลี้ยกล่อมเธอหรอก หากแต่ทำตามที่เธอต้องการทุกอย่างมากกว่า..ใช่ เพราะผมไม่ได้เป็นคนที่คุมเกม แต่เธอต่างหากเป็นคุมเกม ทั้งคุมเกม ทั้งกุมชีวิตผม (อันหลังไม่เวอร์เกินจริง ถ้าคุณเธอกระดิกนิ้ว นายเจ๋งคงลากผมไปถ่วงอ่าวไทยแน่ๆ..)

ใช่...เพราะเอาแต่ครุ่นคิดอย่างซีเรียสจนผมเองก็จำไม่ได้ว่า รสชาติของอาหารในวันนั้นเป็นเช่นไร ที่แน่ๆ ไม่ได้เลวร้าย แต่อร่อยขนาดไหนนั้นผมจำไม่ได้เลย...

“เดี๋ยว 2 ทุ่ม นายค่อยมาหาชั้นที่ห้องนะ...ส่วนห้องพักของนาย เดี๋ยวป้าศรีคนนี้ จะเป็นคนพานายไป ไม่ต้องห่วงเรื่องเสื้อผ้าด้วย ทางนี้ตระเตรียมไว้ให้แล้ว..” ณัฐกานต์เอ่ยกับผมขึ้น หลังจากทานอาหารเสร็จ...

“ 2 ทุ่มเลยเหรอ?...” ผมเอ่ยร้องด้วยความสงสัย และ งง ว่าทำไมต้องเว้นช่วงนานขนาดนั้น คุยต่อเลยไม่ได้รึไง...

“ชั้นอยากได้เวลาพักสักหน่อย...วันนี้ มีแต่เรื่องมาทั้งวันแล้ว จบมัย?..” ณัฐกานต์เอ่ยตอบเหมือนจะรู้ในสิ่งที่ผมคิด และนั้นก็ทำให้ผมได้แต่จำยอมแต่โดยดี อย่างที่ผมบอกไป เธอเป็นคุมเกมนี้ไม่ใช่ผม...

หลังจากนั้นผมก็ตามแม่บ้านของเธอที่ชื่อ ป้าศรี ไปยังห้องพักของผม ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากห้องของณัฐกานต์ซะเท่าไร..โดยที่ห้องพักสำหรับแขกนั้นก็ตกแต่งอย่างดี จนแทบไม่ต่างจากห้องโรงแรม 5 ดาว เท่าไร...และก็อย่างที่ณัฐกานต์บอกเธอเตรียมเสื้อผ้าให้ผมแล้ว มันก็แค่ชุดนอนตัวหนึ่งเท่านั้น เป็นเสื้อคอกลม กางเกงยืดขายาวเท่านั้นแหละ...

ก่อนที่ผมจะทำการอาบน้ำ และนั่งครุ่นคิดหาทางต่อไป ใช่..ครุ่นคิดเผื่อไว้ หากอะไรๆมันไม่เป็นดั่งที่คิด เพราะแค่เรื่องที่ นายต้น เป็นลูกพี่ลูกน้องของณัฐกานต์นั้นก็เป็นอะไรทีผิดคาดมากๆแล้ว...ไม่รู้คุณแว่นรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า? และพอถึง 2 ทุ่มผมก็กลับไปยังห้องของณัฐกานต์ ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าไปอย่างทันทีหรอก หากแต่ทำการเคาะประตูก่อน อย่างมีมารยาท...

“ขะ เข้ามาสิ..” ณัฐกานต์ที่ส่งเสียงร้องตอบออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายกึ่งตกใจ กับการเสียงเคาะประตูของผมนั้น....และทันทีที่ได้ยินเธออนุญาต ผมก็บิดประตูเข้าไปในห้องของเธอ..

“กะ กำลังรออยู่เลย...”ณัฐกานต์ที่เอ่ยเชิงทัก ทันทีที่ผมเดินเข้ามาในห้องของเธอนั้น การทักของเธอก็ทำให้ผมหันไปมอง ซึ่ง ณัฐกานต์ก็นั่งที่ขอบเตียงอย่างเอียงกาย 45 องศา โดยที่เธอเอามือทั้ง 2 วางไปทางด้านหลังเพื่อ ค้ำยันเอาไว้..ทันทีที่ผมหันไปมอง ผมก็ชะงักและอึ้ง อย่างทำอะไรไม่ถูก..เมื่อเห็นที่เธอสวมใส่อยู่นั้น...

โดยที่ผมก็อธิบายไม่ถูกว่ามันเรียกว่าชุดอะไร แต่มันคล้ายชุดนอนกึ่งๆ ชุดชั้นใน แต่ที่ทำให้ผมตกอกตกใจนั้น เป็นเพราะความบางเฉียบของมัน..ที่ทำให้เห็นอะไรต่อมิอะไร ยิ่ง ท่าที่เธอนั่งในเวลานี้ก็ทำให้เห็นเต้านม ไม่สิ ต้องบอกว่า เห็นดอกปทุมถั่นของเธออย่างชัดเอามากๆ....

“อึกกก...เออ คุณณัฐครับ..” ผมกลืนน้ำลายให้กับภาพตรงหน้า ก่อนจะขยับปากเรียกเธอ ด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักอย่างคาดหวังให้เธอรู้สึกตัว ซึ่งมันก็ได้ผล... เธอขยับมือไม้ที่วางยันนั้น ขึ้นมากอดอก และขยับแข้งข้า เข้าไขว์กัน ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจหรือมั่นใจว่าเธอรู้ตัวมัย? และถึงแม้เธอจะเปลี่ยนท่านั่งก็ตาม..

 แต่มันก็ยังคงทำให้ผมหายใจหายคอ และกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเช่นเดิม..

“อะไร?...” เธอตอบรับการเรียกของผม ด้วยสีหน้าที่ระเรือหน่อยๆ...การตอบของเธอก็ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยโต้ตอบ

“เรื่องที่เราคุยค้างเอาไว้นะ...” ผมเอ่ยเชิงบอกเพื่อเปิดประเด็น ซึ่งนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์นั้นมีท่าทีเหมือนนึกออก...

“อ้อ ใช่ จริงด้วย...ลืมไปเลย..” คำกล่าวตอบของเธอก็ทำให้ผมชะงักเล็กน้อย กึ่งๆไม่ชอบพอด้วยซ้ำ ถ้าพูดตามตรง...

“บอกมาเลยครับ ว่าจะให้ผมทำอะไร? เพื่อแลกกับการช่วยเหลือตาล...” ผมเอ่ยเชิงถาม ด้วยท่าทีที่เรียกว่ากลั้นใจถามก็ว่าได้ โดยที่ใจผมก็เต้นแรงทันทีที่เอ่ยกล่าวจบ..ซึ่งณัฐกานต์ก็ถอนหายใจและเอ่ยเชิงบ่น...

“นะ นายนี่น่าเบื่อจริงๆเลยนะ..” ถ้อยคำของเธอที่ทำให้ผมมีท่าที งงๆ...

“เอะ??..เอ๋....”

“ไม่มีอะไร ชั้นก็แค่บ่นเรื่อยเปื่อยนะ แต่ชั้นจะช่วยผู้หญิงของนายก็ได้ โดยแลกกับการที่ นายจะต้องมาเป็นของชั้น...”
ณัฐกานต์ที่เอ่ยต่อ เมื่อเห็นผมมีท่าที งง ซึ่งถ้อยคำของเธอก็ยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจมากขึ้น....

“?? หมายความว่า จะให้ผมเป็นแฟนงั้นเหรอ?..” ผมร้องถามอย่างไม่เข้าใจ ซึ่งนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์ ถึงกับหน้าแดงก่ำอย่างทันที ก่อนที่เธอจะเอ่ยสวนอย่างทันที...

“จ จะบ้าเหรอ!! อย่างชั้นเนี่ยนะ จะให้นายเป็นแฟน...” ณัฐกานต์เอ่ยตอบสวนกลับ อย่างเสียงดังเล็กน้อย ใบหน้าของเธอที่แดงก่ำ ขณะที่ผมนั้นก็มีท่าทีชะงักเล็กน้อยให้กับคำตอบโต้ของเธอ...

“เออ ถ้าไม่ใช่... งั้นไอ้ที่บอกว่า ให้เป็นของๆเธอนี่ มันหมายความว่าไง? ” ผมถามกลับอย่างกล้าๆกลัวๆ และคำถามของผมนั้น ก็ทำให้ ณัฐกานต์ถึงกับนิ่งและ หันซ้ายหันขวา ด้วยสีหน้าท่าทีอย่างครุ่นคิดอย่างจริงจัง พอควร ก่อนที่ เธอจะหันมาเอ่ยตอบ ถึงความหมายของถ้อยคำของตัวเอง...

“ขะ ของเล่น.. ทาส.. สัตว์เลี้ยง... ชะ ใช่ แล้ว ชั้นหมายถึง 3 อย่างนี้ต่างหาก...”ณัฐกานต์เอ่ยตอบ ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำเล็กน้อย พร้อมกับชี้นิ้วมาทางผม ซึ่งผมก็ไม่ได้สงสัยในท่าทีของเธอเลย..หากแต่ยินยอมตกลงทันที...

“อืมมม ตกลง...ถ้านั้นจะทำให้เธอยอมช่วยตาลแล้วละก็..” ผมตอบเธออย่างง่ายดาย อย่างไม่มีการคิด หรือ ต่อรอง ให้เป็นสักอย่างหนึ่ง แต่อย่างใด...ใช่ เพราะ ในเวลานั้นผมไม่ได้สนรายละเอียดนั้นแม้แต่น้อย ผมแค่สนว่า จะทำไงให้ ณัฐกานต์ยอมรับและยอมช่วยเหลือ ตาลเท่านั้นเอง...

แต่ผมก็รู้ดีว่า การกระทำของผมนั้น มันดูเหมือนเป็นการกระทำที่ไร้ศักดิ์ศรีมากๆ และบางทีก็อาจจะมีคนสงสัยว่า ทำไมถึงยอมทำขนาดนี้ ให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง...นั้นก็เพราะว่า ผมมองเธอเป็นคนสำคัญ ถึงแม้เธอจะโดนกระทำและผ่านอะไรมามากก็ตาม... 

