กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้

กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้ ห้ามก็อปไปเผยแผ่ที่ไหน // อ่านแล้ว ตอบ "ขอบคุณ" สักนิด...เพื่อกำลังใจน้อยๆ

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ตำรวจสาวคาวโลกีย์ (ฉบับสมบูรณ์) ฉบับ 2020 ตอนที่ 1

คุยก่อนอ่าน

เป็นเรื่องที่เหมือนมีคำสาป ยังไงไม่รู้สำหรับเรื่องนี้ คือ ปั่นทีไร จะต้องมีเหตุ หรือ ชีวิตเข้าช่วงจิตตก สารภาพว่าเรื่องนี้พยายามแต่ง-แก้ไขน่าจะ 5 ครั้งได้ ใน 5 ครั้ง มีดันจนจบเพียงรอบเดียว แต่เป็นอะไรที่ไม่ค่อยพอใจ เพราะตอนนั้นเครียดกับชีวิตเลยดันๆ มันให้จบๆๆ ก็ตั้งใจว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆและจะดันให้จบให้ได้ ถือว่า เป็นเมกะโปรเจคของปีนี้เลย....

อย่างนี้ปีนี้ต้องให้จบ ซีซั่น 1 ให้ได้ (เรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ซีซั่น..) สำหรับตอนแรก บ้าพลังไปหน่อย 30 กว่าหน้า ขอให้ตัวแห้งกันนะทุกคนนนน...

**********************************************************

**เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่ง  ไม่มีบุคคลใด หรือ เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นจริง**
**เรื่องนี้มีความรุนแรง ควรใช้จักรยานในการรับชม**


ตำรวจสาวคาวโลกีย์ (ฉบับสมบูรณ์)

ตอนที่ 1

ปัง  ปัง  ปัง!! เสียงปืนหลายนัดที่ดังต่ออย่างเนื่องพร้อมกับถ้อยคำที่เปล่งออกมาอย่างหัวเสีย!!

“จับมันให้ได้!!….ไม่งั้นโดนนายเล่นตายแน่..” ชายคนหนึ่งสั่ง และนั้นก็ทำให้ ลูกน้องของเขา 5-6คน ต่างไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากพวกเขาทำพลาด นั้นจึงทำให้พวกเขายิ่งไล่ล่า และยิงปืนใส่ ร่างอรชรที่กำลังวิ่งหนี โดยเธอนั้นก็ไม่ได้หนีเปล่า ยังหันกลับมายิงปืนสวนกลับด้วย แถมแม่นยำกว่าทางกลุ่มที่ไล่ล่านั้นได้รับบาดเจ็บ และต้องหาที่กำบังเลยทีเดียว..

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Memory ตอนที่ 3

 Memory ตอนที่ 3

หลังจากที่ชายปริศนา เสื้อเชิ้ตขาวคนนั้นเดินออกไป และตัวผมก็ได้ดื่ม-ทาน ข้าว น้ำที่เขาวางไว้ให้ พอทานเสร็จผมยังคงพยายามนึกทบทวนเพื่อหาคำตอบในเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะจากคำพูดของเขา และภาพเลือนรางที่แวบขึ้นมานั้น ดูเหมือนคำตอบทั้งหมดจะอยู่ที่ตัวผมเอง หากผมจำเรื่องราวได้ละก็ ผมอาจจะได้คำตอบ ถึงเหตุผลที่ถูกจับตัวมายังที่แห่งนี้ ก็เป็นได้...

แต่พยายามอยู่นาน สุดท้ายก็ยังเหมือนเดิม คือ ยังนึกอะไรไม่ออก จนในที่สุดผมก็ล้มเลิกที่จะพยายามและทำการพักผ่อน เผื่อการพักผ่อนนั้น มันจะช่วยให้ผมดีขึ้น จนจำอะไรได้ก็เป็นได้..และด้วยความเหนื่อย ความเครียดที่สะสมมานั้น ก็ทำให้ผมถึงกับหลับสนิท หลับลึก อย่างง่ายดาย และมันก็ทำให้ ผมเห็นภาพเหตุการณ์บางอย่าง...