“...... ถ้างั้นก็เริ่มทำงานในฐานะทาสซะทีสิ..” ณัฐกานต์ที่นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยกล่าว พรฃ้อมกับยื่นขาออกมา ซึ่งผมก็มองและ ยังคง งง กับถ้อยคำนั้นของเธอ ก่อนที่ ณัฐกานต์จะเอ่ยกล่าวต่อออกมาว่า

“ชั้นเมื่อย นวดชั้นทีสิ..”ถ้อยคำถัดมาของเธอก็ทำให้ผมเข้าใจ พร้อมกับขยับเดินเข้ามาหาเธอ เพื่อปฏิบัติตามที่เธอสั่งแต่โดยดี

“อะ อืมมมม อูยยยยย...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องขึ้น ทันทีที่ ผมทำการนวดยังเรียวขาข้างนั้นของเธอ...
“เจ็บเหรอ...” ผมหันไปร้องถาม พร้อมกับขยับมือไม้บีบขยำเรียวขาข้างนั้นอย่างไม่หยุด ซึ่ง ตอนที่ผมหันไปเอ่ยนั้น ผมก็ต้องชะงัก กับสิ่งที่ผมเห็น ด้วยความที่ผมนั่งข้างล่างกับพื้น ส่วนณัฐกานต์เธอนั่งที่ขอบเตียง ด้วยความที่ระดับที่ต่างประกอบกับท่านั่งของเธอ ไหนจะเอียงกายเล็กน้อย อย่างสะท้านด้วยความเจ็บปวดนั้นอีก...จึงทำให้สายตาของผมนั้นลอบมองเข้าไปผ่านชุดนอนที่คล้ายเหมือนชุดซับในนั้น จนเห็น น้องสาวขนปุยของเธอเข้า...

“อะ อืมมมมมม...”ณัฐกานต์ที่เอ่ยตอบในลำคอด้วยสีหน้าที่เหยเก โดยที่เธอก็ไม่ทันสังเกตท่าทีของผมที่หันมามองนั้น กว่าเธอจะเอ่ยผมก็หันหน้าไปทางอื่นแล้ว..

“....จะเจ็บก็ไม่แปลกหรอก..เพราะเส้นมันเหมือนขมวดกันเป็นก้อนเลยเนี่ย..” ผมตอบ พร้อมกับบีบไปที่จุดนั้น ซึ่งนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์สะท้านทั้งร้องและแสดงสีหน้าอย่างชัดเจน....

“ดูพูดจา และการบีบ นายเคยเป็นหมอนวดเก่ารึไงหา...”ณัฐกานต์ร้องถามอย่างแสดงท่าทีที่เจ็บปวด...ซึ่งผมก็ทำการตอบเธอกลับอย่างทันที

“เปล่า แค่มีญาติเคยเป็นนะ และเค้าก็สอนผมนิดหน่อยนะ..” ผมตอบและยังคงขยับมือไม้เข้าบีบยังเรียวขาของเธออย่างไม่หยุด..และสักพักผมก็เอ่ยปากเชิงบอกกับณัฐกานต์..

“ไหนๆเธอก็สั่งผมแล้ว งั้นเดี๋ยวจะจัดเต็มให้ก็แล้วกันนะ ช่วยนอนคว่ำบนเตียงหน่อยสิ...” ผมเอ่ย ซึ่งทางณัฐกานต์นั้นก็เอ่ยตอบกลับมาสั้นๆ....

“อะ อืมมมมม...” เธอตอบ ก่อนที่ณัฐกานต์จะขยับ ลงนอนตามที่ผมต้องการ ซึ่งผมก็ขึ้นไปบนเตียงและทำการนวดเธอต่อ ซึ่งการนวดของผมนั้น ก็ทำให้เธอเอ่ยร้องอย่างเป็นระยะๆ...ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงเหมือนเธอเอ่ยบ่นอะไรสักอย่าง

“ไหงกลายเป็นแบบนี่ได้ไปเนี่ย..ที่เราคิดไว้ตอนแรกมันไม่ใช่แบบนี้นะ..”

“หือออ...เมื่อกี้ว่าอะไรเหรอ?..” ผมร้องถาม เมื่อได้ยินเสียงพึมพำของเธอ...ซึ่งณัฐกานต์ก็ตอบกลับมาแทบทันที...

“เปล่าไม่มีอะไร...” ณัฐกานต์ตอบ หลังจากนั้นเธอก็นิ่งเงียบ แต่ก็ยังคงสูดปากโอดครวญให้กับการนวดของผมเป็นพักๆ ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามขึ้นมาว่า...

“นะ... นายรักผู้หญิงคนนั้นมากเหรอ?...” คำถามของเธอก็ทำให้ผมชะงัก..ซึ่งนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์ค่อยๆขยับหันกลับมามองยังผม...ขณะที่ผมก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ...

“ถามว่ามากมัย? ก็มากอยู่นะ เธอคนนั้นเป็นรักแรกของผม ที่ผมแอบชอบมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว..” ผมตอบ..ซึ่งณัฐกานต์ก็ส่งเสียงตอบกลับมา...

“อ้อ ที่แท้เธอคนนั้น ก็มีสถานะเป็นเพื่อนของนายด้วยหรือนี่..ละ แล้ว กับน้อง ดาราข้างห้องของนายละ?..” ณับกานตืเอ่ยตอบพร้อมกับถามต่อ ซึ่งถ้อยคำที่เธอเอ่ยถามนั้นก็ทำให้ผมชะงัก เมื่อเธอถามถึง เต้ย ดาราสาวข้างห้องผม ก่อนที่ผมจะนึกออกและไม่แปลกใจว่าทำไมเธอรู้ เพราะผมจำได้ว่า เธอบอกกับผมว่า นายเจ๋งสืบเรื่องของผม จึงไม่แปลกที่จะรู้เรื่องนี้...

“วะ ว่าไงละ..แล้วนายรู้สึกไงกับน้องข้างห้อง...” ณัฐกานต์ที่ถามย้ำอย่างค่อยๆขยับยันตัวขึ้น และหันมาหาผม เชิงคาดคั่นคำตอบของคำถามนั้น...

“ยังไงเหรอ? เอาจริงๆเลยนะ..ทีแรกผมมองเธอคนนั้นไม่ต่างจากน้องสาว ซึ่งผมก็มองเธอแบบนั้นมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่ารู้สึกยังไงกับเธอ....” ผมตอบตามตรง ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ถ้าถามความรู้สึกของผมที่มีต่อเต้ย ตอนนี้มันผสมปนเปไปหมดแล้ว...

“เดี๋ยวนะ ตั้งแต่เมื่อก่อน...นายรู้จักดาราสาวนั้นมา ก่อนหน้านั้นเหรอ..” ณัฐกานต์ร้องถามด้วยความสงสัย ซึ่งผมก็เอ่ยตอบตามตรง

“อื้อออ เธอเป็นเพื่อนแถวบ้าน หรือ ถ้าพูดให้ถูก ก็เป็นเหมือนน้องสาวข้างบ้านนะ..” ผมเอ่ยตอบ ซึ่งณัฐกานต์ก็จ้องมอง และขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดอะไรเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับผมว่า...

“นายนี่มันตัวอันตรายจริงๆนะ....”

“เอะ??..”

“ก็เท่าที่ฟัง ที่รู้ นี่ นายก็ฟาดสาวที่มีสถานะเป็นเพื่อนอย่างน้อยก็ 3 คนแล้ว แบบนี้จะไม่เรียกว่าตัวอันตรายได้ไง..”ณัฐกานต์เอ่ยตอบอย่างขยายความ เล่นทำเอาผมพูดไม่ออกกับ คำกล่าวหานั้นเลย ทีแรกผมก็ งงๆ กับจำนวนอยู่นะ เพราะจริงๆมันต้อง 4 สิ...ก่อนที่จะรู้ด้วยตัวเองว่า ณัฐกานต์น่าจะไม่รู้เรื่องคุณแว่น และจำนวน 3 ที่ว่าก็คงรวมตัวเองไปแล้วด้วย....

“นะ นี่ แล้วนายคิดยังไงกับ เพื่อนที่ทำงานคนนี้ของนายละ?..” ณัฐกานต์ที่นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามอย่างจ้องมองหน้าของผม ซึ่งคำถามดั่งกล่าวนั้นก็ทำเอาผมอึ้งพูดไม่ถูกเช่นกัน...

“คิดยังไงเหรอ?...” ผมเอ่ยทวนคำถามของเธอ ขณะที่ณัฐกานต์ก็ค่อยๆขยับร่างเข้ามาหาผม พร้อมเอ่ยเชิงย้ำ...

“ใช่ คิดยังไงกับชั้น...” เธอถามย้ำ ซึ่งคำถามดั่งกล่าวนั้นเป็นอะไรที่ไม่เข้าใจ และยากมากสำหรับผม เพราะผมไม่แน่ใจว่า ตอบไปแล้วจะมีผลอะไรกับเรื่องของตาลมัย? และตอบแบบไหนถึงจะถูกใจเธอ??

แต่ถ้าว่ากันตามตรงนั้น เดิมทีผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับณัฐกานต์แม้แต่น้อย....ถึงแม้เราจะทะเลาะกันเรื่องงานออกบ่อยก็ตาม แต่ก็ไม่เคยนึกเกลียดอะไรเธอมากมายเลย ถ้าว่าตรงๆ รู้สึกเฉยๆซะมากกว่า ที่ดูเหมือนไม่ถูกกันเป็นเพราะเรื่องงาน จนกระทั้งเกิดเรื่องบางอย่างเมื่อ เดือน 2 เดือนก่อน ที่ทำให้เรามีอะไรกัน...หลังจากเหตุการณ์นั้นผมเองก็ยอมรับว่าความรู้สึกที่มีต่อณัฐกานต์นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไป...จากที่เฉยๆนั้นก็เริ่มมองเธอไปในทางลักษณะผู้หญิงมากขึ้น...

ณัฐกานต์ที่จ้องมองผมอย่างต้องการคำตอบของคำถามนั้น ขณะที่ผมเองก็จ้องมองเธอตอบอย่างไม่รู้จะตอบยังไงดี...

“ตอบยากเหรอ?...ก็เข้าใจอยู่หรอกนะ แต่ถ้านายไม่คิดอะไร แต่ถ้าชั้นบอกว่า ชั้นคิดละ?..” ณัฐกานต์ที่เป้นฝ่ายเอ่ยอย่างทำลายความเงียบนั้น ถ้อยคำของเธอก็ทำให้ผมอึ้งตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยถามกลับ เธอก็ขยับใบหน้าเข้ามาประกบริมฝีปากของผมเสียแล้ว...

ใช่ครับ...เธอจูบผม.....

“อะ อืมมมมมมม..” เสียงครางในลำคอที่เอ่ยร้องดังขึ้น และไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด ทั้งๆที่ณัฐกานต์ขยับเข้าสัมผัสปากของผมอย่างธรรมดาแท้ๆ แต่มันกลับพัฒนากลายเป็นจูบแบบดูดดื่มอย่างรวดเร็วก็ไม่รู้ ราวกับเปลวไฟที่กำลังติดไฟ เพราะถูกราดด้วยเชื้อเพลิงก็ไม่ป่าน.....

โดยที่ผมก็ขยับเข้าไปหาเธอมากยิ่งขึ้น ขณะที่ทางณัฐกานต์เองก็ขยับมือไม้เข้ามากอดคล้องคอของผมเอาไว้ ก่อนที่สักแป๊บร่างของเธอก็เอนกายล้มลงนอนยังที่เตียง จากการขยับเข้ามาของผมที่เหมือนเป็นการผลักดันเธอกลายๆ...แน่นอนว่าพอเธอล้มตัวลงนอน ผมก็ตามจนกลายเป็นว่า ผมได้เข้าขึ้นคร่อมร่างของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...

“อือออออออ...” เสียงครางเบาๆที่เอ่ยดังขึ้น พร้อมกับริมฝีปากของเราที่ค่อยๆถอนออก และทำการจ้องมองตากันอย่างพูดอะไรไม่ออกกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ใช่ ผมเองยัง งงๆ อยู่เหมือนกัน..และผมก็ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยถามถึงถ้อยคำเมื่อกี้ รวมถึงขยับร่างออกไปนั้น...ซึ่งผมตั้งใจจะทำแบบนั้น แต่ก็ถูกรั้งเอาไว้จากมือไม้ของณัฐกานต์ที่ยังคงกอดคล้องคอของผมอยู่...

“ทะ ทำชั้นสิ.......ถ้านายไม่ทำ ชะ ชั้นไม่ช่วยเธอคนนั้นจริงๆนะ..” ณัฐกานต์ที่เหนียวรั้งผมไม่ให้ขยับออกไปนั้น ก็เอ่ยกล่าว ด้วยสีหน้าระเรือแดง...มันเป็นถ้อยคำที่ชวนอึ้งอยู่ไม่น้อย...

“ทำนี่หมายถึง...” ผมที่กลืนน้ำลายและกลั้นใจเอ่ยถาม ด้วยความสงสัยและไม่แน่ใจว่า ที่ให้ทำนั้น ใช่แบบเดียวกับที่ผมเข้าใจหรือไม่? ก่อนที่ณัฐกานต์เธอจะเอ่ยตอบผมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำกว่าเดิม..

“จะ จะต้องให้ชั้นพูดให้ชัดๆ หรือไงตาบ้า...” คำกล่าวตอบที่เอ่ยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำอย่างน่ารักนรั้น ก็ทำเอาผมอึ้งเล็กน้อย แต่ผมก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไร นอกจากจะจ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง และก้มลงจูบปากของเธออีกครั้ง พร้อมกับทำการตอบสนองตามที่เธอต้องการนั้น..

“อื้อออออออ...อือออออออออ..” เสียงครางในลำคอของเราทั้ง 2 ที่เอ่ยร้องดังขึ้น พร้อมกับริมฝีปากที่ต่างขยับกันไปมาอย่างแลกลิ้นอย่างดื่มด่ำ ใช่ เธอกับผมต่างจูบปากอย่างดูดดื่มอย่างเนิ่นนานมากๆ ยิ่งนานเท่าไร ไฟสวาทของเรานั้นก็เหมือนยิ่งลุกโชก ซึ่งถ้าจะหยุดนั้น ก็ทำได้ หลังจากที่จูบเสร็จเท่านั้น...

หากเธอเอ่ยร้องอย่างเปลี่ยนใจ ผมก็ตั้งใจว่าจะหยุดเหมือนกัน แต่ทว่า ก็ไม่มีถ้อยคำใดๆที่เอ่ยออกมาจากปากของณัฐกานต์เลย หลังจากที่เราได้จูบอย่างดื่มด่ำอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยนั้น...พอไม่มีถ้อยคำที่เปลี่ยนใจ หรือ ร้องห้ามออกมานั้น ผมก็เดินหน้าต่อ ด้วยความรู้สึกที่สับสนนิดๆ ว่า ที่ทำอยู่นั้น เพื่อตนเอง หรือ เพื่อตาลกันแน่..

ใช่...พอไม่มีถ้อยคำพวกนั้นออกมา ผมก็กระทำต่อ ด้วยการแหวก/เลื่อนสายเดี่ยวของเธอ เพื่อให้หน้าอกหน้าใจของณัฐกานต์นั้นได้เผยโฉมออกมา...โดยที่ผมก็ยังจำได้ที่ ถึงเต้านมที่ได้รูปสวยที่มียอดปทุมสีสวยนั้น ซึ่งณัฐกานต์นั้นก็แสดงท่าทีเล็กน้อยตั้งแต่ผมทำการเลื่อนสายเดี่ยวของเธอแล้ว แต่ก็มิเอ่ยร้องอะไร แค่ทำท่าเหมือนจะร้องเท่านั้น...

หลังผมจ้องมองเต้านมนั้น เล็กน้อย...ผมก็ค่อยๆเลื่อนมือไม้เข้าไปสัมผัสบีบคลึงมันอย่างเบาๆ โดยที่นิ้วชี้ของผมนั้นก็พาดคลึงยังที่ปทุมถั่น และนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์มีปฏิกิริยาและร้องครางอย่างสะท้าน...

“อะ อื้อออออออ..” เธอร้องครวญ...ด้วยความสยิวเสียว...ก่อนที่จะมีปฎิกิริยามากขึ้น เมื่อผมได้ก้มลงเข้าไปดื่มด่ำมัน ใช่ตอนก้มลง เหมือนผมได้ยินเสียงร้องห้ามเธอด้วย...

“ดะ เดี๋ยว...” เสียงห้ามเบาๆของณัฐกานต์ที่เอ่ยขึ้น ซึ่งเบาจนเกือบแทบไม่ได้ยิน และผมเองก็ไม่ได้สนใจและใส่ใจอีกแล้ว หากแต่เข้าประกบดูดยังปทุมถั่นของเธออย่างทันที และนั้นก็ทำให้เธอถึงกับสะท้านและส่งเสียงครวญครางออกมา...

“อะ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องครางอย่างสะท้าน ด้วยน้ำเสียงที่ดังพอควร เนื่องจากผมได้ทำการดูดปทุมถั่นของเธออย่างหนักหน่วงแบบเน้นๆ...ใช่ เธอเอ่ยคราง ก่อนที่จะเอ่ยปรามผม..

“นะ นี่ดูดแรงไปแล้วนะ เดี๋ยวหัวนมชั้นดำหมดพอดี อื้ออออออ...” เธอเอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงที่แง่งอน บวกกับสีหน้าที่แสดงออกมานั้นก็ทำให้เอน่ารักเป็นพิเศษ จนผมที่แหงกเงยหน้าขึ้นนั้น อดที่จะแกล้งเธอไม่ได้ ทีแรกก็ว่า จะแหงดกหน้ามาและตอบรับเธอแต่โดยดีนะ (แต่พอเห็นหน้าเธอแล้ว เลยเปลี่ยนใจ)

“แล้วถ้าผมอยากจะดูดให้ดำละ...” ผมเอ่ยเชิงแหย่เธออย่างมีรอยยิ้ม ทีแรกผมนึกว่าณัฐกานต์จะเอ่ยต่อว่าใส่ แต่กลับผิดคาด เธอกลับหน้าแดงและอึ้งกับถ้อยคำที่เอเอ่ยตอบกลับมานั้น...

“ถะ ถ้านายต้องการแบบนั้น กะ ก็ได้ ชั้นจะยอมให้นายดูดจนดำก็ได้... แต่นายต้องรับผิดชอบด้วยนะ..” ณัฐกานต์เอ่ยตอบด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ ซึ่งผมก็อึ้งไปแวบ ก่อนจะยิ้มแย้มและก้มลงดูดทรวงอกของเธอต่อ ท่ามกลางเสียงครางที่เอ่ยร้องอย่างสะท้านให้กับการกระทำนั้นของผม...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา...” เธอเอ่ยร้องพร้อมกับแอ่นกายอย่างสะท้าน ด้วยความเสียวจากการโดนผมดูดดื่มยังปทุมถั่นของเธอ ซึ่งนอกจากผมจะดูดดื่มปทุมถั่นของเธอนั้น มือไม้ของผมอีกข้างก็ได้ทำการลูบคลำ บีบคลึงเต้านมอีกข้างของณัฐกานต์ไปด้วย...

และสักพักต่อมา ผมก็ค่อยๆขยับตัวขึ้นพร้อมกับเลื่อนตัวขยับลงต่ำเพื่อไปหาเป้าหมายต่อไป และเหมือนณัฐกานต์เองก็รู้ เธอก็ให้ความร่วมมือกับผมเป็นอย่างดี ด้วยการถลก ชายเสื้อนอนที่เหมือนเป็นชุดชั้นในนั้นขึ้น พร้อมกับขยับแข้งขาอย่างถ่างอ้านิดๆ  โดยที่ผมนั้นก็จับจ้องมอง ยังของสงวนของเธอที่ปกคลุมด้วยป่าน้อยใหญ่...

“อะ อย่าจ้องแบบนั้นสิ ชั้นอายนะ..” ณัฐกานต์เอ่ยร้องบอก ด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ ซึ่งเธอก็เอ่ยเหมือนดั่งครั้งก่อนไม่มีผิด ใช่ ครั้งก่อนผมก็จ้องมองแบบนี้ และเธอก็เอ่ยเช่นนี้เหมือนกัน...