มันเป็นภาพของเมย์ที่เพิ่งถูกวางลงที่เตียงนอน ซึ่งเธอยังหมดสติด้วยฤทธิ์ยา..พร้อมกับเสียงของชายคนที่วางร่างของเมย์นั้นก็เอ่ยขึ้น

“เอาละ มาเริ่มสนุกกันเลยดีกว่า...” เสียงของชายที่เป็นเจ้าของมุมมองที่ผมเห็นนั้นก็เอ่ยขึ้น โดยที่เสียงของเขานั้น เสียงคล้ายเหมือนผมไม่มีผิด จนอดสงสัยไม่ได้ว่า นั้นคือ ผมงั้นเหรอ?

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Memory ตอนที่ 2

ตอนที่ 2

“ทำลายเหรอ? เมื่อกี้เราพูดว่า ทำลายเหรอ?..” ผมเอ่ยถามกับตัวเอง หลังจากที่นึกอะไรเกี่ยวกับ หญิงสาวที่อยู่ในรูป ที่ ชายเสื้อเชิ้ตขาวปริศนาคนนั้นทิ้งไว้ให้ ถึงแม้ตอนนี้จะนึกออกเพียงบางส่วน แถมยังนึกออก แค่คนเดียวเท่านั้น คนเดียวจาก 4 คนที่ชายปริศนานั้นทิ้งภาพของพวกเธอไว้ให้...

“เมย์...” ผมเอ่ย ซึ่งน่าจะเป็นชื่อของหญิงสาวที่อยู่ในรูปทางซ้ายมือสุดนั้น...และจากที่ผมเริ่มที่จะจำได้นั้น เธอเป็นหญิงสาวที่ผมได้เจอ รู้จัก เมื่อราวๆ 2-3 ปีก่อนหน้านี้…

ครั้งแรกที่ได้เจอเธอนั้น คือเป็นตอนระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน ซึ่งวันนั้นผมก็ได้แวะเข้าไปในสวนสาธารณะ และได้เห็นเธอที่กำลังให้อาหารแก่เหล่าสุนัขจรจัด ที่อยู่ในบริเวณนั้น ก่อนจะรู้ว่า เธอมักมาให้อาหารแก่พวกมันเป็นประจำ ทุกวัน ประดุจดั่งเป็นนางฟ้าของพวกมันเลย ก็ว่าได้..

รอยยิ้ม ความใจดี ที่ดูสวยงามนั้น มันเป็นเหมือนตัวกระตุ้นที่ทำให้ผมอยากรู้จักเธอ ทั้งๆที่ ทีแรกผมไม่ได้ มีความคิด หรือ รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย และด้วยความที่ถูกกระตุ้นนั้น ก็ทำให้ผมเริ่มคิดถึงแผนการที่จะเข้าไปทำความรู้จักเธอ แน่นอนว่า แผนนั้นก็เป็นไปด้วยดี ประกอบกับเธอเป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากะคนง่าย ไม่ค่อยระวังตัว ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างง่ายเข้าไปอีก..

หลังจากรู้จักเธอ ไปได้ระยะ ผมก็เริ่มแผนการขั้นต่อไป ด้วยการล่อลวงเธอให้มาที่บ้านของผม...

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Memory (เรื่องสั้น//ทดลองปั่น)

Memory

ตอน 1

‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วนี่มันที่ไหน?..’ ถ้อยคำเชิงถามของชายหนุ่มที่เอ่ยขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว แล้วพบว่าเขาอยู่ภายในห้องที่มืดสนิทแห่งหนึ่ง...

‘แล้วทำไม...มันถึงเจ็บที่หัวขนาดนี้เนี่ย..’เค้าเอ่ยถามกับตัวเองต่อ อย่างรู้สึกเจ็บมากที่ศีรษะ และไม่กี่อึดใจหลังจากที่เขาได้เอ่ยอย่างสงสัยนั้น ห้องที่มืดสนิทนั้น ก็สว่างจ้าขึ้น พร้อมกับมีเสียงปลดล็อคบางอย่างที่ประตูห้องที่อยู่เบื้องหน้าของเขา..

และผู้ที่เข้ามาในห้องแห่งนี้ คือ หนุ่มแว่น หน้าตาดี ร่างสมส่วนไม่ผอมไม่อ้วนมาก ดูแล้วอายุน่าจะราวๆ 37-38 ปี ซึ่งชายคนดังกล่าวอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาว...

“ได้สติแล้วเหรอ? ตรงตามที่คาดไว้เลย..”ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตขาวคนนั้น กล่าว พร้อมกับมองดูนาฬิกาที่ข้อมือของเขาไปด้วย ราวกับว่าเขาได้กะเวลาการได้สติของผมไว้แล้ว...