“งั้นผมไม่จ้องก็ได้ งั้นเลียเลยก็แล้วกันนะ..” ผมตอบพร้อมกับขยับใบหน้าก้มลงเพื่อหมายจะกระทำตามที่ตนเองเอ่ยไว้ โดยไม่สนถึงปฎิกิริยาของณัฐกานต์ในเวลานั้น ว่าเธอได้แสดงท่าทีแบบไหนออกมา เมื่อได้ยินถ้อยคำของผมนั้น รู้สึกเหมือนเธอจะเอ่ยร้องห้ามเล็กๆ แต่ผมก็ไม่สนใจถึงเสียงร้องห้ามนั้น แน่นอนว่า ไม่กี่อึดใจ เสียงครวญครางของเธอนั้นก็ดังขึ้น ด้วยความเสียวซ่าน จากชิวหาที่เข้าละเลงเลียนั้น....

“อะ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่ค่อยบๆส่งเสียงครางอย่างดังขึ้นทีละน้อยด้วยความเสียว จากปลายลิ้นของผมที่แตะขยับอย่างมิรังเกียจ ถึงแม้หีของเธอจะมิสวยสดปิดเรียบก็ตาม..ใช่ผมขยับละเลงจนทำเอาเธอต้องขยับสับส่ายแอ่นกายอย่างสะท้านมากขึ้นเรื่อยๆ...
“กะ กาย ณัฐเสียวนะ ณัฐเสียววววว...” เธอเอ่ยร้องพร้อมกับขยับมือไม้เข้าจิก/จับประคองยังศีรษะของผม ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตรงนี้เลย ไม่ว่าจะ ตาล หรือ เต้ย หรือ ณัฐกานต์ ตอนโดนผมเลียหีนี่ ปากก็ร้องว่าเสียว แต่มือนี่กลับกดผมอย่างไม่ยอมให้ผมห่าง แทนที่จะผลักไส้ แปลกมัยละครับ...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยครวญครางดัง ก่อนจะหวีดร้องครางยาวออกมาด้วยความเสียวสุขจากการถูกผมเล้าโลมด้วยชิวหานั้น และพอผมแหงกเงยหน้าเพื่อจ้องมองเธอที่หอบครางในยามนี้ เธอก็เอ่ยบอกกับผมว่า...

“ตะ ต่อ ไปตาชั้น ทะ ทานไส้กรอกของนายบ้างนะ...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยถ้อยคำดั่งกล่าว ด้วยน้ำเสียงที่หอบคราง อย่างมีสีหน้าที่ระเรือแดงจนทำให้เธอในเวลานี้แลดูน่ารักมากๆ ซึ่งผมที่ชะงักนั้นก็ค่อยๆอมยิ้มและยอมให้เธอทานไส้กรอกของผมอย่างที่ต้องการ...

“ใหญ่จัง...นายนะ เป็นคนไทยจริงๆ ไม่ได้เป็นพวกลูกครึ่งนิโกร ใช่มัย?..” ณัฐกานต์ที่ร้องถามด้วยสีหน้าระเรือแดง อย่างกลืนน้ำลายนิดๆ หลังจากที่ผมลงนอนที่เตียงพร้อมกับควักลำควยออกมาเพื่อให้เธอดูดอม...

“หน้าผมเหมือนกับเป็นพวกลูกครึ่งระไงครับ คุณณัฐ...” ผมตอบด้วยรอยยิ้ม ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม น้องชายผมมีขนาดใหญ่ได้แบบนี้ จะว่าไปสมัยเรียน ร.ด. ตอนอาบน้ำ เพื่อนๆมันก็แซวเหมือนกันนะ และเท่าที่ผมแอบดูของพวกมันก็ต้องยอมรับแหละว่า ของตัวเองออกดูผิดปกติ เพราะใหญ่ล้ำหน้าชาวบ้านพอตัว...

“น้องๆ ไม่สิ น่าจะพอๆหรืออาจจะใหญ่กว่าของพวกนิโกรอีกมัง..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยกล่าวอย่างจับจ้องมองและขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ยังท่อนเอ็นที่แข็งโด่ของผม...แต่ไม่ทันที่เธอจะเอาลิ้นแตะยังควยของผมก็ขยับควยหนีออกจากลิ้นของเธอซะก่อน เล่นทำเอาเธอแหงกหน้าควับอย่างไม่พอใจทันที...

“อะ...” ณัฐกานต์เอ่ยร้องอย่างแหงกหน้าด้วยท่าทีเหมือนเด็กน้อยถูกแย่งอมยิ้มก็ไม่ป่าน ซึ่งสีหน้าท่าทีของเธอนั้นก็ทำเอาผมอมยิ้มมากกว่านึกกลัว พร้อมกับเอ่ยถามในสิ่งที่อยากรู้ เพราะมันเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เธอพูดถึง พวกนิโกร...

“เห็นพูดถึงนิโกร 2 ครั้งแล้ว คุณณัฐเคยนอนกับพวกนิโกรด้วยหรือครับ...” ผมที่ร้องถาม ซึ่งก็ทำเอาณัฐกานต์ ขมวดคิ้ว และไม่รู้ผมนึกไงถึงได้กล้าดีต่อรองกับเธอด้วยการ...

“ถ้ายอมตอบ ผมจะให้ไส้กรอกท่อนนี้...” ผมเอ่ยพร้อมกับขยับท่อนควยเข้าแตะตียังริมฝีปากของณัฐกานต์เบาๆ ใช่เป็นการกระทำที่วอนตายมากเลยว่ามัยครับ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เธอเอ่ยโวยวายอย่างโกรธกับการกระทำนั้นของผมเท่าไร นอกจากมีสีหน้าระเรือแดงเล็กน้อย..ก่อนจะขยับปากตอบ...

“เคย..” เธอตอบอย่างเบาๆ ส่วนผมก็ไม่รู้นึกยังไง ถึงได้กล้าเอ่ยถามต่อ...

“ครั้งเดียว? หรือ เคยหลายครั้งละครับ?..” คำถามถัดมา ของผม ก็ทำให้ สาวสวยอย่างณับกานต์ที่มีสีหน้าระเรือแดงนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างแสดงความไม่ชอบพอ ต่อคำถามนั้น แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงเอ่ยตอบคำถามของผม แถมเอ่ยตอบชนิดที่ผมไม่ต้องถามใดๆต่ออีกเลย...
“....หลายครั้ง ครั้งละ 6-8 ควย แถมโดนพวกนิโกรจับแตกในทุกครั้งด้วย พอใจรึยังละ..” ณัฐกานต์ตอบ ด้วยน้ำเสียงท่าทีที่เหมือนเหลืออด และพอตอบจบเธอก็คว้าควยผมเข้าดูดอมอย่างแทบทันที จนทำให้ผมไม่มีเวลาให้อึ้งกับคำตอบของเธอเลย..

“อะ...อูยยยยยยยยย..” ผมที่สูดปากร้องครางด้วยความเสียวจากการดูดอมท่อนเอ็นของเธออย่างไปมาไม่หยุด ซึ่งนอกจากผมจะเสียวแล้ว ก็ยังคงครุ่นคิดถึงสิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้นี้อีกด้วย ว่า มันเป็นเรื่องจริงๆเหรอ?...ที่ คนสวยๆอย่างณัฐกานต์เคยโดนพวก
นิโกรรุมหลายครั้ง...ถึงแม้ไม่อยากเชื่อแต่พอนึกถึงสภาพหีของเธอที่ออกปลิ้นแลบออกมา ถึงแม้จะไม่ปลิ้นหนักเท่ากับของตาลก็ตาม...แต่นั้นก็เหมือนเป้ฯเครื่องยืนยันได้ระดับหนึ่งว่า สิ่งที่เธอพูดนั้น อาจจะจริงก็ได้...

และในขณะที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น แน่นอนว่า ท่อนเอ็นของผมก็ถูกเธอดูดอมอย่างเมามันส์ ซึ่งณัฐกานต์นั้นก็ดูดอมควยของผมอย่างขึ้นสุดลงสุด..และที่เสียวซ่าน และน่าทึ่งคือ ตอนเธอดูดอมควยของผมจนสุดโค่นควย แถมยังค้างอยู่ในสภาพนั้นแบบพักใหญ่ โดยที่ไม่มีท่าทีที่อึดอัดแต่อย่างใด...

“อื้อออออออ...มะ ไม่ไหวแล้ว ยิ่งดูดควยนาย ชั้นยิ่งเงี่ยน ชั้นขอขึ้นขย่มควยของนายเลยนะ..” ณัฐกานต์ที่ค่อยๆแหงกหน้าเอ่ยกล่าวเชิงขอผมขึ้น หลังจากดูดอมควยอยู่พักใหญ่ จนควยผมทั้งแข็งทั้งชุ่มฉ่ำด้วยน้ำลายของเธอ...

“เออ อืมมมมม...” ผมตอบตกลงคำขอของเธออย่างโดยดี อย่างรู้สึกทึ่งอึ้งเล็กน้อยกับสีหน้าตอนที่เธอเอ่ยร้องขอผม สีหน้าของเธอที่แลดูถึงความอยากและกระหายที่แลดูร่านมากๆ...และพอผมตอบตกลง ณัฐกานต์ก็ยิ้มหวานพร้อมกับตอบผมอย่างสั้นๆ

“ดีมาก...” เธอเอ่ยพร้อมกับขยับตัวเข้าขึ้นคร่อมยังร่างของผม พร้อมกับทำการถอดชุดที่สวมใส่อยู่นั้นออก..ซึ่งทำให้ผมตาโตเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างอรชรขาวนวลของณัฐกานต์ที่ได้นั่งอยู่บนร่างของผมนั้น..ซึ่งพอเธอถอดชุด และโยนมันลงกับพื้น ก็ได้ก้มลงมองผมและเอ่ยกล่าวเชิงบอกกับผมว่า...

“ใหญ่ๆแบบนี้ จะขย่มให้ยันเช้าเลย...” ณัฐกานต์เอ่ยด้วยสีหน้าระเรือแดง พร้อมกับยกช่วงล่างของเธอขึ้น และขยับเข้าครอบยังท่อนควยของผมที่แข็งโด่ ให้เธอขย่มอยู่นั้น และไม่กี่อึดใจเธอก็ค่อยๆกดช่วงล่างของตัวเองเข้าใส่ยังลำควยของผม ท่ามกลางเสียงร้องครางลั่นของณัฐกานต์ที่เอ่ยดังขึ้น....

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์เอ่ยร้องอย่างเสียงดังด้วยสีหน้าที่เหยเก แถมเธอยังลงนั่งทับควยผมอย่างมิดด้ามเสียด้วย ขณะที่ผมก็มีท่าทีที่เสียวซ่านมากๆชนิดที่แทบเกือบน้ำแตกเลย ก็โดนเธอดูดอมควยอย่างร้อนแรง และต่อ ด้วยขึ้นขย่มเย็ดควยแบบนี้ แถมร่องหีของเธอยังฟิตแน่นสุดๆอีก จะไม่ให้เกือบแตกได้ไง...

“อย่าเพิ่งรีบแตกนะ...ถ้ารีบแตกละก็ ชั้นฆ่านายทิ้งแน่...” ณัฐกานต์ที่เหมือนจะรู้เลย เอ่ยเชิงข่มขู่กับผม..ก่อนจะสะบัดบรรเลงท่วงท่าในการขย่มลำควยของผมอย่างไปมา แน่นอนว่าผมก็ไม่ได้กลัวต่อคำขู่นั้น แต่อย่างใด (ก็มา ขู่ขณะกำลังขย่มควยใครมันจะกลัวละครับ ซึ่งนอกจากไม่กลัวแล้ว ยังเสียวมากอีกด้วย....)

“อูยยยยยยย เบาหน่อย ช้าหน่อย มันเร็วและแรงเกินไปแล้วนะ ..” ผมที่เอ่ยร้องบอกด้วยสีหน้า น้ำเสียงที่แสดงถึงความเสียวซ่านจากการขยับขย่มของณัฐกานต์เอามากๆ ซึ่งคุณเธอก็ขยับขย่มลำควยของผมชนิดที่ใส่เกียร์ 5 เดินหน้าท่าเดียว แบบไม่คิดจะชะลอ หรือ คงความเร็วไว้เลย มีแต่ขย่มแรงขึ้นและแรงขึ้นเรื่อยๆ ...

“ถ้าไม่ขย่มแรงๆ แล้วควยใหญ่ๆแบบนี้มันจะหักได้ไงละ?...อย่ามาทำงก ทำหวงกับชั้นนะ ทีเมื่อกี้ ชั้นยังยอมให้นายดูดหัวนมจนดำได้เลย..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยโต้ตอบ ซึ่งตอนที่เธอเอ่ยถ้อยคำนี้ เธอก็หยุดขย่มควยผมก็จริง แต่ก็ขยับหีคลึงบดควยผมไปมา เล่นทำเอาเสียวสุดๆ...

“มันไม่เหมือนกันนะ อีกอย่าง ผมยังไม่ได้ดูดจนหัวนมของคุณณัฐดำเลยนะ...” ผมโต้ตอบด้วยน้ำเสียงที่บงบอกถึงความเสียวซ่านจากหีที่บดคลึงไปมานั้น...ก่อนที่ณัฐกานต์จะเอ่ยโต้ตอบกลับ...

“ไม่ต้องเรียกคุณแล้ว...ฉะ เฉพาะตอนนี้ ชั้นอนุญาต ให้นายเรียกชั้นยังไงก็ได้ จะเรียก ณัฐเฉยๆ หรือจะเรียกอย่างหยาบๆคายๆอย่าง อีณัฐ ก็ได้นะ ชั้นไม่ว่า ชั้นไม่ถือ อื้อออออออออ!!..” เธอเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เนื่องจากเธอนั้นก็ค่อยๆเริ่มขยับขย่มควยผมอีกครั้ง แน่นอนว่า ผมเองก็เสียวซ่านและอึ้งกับถ้อยคำนั้นของเธอเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะขานรับ...

“ขะ เข้าใจแล้ว...” ผมตอบรับ ซึ่งณัฐกานต์ที่ขยับขย่ม และก้มลงมองผมที่นอนอยู่ใต้ร่างของเธอนั้นก็ยิ้มหวาน ก่อนที่เฮจะวกเอ่ยกลับมายังเรื่องเก่าที่ผม ได้เอ่ยกับเธอเมื่อกี้...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา....ถ้านายคิดว่ามันไม่เหมือนกันละก็ เอางี้มัย...ชั้นอนุญาตให้นายขยำขยี้นมของชั้นได้ตามใจชอบ ขณะที่ชั้นทำการขย่มควยของนาย..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยครางและเอ่ยกล่าวเชิงบอกกับผม อย่างค่อยๆขยับกายอย่างแอ่นไปทางปลายเท้าของผม เพื่อยืดตัวให้หน้าอกหน้าใจ อันอวบอิ่มและกลมสวยนั้นก็เด่นชัดมากขึ้น...

ถึงแม้สิ่งที่เธอเสนอมา มันก็ยังไม่เท่าเทียมกับสิ่งที่เธออยากจะกระทำก็ตาม ใช่ มันไม่คุ้มหรอก โดนขย่มจนควยหัก แต่ได้ขยำขยี้นมอย่างตามใจชอบเนี่ย แต่ถึงดูไม่คุ้ม แต่ผมก็กลับรับข้อเสนอนี้ครับ(ฮา) จริงๆ ผมก็คิดว่า เธอคงไม่รุนแรงขนาดขย่มจนควยผมหักจริงๆหรอก ถึงแม้ท่าทีและท่วงท่ามันส่อไปตามนั้นก็ตาม...

ใช่...ครับ พอเธอเสนอมา ผมก็ตอบรับข้อเสนอของเธอด้วยการกระทำแทน ซึ่ง ณัฐกานต์ก็มีท่าทีสะดุ้งสะท้านนิดๆ จากมือไม้ของผมที่เข้าจับสัมผัสยังเต้านมทั้ง 2 ของเธอ ขณะที่เธอก็ยังคงขย่มลำควยของผมอย่างไม่หยุด...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา กายยย ณัฐเสียว ณัฐเสียวจังเลยค่ะ..” เธอเอ่ยครางและเอ่ยเชิงบอกผมด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเสียวและความสุขสม ขณะกำลังทำการขย่มลำควยของผมอย่างไปมา..โดยที่ผมก็ตอบโต้การขย่มของเธอ ด้วยการเค้นคลึงเต้านมสวยๆของเธออย่างไปมาไม่หยุด...

และหลังจากที่โดนณัฐกานต์ขย่มควยมากว่า 6 นาทีได้ เธอก็เริ่มร้องบอกถึงความเสียวที่ใกล้ถึงฝั่งฝัน....

“กายยยยย ณัฐ ณัฐจะถึงแล้ววววว อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องบอกอย่างเสียงดัง ซึ่งในช่วงจังหวะดั่งกล่าว ผมก็ได้เลื่อนมือไม้ทั้ง 2 จากเดิมที่วางนาบบนหน้าอกหน้าใจ อย่างทำการขยำขยี้อยู่นั้น ก็ค่อยๆเลื่อนมาจับประคองที่เอวของเธอ และทำการเร่งเครื่องเสยควยเพื่อให้ไปถึงฝั่งฝันพร้อมกับเธอ...

แน่นอนว่าการกระทำของผมนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์ถึงกับสะท้านและร้องครางระงม ก่อนที่ไม่กี่อึดใจ เธอก็ต้องหวีดร้องครางยาวอย่างถึงจุดหมายพร้อมกับผม....

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่หวีดร้องครางยาวด้วยความเสียวสุขจากการขย่ม และการโดนน้ำควยร้อนๆของผมหลั่งราดเข้าไปในมดลูกของเธออย่างเต็มเหนี่ยวนั้น...ซึ่งท่าที สีหน้าของณัฐกานต์ที่แสดงออกมาในเวลานี้นั้น ก็เป็นอะไรที่สวยและน่าหลงใหลมากๆ...

สีหน้าของณัฐกานต์ที่ระเรือแดงอย่างมีรอยยิ้มนิดๆด้วยความเสียวและความสุขสม..ร่างอรชรที่เริ่มมีเหงื่อโทรมกายนั้นก็ถึงกับกระตุกและสั่นเทาไม่หยุด และที่น่าจับตามองไม่เพียงสีหน้าของเธอนั้น ก็คือ เต้านม หรือระบุให้ชัดหน่อย คือ ปทุมถั่นสีสวยของเธอที่ตอนนี้มีลักษณะชูชั่นขึ้นมาอย่างสุดๆ...

ณัฐกานต์ที่นั่งทับควยผมในสภาพสั่นสะท้านด้วย ท่าทีที่เสียวสุขนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เธอจะค่อยๆเอนกายลงมาฟุบนอนทาบทับยังร่างของผมด้วยความอ่อนล้า อ่อนแรง..ซึ่งนั้นก็ยิ่งทำให้ผมได้ยินเสียงหอบครางอย่างเหนื่อยล้าและเสียวสุขอย่างชัดเจนมากขึ้น....

ขณะที่ทางผมเองนั้นก็หอบครางและเสียวซ่านไม่แพ้เธอเลย เพราะร่องรักของเธอนั้น ทำการตอดดูดควยผมอย่างแน่น และแรงมากๆ และไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด หรือ เพราะความหื่นของผมที่มากมายนั้น ถึงได้มีการหลั่งน้ำควยออกมาเป็นละลอกที่ 2 ห่างจากระลอกแรกเพียงไม่ถึงนาทีเท่านั้น....

ถึงแม้ปริมาณมันจะไม่มากมายแต่ความแรงที่ได้ทะลักออกมานั้น ก็ทำให้ ณัฐกานต์เอ่ยร้องด้วยความตกใจ.....

“วะ ว้ายยยยยยยยยยย..” เธอเอ่ยร้องอย่างเสียงดัง ด้วยควยามตกใจ ซึ่งสีหน้าของเธอก็ถึงกับเหยเกอย่างแสดงถึงความเสียวเอามากๆ ก่อนที่เธอจะเอ่ยเชิงบ่นๆเบาๆ...

“มีการปล่อยรอบ 2 ด้วยหรือนี่..” เธอเอ่ยอย่างเบาบาง จนผมแทบไม่ได้ยิน ก่อนจะหันแหงกเงยหน้ามามองหน้าผม พร้อมกับเอ่ยกล่าวกับผมว่า...

“เล่นปล่อยซะเยอะแยะแบบนี้ ถ้าชั้นท้องขึ้นมา นายต้องรับผิดชอบด้วยนะ..” ณัฐกานต์เอ่ยกับผมด้วยสีหน้าที่ระเรือที่แสดงท่าทีเหมือนงอนนิดๆ แต่กลับดูน่ารักมากๆ ซึ่งนั้นก็ทำเอาผมพูดไม่ถูกเลยเมื่อเห็นสีหน้าของเธอยามนี้..

“อืมมม ว่าแต่ คุณณัฐครับ...” ผมตอบ พร้อมกับเอ่ยเรียกเธอ แต่เธอก็เอ่ยแทรกขึ้นมา...

“ณัฐ? ชั้นบอกแล้วไง ว่า เฉพาะตอนนี้ให้เรียกห้วนๆได้...” เธอเอ่ยแทรกขึ้นด้วยสีหน้าที่แดงก่ำเล็กน้อย ซึ่งถ้อยคำของเธอนั้นก็ทำเอาผมชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยใหม่แต่ต้นอีกครั้ง...

“เออ...ณัฐครับ...อิ่มรึยังครับ?...” ผมที่เกาหัวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเรียกดั่งที่เธอต้องการ ตอนที่ผมเรียกเธอห้วนๆนั้น ณัฐกานต์ก็แสดงปฎิกิริยาออกมาให้เห็นแวบหนึ่งด้วย และเธอก็ใช้เวลาตอบคำถามที่มีนัยยะแฝงนั้นเพียงพริบตาเดียว...

ใช่...เธอแหงกหน้าอย่างมองผมและเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำออกมาว่า....

“ยัง!!...” คำตอบของเธอนั้นก็เหมือนเป็นเครื่องบงชี้กลายๆ ถึงบทเพลงสวาทในค่ำคืนนี้ที่ยังคงมีต่อ....

“อะ อูยยยยยยยยยยย...” เสียงสูดปากร้องครางของผมที่เอ่ยดังขึ้น...ด้วยความเสียวซ่านจากริมฝีปากของณัฐกานต์ที่เข้าดูดอมควยของผมเป็นครั้งที่ 2  ในค่ำคืนนี้ ซึ่งเธอก็ลงมือทันที ที่ผมและเธอต่างหายเหนื่อยจากการบรรเลงเพลงรักในรอบแรกนั้น พอหายเหนื่อย เธอก็ได้เอ่ยสั่งผมให้ลงไปยืนที่ข้างๆเตียง แน่นอนว่า ผมก็ทำตามที่ต้องการอย่างว่าง่าย

และพอผมลงไปยืนข้างๆเตียงนั้น เธอก็ค่อยขยับคลานตามหลังผมเข้ามา ก่อนจะก้มลงดูดควยอย่างที่เห็นอยู่ในเวลานี้..

“อืมมมม อูยยยยยยยยยย..” ผมที่สูดปากร้องคราง อย่างเป็นระยะ ด้วยความเสียวซ่านที่ณัฐกานต์เป็นผู้กระทำ ริมฝีปากที่ค่อยรูดดูดไถลไปตามลำควย อย่างไปมานั้น ช่างเป็นอะไรที่เสียวมากๆ และมันก็ยิ่งเสียวมากขึ้น ตอนที่เธอดูดมันอย่างเน้นๆแรงๆชนิดที่ถ้าควยผมหลุดไปได้ ก็หลุดไปแล้วนั้นเป็ฯอะไรที่สุดยอดมากๆ...

พอดูจากท่าทาง ลีลาการดูดของเธอนั้นก็อดคิดไม่ได้ว่า ณัฐกานต์ชอบควยของผมรึเปล่า? และผมก็ดันเผลอดคิดดังไป หรือ พูด ง่ายๆ คือ เผลอถามออกมาตรงๆ...

“ดูท่าณัฐจะชอบควยผมเอามากๆเลยนะ..” ผมที่เผลอหลุดปากร้องถามออกมานั้น ก็ทำเอาณัฐกานต์ สาวสวยคนเก่งที่มีผมดำยาว ที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูดอมควยผมอย่างเมามันส์นั้นถึงกับชะงัก ก่อนที่เธอจะเอ่ยร้องตอบอย่างแก้ตัวด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ...

“อะ...อย่างชั้นเนี่ยนะ จะชอบ ควยของนาย อย่าพูดบ้าๆน่า.....” ณัฐกานต์ที่ผละปากออกจากควยของผมนั้นก็แหงกหน้าเอ่ยโต้ตอบด้วย ใบหน้าที่แดงก่ำอย่างสุดๆ และเพราะอะไรก็ไม่ทราบ ผมถึงไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่เธอพูดพร้อมกับถามต่ออีกว่า

“งั้นณัฐก็เป็นพวกชอบควยใหญ่ๆสินะ...”ผมเอ่ยถามต่อ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเอ่ยถามแบบนั้นไปได้ไง ซึ่งนั้นก็ทำให้ใบหน้าของณัฐกานต์แดงก่ำและดูเหมือนร้อนฉ่ามากขึ้น...ซึ่งเธอก็ไม่เอ่ยตอบและหมายจะก้มหน้าก้มตาดูดควยผมต่อ..

แต่ผมกลับแกล้งเธอด้วยการไม่ให้ควยซะงั้น ใช่ครับ ขยับหันหนี...เห็นทำเอาเธอแหงกหน้ากลับขึ้นมามองด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ และเอาเรื่อง แต่ผมกลับไม่นึกกลัวเธอในเวลานี้เลย..เธอที่แหงกหน้าจ้องมองผม ก่อนจะตอบคำถามเมื่อกี้ของผม

“ใช่...ชั้นเป็นผู้หญิงที่ชอบควยใหญ่ๆ พอใจรึยัง..และก็ ชั้นก็ไม่ได้ใจง่าย ขนาดยอมขึ้นเตียงกับผู้ชายที่มีควยใหญ่ๆทุกคนหรอกนะ...” ณัฐกานต์เอ่ยตอบอย่างยอมรับ ซึ่งทำให้ผมยิ้มแย้มให้กับคำตอบของเธอ ก่อนที่ผมจะปล่อยให้เธอดูดอมควยของผมต่อ...ซึ่งณัฐกานต์ก็ก้มหน้าก้มตาดูดอมควยของผมต่อ อยู่เกือบพักหนึ่งได้..

ก่อนที่ณัฐกานต์จะผละปากออกจากลำควยของผม ด้วยสีหน้าท่าทีที่แสดงถึงความต้องการมากกว่าการดูดอมควย!! ใช่ แค่มองก็รู้ว่า เธออยากโดนควยใหญ่ๆของผมกระทุ้งอีกครั้งแล้ว...

“ใหญ่จริงๆเลยนะ... ควยของนายเนี่ย...” ณัฐกานต์เอ่ยอย่างพึมพำ ในตอนที่เธอถอนปากออกจากควยของผม ซึ่งเธอก็จับจ้องมองควยท่อนโตที่ได้กลับมาแข็งโด่พร้อมรบ จากฝีมือการดูดอมของเธอนั้น...

ก่อนที่อีกสักแป๊บเธอจะแหงกหน้าขึ้นมามองหน้าผม พร้อมกับเอ่ยกล่าวกับผม...

“ในฐานะที่นายมีของดี...งั้นชั้นจะให้อะไรที่พิเศษกับนายก็แล้วกัน บอกไว้ก่อนนะ ว่าชั้นไม่ค่อยให้ใครทำแบบนี้บ่อยๆ”ณัฐกานต์ที่เอ่ยกล่าวด้วยสีหน้าที่ระเรือแดง แน่นอนว่า ผมเองก็ งง และ สงสัย พร้อมกับอยากรู้แทบจะทันทีว่า “พิเศษ” ของเธอนั้นคืออะไร...

ทันทีที่เธอเอ่ยถ้อยคำดั่งกล่าวจบ ณัฐกานต์ก็ค่อยๆหันหลังให้กับผม ก่อนที่เธอจะขยับเอนลงนอน หรือ พูดให้เห็นภาพ เธอกำลังขยับนอนคว่ำ พร้อมกับขยับยกสะโพกขึ้นสูง....ท่าทีดั่งกล่าวนั้นก็ทำเอาผมอึ้งและตาโต ก่อนที่จะตาโตมากขึ้น เมื่อเธอค่อยๆขยับมือไม้เข้ามาแหวกแหกแก้มก้นของตนเองออก...

“ชะ เชิญนายทำตามใจชอบเลยนะ ชะ ชอบรูไหน ก็เสียบได้เลย...” ณัฐกานต์ที่ค่อยๆเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเขินอายอย่างพอควร ขณะที่ทางผมก็ยังคงยืนอึ้ง ยิ่งกว่าเดิม เมื่อได้ยินถ้อยคำดั่งกล่าว จากที่อึ้งอยู่พอควร ตอนที่เห็นเธออยู่ในท่าทางเชื้อเชิญสุดร่านแบบนี้...

ใช่ครับ ผมอึ้งพร้อมกับจ้องมองท่าทีดั่งกล่าวของณัฐกานต์อย่างกลืนน้ำลายไม่รู้กี่รอบ..ซึ่งผมก็จับจ้องยังรูหีที่มีสภาพปลิ้นนิดๆและมีน้ำควยเยิ้มล้นออกมาหน่อยๆนั้น...ก่อนที่ณัฐกานต์จะทวงถามดังขึ้น...

“เลือกได้ยังละ? ใจคอนายจะให้คนอย่างชั้นอยู่ในสภาพน่าอายแบบนี้ถึงเมื่อไร..รึว่า นายจะต้องให้ชั้นพูดเชื้อเชิญนายอย่างร่านๆ ก่อนรึไง....” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าว เหมือนเชิงเร่งเร้าผม ซึ่งถ้อยคำนั้นของเธอก็ทำให้ผมอมยิ้มและเอ่ยโต้ตอบเธอทันที...

“นั้นสินะ ถ้าณัฐพูดแบบนั้น บางที กายอาจจะตัดสินใจได้ ว่าจะเล่นรูไหนของณัฐดี..” ผมตอบ ด้วยอารมณ์ที่อยากได้ยินถ้อยคำร่านๆของสาวสวยคนเก่งรายนี้ ซึ่งนั้นก็ทำเอาณัฐกานต์ถึงกับนิ่งไปแป๊บหนึ่งเลยกับคำตอบของผม ซึ่งเธอก็เหมือนจะรู้ว่า เดินหมากผิดไปแล้ว..และเห็นเธอนิ่งไปแบบนั้น ก็นึกว่าเธอจะไม่เอาด้วยซะแล้ว แต่ผิดคาดครับ..

“ยะ เย็ดเราเถอะนะกาย...ณัฐเงี่ยน เงี่ยนมากด้วย ได้โปรดเย็ดเราทีเถอะนะ จะรูไหนก็ได้...”ณัฐกานต์ที่เอ่ยกล่าวออกมา อย่างน้ำเสียงสั่นๆอย่างสุดร่านนั้นก็ทำเอาผมอึ้ง และของขึ้นมาก...ซึ่งผมก็เอ่ยตอบรับเธออย่างทันที...

“อะ...อื้อออออออออ...” ผมตอบรับ พร้อมกับขยับร่างเข้าประกบบันท้าย และทำการเย็ดเธอทันที และรูที่ผมเลือกนั้น ก็ยังเป็นช่องทางปกติอย่าง รูหี รูเสียวของเธอ...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยครางลั่น ทันทีที่โดนผมอัดกระทุ้งควยเข้าใส่รูหีอย่างเต็มรัก ร่างอรชรที่มีท่าทีสะดุ้งสะท้านอย่างสุดตัว...ก่อนที่เสียงครางของเธอจะระงมทันทีที่ผมทำการโยกเย็ดรูหีของเธออย่างไปมา...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่ส่งเสียงร้องครางอย่างดังระงม ด้วยความเสียวจากท่อนเอ็นของผมที่ถลุงอัดใส่ ดัง ปึกกกกกก ป้าบบบบ ป้าบบบบบ ไม่หยุด ยิ่งผมกระทุ้งแรงเท่าไร เธอก็ยิ่งร้องดังขึ้นเท่านั้น...

“กายยยยย กายยยยยยย...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องเรียกผม หลังจากโดนผมกระแทกรูหีในท่านั้นไป ไม่รู้กี่สิบที..ทีแรกผมก็นึกว่าเธอจะเอ่ยร้องขอให้ เบาควยลงหน่อย เพราะยิ่งเย็ดผมก็ยิ่งเร่งเครื่องใส่ด้วยความหนักหน่วงมากขึ้น...

“ระ แรงกว่านี้อีกสิ เย็ดให้แรงกว่านี้อีกสิ...”ณัฐกานต์ที่เอ่ยกล่าวต่อ อย่างพยายามหันมามองผม ซึ่งนั้นก็ทำให้ผมถึงกับชะงักด้วยความแปลกใจในสิ่งที่ได้ยินนั้น...

“หา???...” ผมเอ่ยร้อง ด้วยความแปลกใจ ก่อนที่ณัฐกานต์จะเอ่ยย้ำ ถึงสิ่งที่ต้องการ...

“อื้ออออออ...ชั้นบอกว่าให้เย็ดแรงกว่านี้ เอาให้แรงสุดๆ ชนิดที่กะเอาให้หีของชั้นพังเลยก็ได้...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยตอบกลับ ซึ่งผมก็เอ่ยโต้ตอบทันที....

“จะดีเหรอ? ณัฐ...” ผมเอ่ยตอบเชิงถาม เพราะผมไม่แน่ใจว่า ที่ณัฐกานต์พูดออกมานั้น อยู่ในสภาวะไหน เต็มใจ หรือ อารมณ์ชั่ววูบด้วยความเสียว? ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง...ไอ้ผมก็กลัวว่า ถ้าทำตามสั่งแบบนั้นไป วันรุ่งขึ้นอาจจะโดนเธอเล่นงานได้...

“อื้ออออออออ...ดีสิ..ถ้าเป็นควยใหญ่ๆของนายละก็ ชั้นยินดีที่จะให้พังเลย...” เธอเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานอย่างแสดงถึงความต้องการ และนั้นก็ทำให้ผมตัดสินใจสนองต่อความต้องการนั้นของเธอ.. ใช่...ผมก็ค่อยๆเร่งเครื่องกระทุ้งรูเสียวของเธอด้วยความหนักหน่วงมากขึ้น ตามที่เธอต้องการ..แน่นอนว่า ยิ่งกระทุ้งแรง เสียงครางของณัฐกานต์ก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆด้วย

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา ใช่ แบบนั้นแหละ แบบนั้น.. อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา..”ณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องบอกด้วยน้ำเสียงที่บงบอกถึงความชอบอกชอบใจ ในการกระทุ้งควยเย็ดหีของผมนั้น ซึ่งผมก็ยังคงทำตามที่เอต้องการและตอกควยอัดรูหีของเธออย่างไม่หยุด....

โดยที่ณัฐกานต์ก็โดนผมเย่อเย็ดในท่าหมานั้นอยู่นานพอควร...ซึ่งช่วงหลังๆนั้น ณัฐกานต์ก็มิได้แค่ร้องครางออกมาเท่านั้น แต่เอ่ยกล่าวเชิงบอก ถึงความเสียว ที่ได้รับจากควยของผมอย่างเป็นระยะๆ...จนกระทั้ง...

“อื้ออออ!! ไม่ไหวแล้วกาย ณัฐไม่ไหวแล้ว จะแตกแล้ว จะน้ำแตกแล้ว อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องบอกออกมาอย่างเสียงดัง ขณะที่ผมก็ยังคงรั่วควยใส่รูหีของเธอในท่านั้นอย่างมิยอมหยุด...ก่อนที่ไม่กี่อึดใจต่อมา ผมก็สบคำรามดังพร้อมกับกดลำควยให้ฝั่งลงลึกภายในรูหีของเธออย่างสุดๆ....

ท่ามกลางเสียงหวีดร้องครางยาวของณัฐกานต์ที่ร้องด้วยความสุขสมจากการเย็ดและจากการโดนน้ำควยน้ำที่ 2 เข้าไปนั้น

“อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ผมที่เอ่ยร้องคำรามราวกับเป็นผู้ชนะ ซึ่งผมก็กู่ร้องพร้อมกับกอดรัดและทำการขยับซอยควยเย็ดหีของณัฐกานต์อย่างเบาๆแบบไม่ยอมหยุด โดยหมายจะรีดน้ำควยของผมทุกหยดให้หลั่งเข้าไปในหีของเธอนั้นเอง...

ท่ามกลางเสียงครางเบาๆของณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องด้วยความเสียวซ่านจากการกระทำนั้นของผม..และเมื่อผมกระทุ้งซอยควยเย็ดหีจนพอใจ ผมก็ฟุบลงนอนทาบทับอยู่บนแผ่นหลัง และกอดรัดร่างของณัฐกานต์อย่างแนบแน่น ด้วยความสุขสม ซึ่งสภาพของเราทั้ง 2 ณ. ตอนนี้ก็ต่างมีเหงื่อกันอย่างโทรมกายเลยละ..

ผมนอนกอดรัดร่างของณัฐกานต์แบบนั้นอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่จะถอนลำควย และขยับร่างถอยออกไป...โดยที่สายตาของผมนั้น ก็ยังคงมองยังที่ร่างของณัฐกานต์ที่อยู่ในสภาพนอนคว่ำ ซึ่งเธอยังคงนอนหอบครางอย่างเนื้อตัวสั่นเทาอย่างมิยอมหยุด..

ก่อนที่ผมจะเลื่อนสายตามาจับจ้องมองยังท่อนควยของตัวเองที่มันวาว เคลือบไปด้วยน้ำรักและน้ำควยของตนเอง..ที่น่าตกใจคือ ท่อนเอ็นของผมที่หลั่งไป 2 น้ำนั้น ยังคงแข็งโด่อย่างไม่ยอมอ่อนตัวลงเลย (ทีตอนน้ำแรกยังมีการอ่อนตัวบ้างนะ)
แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น ราวกับว่า มันยังต้องการสู้ลุยกับหญิงสาวอีกรอบ...และขณะที่จ้องมองควยของตัวเองนั้น ณัฐกานต์ก็เอ่ยขึ้นมา...

“กายยย...ขะ ขออีกรอบหนึ่งสิ..เย็ดชั้นอีกรอบหนึ่งจะได้มัย?...” ณัฐกานต์ที่เอ่ย แน่นอนว่า สิ่งที่เธอเอ่ยนั้น ผมเองก็ต้องการเช่นกัน ซึ่งทำให้ผมก็ตอบรับเธอทันที...

“อื้อออ ได้สิ..” ผมเอ่ยตอบทันที ก่อนที่ณัฐกานต์จะเอ่ยกล่าวต่อ และสิ่งที่เธอเอ่ยนั้นก็ทำให้ผมถึงกับอึ้ง..

“แต่คราวนี้ ณัฐขอให้กายเล่นรูนี้ของณัฐได้มัย?...” ณัฐกานต์เอ่ยพร้อมกับขยับมือไม้อย่างแหวกแหกแก้มก้นอย่างเชื้อเชิญให้ผมถล่มประตูหลังของเธอ...และที่อึ้ง เพราะเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ ที่ถูกผู้หญิงร้องขอให้เล่นเธอทางประตูหลังนะเนี่ย...

“จะดีเหรอ? ณัฐ ของกายใหญ่นะ...” ผมที่จับจ้องมองยังที่ตูดของณัฐกานต์ที่เอได้แหวกแหกอย่างเชื้อเชิญ อย่างกลืนน้ำลายเล็กน้อย ก่อนจะร้องถามด้วยความเป็นห่วง...เนื่องจากขนาดท่อนเอ็นของผมมันใหญ่พอควร ขืนเล่นทางประตูหลังของเธอ มีหวัง บานแน่....

“อื้อออออออ...ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ตูดของชั้น รับควยของนายได้สบายอยู่แล้ว..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยตอบกลับมาอย่างทันที ซึ่งคำตอบของเธอก็ทำให้ผมอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะนึกได้ถึงเรื่องที่เธอเอ่ยเกริ่นๆไว้ จนหลุดปากถามอีกครั้ง...

“พูดงี้แสดงว่า โดนพวกนิโกรจับเย็ดตูดบ่อยละสิ...” ผมเอ่ยเชิงถามด้วยรอยยิ้ม แต่คราวนี้เธอกลับมิเอ่ยตอบ หากแต่เอ่ยเร่งเร้าแถมขู่อีกต่างหาก....

“จะเย็ดหรือไม่เย็ด ถ้านายไม่เย็ด ชะ ชั้นจะไม่ช่วยเรื่องเธอคนนั้นนะ...” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าวด้วยสีหน้าที่ระเรือแดง แน่นอนว่านั้นก็ทำให้ผมได้แต่ถอนหายใจและเอ่ยตอบรับ...

“ครับๆ..” ผมตอบรับ พร้อมกับจับควยเข้าจ่อยังที่รูตูดของเธอ ก่อนจะผลักดันมันเข้าไปตามที่เธอต้องการ และนั้นก็ทำให้ผมแปลกใจพอควร เพราะทีแรก ผมคิดว่าต้องใช้เรี่ยวแรงและความพยายามมากแน่ๆ ในการสอดใส่เข้าไปในรูตูดของเธอ แต่นี่ง่ายดายแบบผิดคาดสุดๆ..ทำเอาผมสงสัยข้องใจ หรือว่าจะเป็นผมที่เอ่ยถามเล่นๆเมื่อกี้...

เธอโดนพวกนิโกรจับเย็ดตูดอยู่บ่อยครั้ง...

ขณะที่ทางณัฐกานต์นั้นก็ส่งเสียงร้องครางดังทันทีที่ ท่อนเอ็นของผมได้สอดใส่เข้าไปในรูตูดของเธออย่างมิดด้าม...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา..”ณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องครางอย่างเสียงดัง โดยที่ร่างอรชรของเธอก็มีท่าทีสะดุ้งนิดๆ ทันทีที่ลำควยของผมสอดใส่เข้าไปจนหมดจนมิดด้าม..

“อูยยยยย... ณัฐ...ให้กายเล่นได้เต็มที่เลยใช่มัย?...” ผมสูดปากเล็กน้อย ด้วยความเสียวซ่าน ซึ่งความฟิต ความแน่นในรูตูดของเธอนั้น ช่างเยี่ยมยอดไม่แพ้รูหน้า หรือ รูหีของเธอเลย...ซึ่งพอสูดปากเสร็จผมก็เอ่ยถามเธอ...
“อื้ออออออ..... แล้วแต่นายเลย ถะ ถ้าคิดว่าจะพังตูดชั้นได้ก็เชิญ...” ณัฐกานต์เอ่ยตอบ ด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆเชิงบงบอกถึงความเสียว...ซึ่งพอเธอตอบกลับมาแบบนั้น ผมก็ยิ้ม และทำการขยับซอยควยเย็ดตูดของเธออย่างทันที และนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์ถึงกับสะท้านและเอ่ยครางดังระงมขึ้นมา...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยปากร้องครางระงมด้วยความเสียว ร่างอรชรของเธอที่ค่อยๆขยับสั่นไหวไปมาตามแรงกระทุ้งกระแทกของผม ซึ่งผมก็โซโล่รูตูดของเธอด้วยท่าหมาเริงกาม ท่าเดิมที่ทำการเย็ดหีของเธอเมื่อกี้นี้นั้น...

“อื้อออออออออ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่ค่อยๆเอ่ยครางอย่างดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเธอชอบพอมากๆกับการโดนเย็ดทางประตูหลังนั้น...ขณะที่ทางผมก็ยังคงกระทุ้งรูตูดของเธอดังปึกๆๆๆป้าบๆๆๆ อย่างไม่หยุด..

และอีกสักแป๊บผมก็ได้ยินณัฐกานต์เอ่ยพึมพำเพ้อออกมาด้วยความเสียวซ่าน...

“อูยยยยยยย กี่ปีแล้วเนี่ย ที่ไม่ได้โดนเย็ดตูดด้วยของใหญ่ๆแบบนี้เนี่ย...อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา!!..” ณํฐกานต์เอ่ยพึมพำ ซึ่งผมก็ได้ยินไม่ค่อยชัดเสียเท่าไร ว่าเธอพูดอะไร ก่อนที่เอจะเอ่ยกล่าวกับผม..

“กาย กาย เย็ดแรงกว่านี้อีกได้มัย? แค่นี้มันยังไม่ถึงใจ...” ณัฐกานต์ที่ค่อยๆเอ่ยกล่าวบอกกับผมด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักด้วยความเสียวซ่าน ซึ่งถ้อยคำของเธอนั้นก็ทำให้ผมอึ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะขานรับและสนองต่อความต้องการนั้น...

“อื้ออออออ ได้สิ..” ผมขานรับด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับเอื้อมมือไม้ทั้ง 2 เข้าจับยังมือไม้ทั้ง 2 ของเธอ ก่อนจะดึงมือไม้ทั้ง 2 ของเธอนั้นเข้ามาหายังตัวผมที่อยู่ด้านหลังของเธอ ซึ่งผมก็ใช้มือไม้ทั้ง 2 ของเธอเป็นแกนในการโยกควยกระทุ้งอัดใส่รูตูดของเธอ แน่นอนว่าทันทีที่ผมกระทำเช่นนี้...ณัฐกานต์ก็เอ่ยครางระงมด้วยความเสียวที่พึ่งพอใจอย่างสุดๆ...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา แบบนั้นแหละ กาย แรงๆแบบนี้แหละ อาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาา..”ณัฐกานต์ที่เอ่ยร้องอย่างเสียงดัง ด้วยสีหน้าแบบไหนนั้นผมเองก็ไม่ทราบ แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้ว เธอน่าจะชอบพออย่างสุดๆ ซึ่งผมก็กระทุ้งกระแทกเย็ดตูดของเธอในท่านั้น จนร่างอรชรของเธอกวัดแกว่งไปมา..

โดยที่ผมนั้นก็ทำการกระทุ้งกระแทกรูตูดในท่าดั่งกล่าวอยู่ร่วมๆ 5-6 นาทีได้ ก่อนที่เสียงครางระงมของหญิงสาวนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นการเอ่ยเรียกชื่อของผมอีกครั้ง..

“กายยยย กายยยยยย...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยเรียกผม ก่อนที่ไม่กี่อึดใจเธอจะหวีดร้องครางยาวออกมาด้วยความเสียวสุข เมื่อถูกผมกระทุ้งรูตูดเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับอัดราดน้ำควยเข้าไปในรูตูดของเธอ...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยครางลั่นด้วยความสุขสม ก่อนที่ผมจะค่อยๆปล่อยมือทั้ง 2 ของเธอที่ได้จับไว้ ใช่ พอปล่อยมือ ร่างอรชรของเธอที่แอ่นลอยจากการที่ถูกผมโยกเย็ดนั้นก็ฟุบลงนอนยังที่เตียงอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงทันที....
“อื้อออออออออ...อืออออออออออ...” ณัฐกานต์ที่ฟุบลงนอนนั้นก็ส่งเสียงครางเบาๆอย่างไม่หยุด สภาพท่าทีที่สั่นเทิ้มอย่างระริกๆไม่หยุด ส่วนผมที่ขยับถอยออกมานั้น ก็ลงนั่งด้วยท่าทีที่ หมดเรี่ยวหมดแรงเช่นกัน...ก่อนที่ผมจะพล็อยหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบ...กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเช้า...

“อะ อือออออออ อูยยยยยยย..”ผมที่รู้สึกตัวนั้นก็เอ่ยร้องด้วยความเสียว เหมือนกำลังถูกมใครดูดอมควยอยู่ ซึ่งพอผมลืมตาและได้ก้มลงมองนั้นก็พบว่า ณัฐกานต์กำลังดูดควยผมอยู่...

“ทะ ทำอะไรอยู่นะ...” ผมที่ร้องถามขึ้น ซึ่งนั้นทำให้สาวสวยที่ดูดควยผม ถึงกับถอนริมฝีปากและแหงกหน้าขึ้นเพื่อทำการตอบคำถามของผม...

“ กำลังดูดควยของนายอยู่นะสิ กะว่าจะทำให้เสร็จ ก่อนที่นายจะตื่นแท้ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร...”ณัฐกานต์เอ่ยตอบ ก่อนจะกลับไปดูดอมควยผมต่อ อย่างไม่คิดจะไต่ถามเจ้าของควยอย่างผมสักคำ...และแน่นอนครับว่าผมจะทำอะไรได้ นอกจากสูดปากครางด้วยความเสียวจากการกระทำนั้นของณัฐกานต์...

และไม่กี่อึดใจ ผมก็สบคำรามดังขึ้น เมื่อถูกเธอดูดอมจนน้ำแตก!!

“อาาาาาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาาาาาา..” ผมที่เอ่ยร้องอย่างเสียงดัง ขณะที่ณัฐกานต์ก็ยังคงอมควยผมอย่างมิดด้าม ซึ่งผมก็รู้สึกได้ว่า เธอได้ดื่มทานน้ำควยที่ได้หลั่งออกมานั้นลงท้องไป...และเกือบครู่หนึ่งได้ กว่าที่เธอจะถอนปากออกจากควยของผมและเอ่ยกล่าวเชิงชมผมว่า...

“ใช้ได้ดีเหมือนกันนะ น้ำควยของนาย...” เธอเอ่ยบอกกับผมด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน..โดยที่มุมปากของเธอก็เปรอะเลอะด้วยน้ำควยนิดๆ ก่อนยที่เอจะเอ่ยกล่าวต่อด้วยถ้อยคำที่ทำให้ผมตกใจ...

“ชักติดใจแล้วสิ ทั้งควย ทั้งน้ำควยของนาย ถ้าไม่ว่าอะไร คืนนี้ชั้นขอเล่นอีกนะ..” ถ้อยคำถัดมาของเธอที่ยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้มนั้นก็ทำให้ผมเอ่ยร้องด้วยความตกใจ....

“หา.....”

“ตกใจอะไรละ? หรือว่า ชั้นยังไม่ได้บอกนายเหรอ? ว่านายจะต้องพักอยู่ที่บ้านของชั้นสักพัก จนกว่าจะเครียร์เรื่องผู้หญิงของนายได้นะ..” เธอเอ่ยถามและบอกกับผม ด้วยท่าที งง ซึ่งถ้อยคำของเธอก็ยิ่งทำให้ผมตกใจยิ่งกว่าเดิม..

“สักพักนี่ นานขนาดไหนเหรอครับ คุณณัฐ...” ผมร้องถาม ด้วยท่าทีที่ยังคงอึ้งๆ...

“ก็ไม่รู้สินะ...ชั้นรู้แต่ว่าคืนนี้นายจะต้องทำให้ชั้นมีความสุขยิ่งกว่าเมื่อคืนนะ ถ้าทำไม่ได้ การช่วยเธอคนนั้นก็อาจจะทำไม่ได้เช่นกัน..”ณัฐกานต์ที่เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ขณะที่ผมก็ถึงกับอึ้งในถ้อยคำดั่งกล่าว กลายเป้นว่า การช่วยเหลือ ตาลนั้น ขึ้นอยู่กับท่อนเอ็นของผมไปแล้วรึนี่....
  
ติดตามตอนต่อไป...






1 ความคิดเห็น: