ตอนที่ 2
ผมที่พาพิมกลับมายังที่คอนโดของผม จะว่าไป พิมก็เท่ากับเป็นสาวคนที่ 2 ที่มาพักยังคอนโดของผม ส่วนคนแรกนะเหรอก็พี่สาวของเธอนั้นแหละ (ริน) และในตอนนั้นผมสาบานได้ว่า ผมนั้นไม่มีความคิดจะล่วงเกินพิม แม้แต่น้อย เพราะไงเธอก็เป็นถึง น้องสาวของคนที่ผมเคยแอบชอบ แถมรินยังไว้ใจ ฝากฝั่งผมให้ดูแลแบบนั้นด้วย การจะฉวยโอกาสทำอะไร มันคงไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำเลย...ถ้าพูดกันตามตรงแล้วในตอนนั้นหัวของผม มัวแต่รู้สึกตะหงิดๆ กับท่าทางของพิมมากกว่า เพราะมันค่อนข้างขัดกับที่เคยได้ยิน รินเล่ามาเกือบอย่างสิ้นเชิงเลย...
(หากไม่คิดเรื่องนี้อยู่เอ๊งก็คงคิดอะไรชั่วร้ายสินะ By คนแต่ง)
ผมที่พาพิมกลับมายังที่คอนโดของผม จะว่าไป พิมก็เท่ากับเป็นสาวคนที่ 2 ที่มาพักยังคอนโดของผม ส่วนคนแรกนะเหรอก็พี่สาวของเธอนั้นแหละ (ริน) และในตอนนั้นผมสาบานได้ว่า ผมนั้นไม่มีความคิดจะล่วงเกินพิม แม้แต่น้อย เพราะไงเธอก็เป็นถึง น้องสาวของคนที่ผมเคยแอบชอบ แถมรินยังไว้ใจ ฝากฝั่งผมให้ดูแลแบบนั้นด้วย การจะฉวยโอกาสทำอะไร มันคงไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำเลย...ถ้าพูดกันตามตรงแล้วในตอนนั้นหัวของผม มัวแต่รู้สึกตะหงิดๆ กับท่าทางของพิมมากกว่า เพราะมันค่อนข้างขัดกับที่เคยได้ยิน รินเล่ามาเกือบอย่างสิ้นเชิงเลย...
(หากไม่คิดเรื่องนี้อยู่เอ๊งก็คงคิดอะไรชั่วร้ายสินะ By คนแต่ง)
“จะดีเหรอค่ะ...” พิมที่เอยขึ้น เมื่อผมบอกให้เธอนั้นใช้เตียงของผมในการนอนในค่ำคืนนี้
“อืออ ไม่เป็นไรหรอก เชิญพิม นอนที่เตียงพี่ได้เลยนะ” ผมเอยตอบด้วยรอยยิ้ม..
“ถึงพี่ทีจะพูดแบบนั้นก็เถอะ พิมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเลยนะค่ะ ให้พี่ที พาไปเที่ยวแถมยังยึดที่นอนพี่ทีอีกเนี่ย” เธอเอยด้วยท่าทีออกเกรงอกเกรงใจ...
“ก็พี่บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรไงครับ และพี่ก็บอกแล้วว่า น้องของรินก็เหมือนกับน้องของพี่ ฉะนั้น ไม่ต้องเกรงใจหรอก..” ผมเอยตอบและถือวิสาสะเอามือลูบหัวเธอ ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอยิ้มนิดๆและเอยกล่าวตอบ..
“อืมม ถ้าพี่ทีว่าอย่างงั้น ก็มานอนด้วยกันสิค่ะ..” คำกล่าวที่เอยด้วยรอยยิ้มที่แสนหวานก็เหมือนเป็นอาวุธชั้นเลิศที่สร้างความเสียหายทางจิตใจให้กับผมไม่น้อย...เจอเธอเอย+ยิ้มทำเอาตอบไม่ถูก...
“ก็ในเมื่อพี่ทีเห็นพิมเป็นน้องสาว ก็มานอนด้วยกันเถอะค่ะ เป็นพี่น้องกัน นอนเตียงเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่รึไงค่ะ..” เธอเอยกล่าวต่อ ด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ผมนั้นก็ไม่ตอบ ได้แต่เอยอย่างเลี่ยงๆ เนื่องจากความน่ารักของเธอนั้นกำลังเล่นงานผมจากที่ไม่รู้สึกอะไรก็กลายเป้นว่ากำลังรู้สึกอยากกดเธอขึ้นมาซะงั้น...
“ไม่ละ พี่เกรงใจ พี่ขอตัวออกไปเตรียมที่นอนของพี่ก่อนนะ...” ผมเอยและเดินออกจากห้องนอนของผมไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ผมนั้นไม่ได้หันไปมองท่าทีของพิมที่ยืนจ้องมองผมในขณะนั้น ว่าคุณเธอนั้นกำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่..
“ยัยริน นะ ยัยริน นี่หวังดี หรือ ประสงค์ร้ายกับเรากันแน่นะเนี่ย...” ผมที่ออกมาจัดโซฟา เพื่อใช้นอนนั้นก็เอยบ่นไปถึงสาวเจ้าตัวต้นเหตุ แถมเธอไม่เปิดมือถือซะด้วย ไอ้ผมก็อยากถามเธอเหลือเกินว่า มีจุดประสงค์อะไร ถึงส่งน้องสาว น่ารัก หน้าตาดีแบบนี้มาให้ผมดูแล หวังดีให้ผมลงจากคาน หรือ หวังร้ายให้ผม ลงข่าวหน้า 1 ข้อหา ข่มขืนกันแน่เนี่ย...
“อยากให้เจอตัวนะ ไม่งั้นน่าดู..” ผมเอยอย่างอาฆาตมาดร้ายนิดๆ ก่อนที่จะชะงักเมื่อเห็น พิม เดินออกมาจากห้องนอนผม ในมือนั้นถือผ้าเช็ดตัวอยู่...
“พิม ขอใช้ห้องน้ำ ก่อนนะค่ะ..” เธอหันมาเอยกล่าวบอกผมอย่างมีมารยาทด้วยรอยยิ้ม..ซึ่งผมก็ตอบรับในลำคอ
“อืออออ...” ผมเอย ในใจก็สบไปด้วย เด็กอะไร ทั้งสวย น่ารัก...แบบนี้จะทนไหวมัยเนี่ย...
ใช่ก็ผมรู้สึกชอบพอน้องเค้าแถม ยังต้องอยู่ 2 ต่อ 2 กะน้องเค้าอีก จะอดใจไหวมัยนะ...รึ..ชื่อเสียงความเชื่อใจที่สะสมมาจะพังทลายในคืนนี้กันแน่เนี่ย...เฮ้อ ยัยริน นะ ยัย ริน...
และ ไอ้ตอน ขาเข้านะไม่เท่าไร ตอนที่พิม ออกมาจากห้องน้ำนี่สิ...
“พิม ใช้เสร็จแล้วนะค่ะ..” เธอเอยกล่าวบอกผม ในสภาพที่แทบทำให้สติผมกระเจิงกระเจิง เพราะนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา เผยผิวขาวๆ และร่างที่เปียกปอนหน่อยๆที่ดูแล้ว sexy เหลือร้าย...
“อะ อืมมม...” ผมตอบ อย่างกลืนน้ำลาย ดัง อึกกก...โดยที่ในใจ นั้นแทบจะบ้าตายแล้ว....จะรอดมัยเนี่ย....คืนนี้..กว่าจะสงบใจได้ก็อีกสักพัก ก่อนจะกลับมาฟุ้งซ่านอีกรอบ เมื่อเข้าไปใช้ในห้องน้ำ ดันไอ้หัวลามกของผมมันจิ้นตอนที่เธออาบน้ำเมื่อครู่นี้นะสิ....
ถ้าตะบะแตกเมื่อไร ถ้า ไม่ลงจากคาน ก็นอน ซังแต แหงๆ...งานนี้ เฮ้อ....
แต่ก็โชคดีที่หลังจากผมอาบน้ำแล้วนั้นก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกเลย แถม พิม หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ดูท่าจะเข้านอนเลย เห็นได้จาก ไฟห้องที่ปิดลง..ก็ไม่แปลก วันนี้ผมพาเดินทั้งวัน อย่าว่าแต่หล่อนเหนื่อยเลย ผมเองก็เหนื่อยแทบแย่เหมือนกัน...
ผมก็รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นพิมหลับไปแล้ว ก่อนที่ผมจะหลับบ้าง เพราะเหนื่อยเหมือนกัน..ก่อนที่ผมจะมารู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อรู้สึกเหมือนมีใครมานั่งทับร่างของผมเอาไว้..ครั้นเมื่อผมลืมตาขึ้นมองนั้น จากที่งัวเงียๆ ก็ต้องตาสว่างจัดๆ เมื่อเห็น พิมนั้นนั่งทับอยู่บนร่างของผม..
“สวัสดีค่ะ พี่ชาย...” เธอเอยทักทายผมอย่างลากเสียงหน่อยๆด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเธอนั้นก็สวมใส่..เอะ เอ๋ เสื้อเชิ้ตของผมนี่...
“ดะ เดี๋ยวสิ พิม ชุดนั้น...” ผมที่เอยร้องถาม เมื่อเห็นเสื้อที่สวมใส่อยู่บนร่างของเธอนั้นคือชุดของผม?
“อืออ ก็ของพี่ทีไงค่ะ..” เธอตอบ ขณะที่ผมนั้นทำหน้าไม่เข้าใจ เพราะเธอก็ซื้อชุดสวมใส่เอาไว้เปลี่ยนแล้วนี่...ใช่ครับวันนี้ พิมพ ได้ซื้อ เสื้อผ้า
เอาไว้เปลี่ยน ตอนที่อยู่กับ ผม ราวๆ 2-3 วันนี่ไว้แล้ว..และเหมือนว่าคุณเธอจะรู้ว่าผมข้องใจเลยเอยปากตอบ...
“ก็ชุดนี้ มันดูมีเสน่ห์มากกว่านี่ค่ะ..” เธอเอยตอบด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน แต่รอยยิ้มนั้นราวกับซ่อนเร้นบางอย่างที่ลึกล้ำกว่านั้น แน่นอนว่าผมไม่เถียงหรอก ว่าชุดนี้ทำให้เธอดูมีเสน่ห์ เสื้อเชิ้ตสีขาวของผมพอเธอสวมใส่แล้ว มันก็ออกดูหลวมๆ แถมยิ่งพอเธอไม่สวมใส่ชั้นในอีก...
ใช่ถึงแม้ทุกอย่างยังคงอยู่ในความมืด แต่ก็ไม่ถึงกับมืดสนิทนัก ยังพอเห็นได้แบบลางๆอยู่บ้าง ใช่..พอให้เห็นถึงอะไรต่อมิอะไรได้ โดยเฉพาะ ไอ้ 2 จุกที่นู่นๆนั้นว่ามันคืออะไร..
“อิๆๆ มองไม่กระพริบเลยนะค่ะ..” เธอเอยอย่างอมยิ้มและหัวเราะนิดๆ...
“นะ นี่ เราคิดจะทำอะไรนะ..” ผมไม่เถียงกับ คำกล่าวของเธอ พร้อมกับเอยถามกลับ ซึ่งเธอก็เอยตอบกลับมาทันที..
“ก็ทำความรู้จักไงค่ะ พิม อยากจะทำความรู้จักกับพี่ทีให้สนิทยิ่งกว่านี้นะ...” เธอเอยพร้อมกับขยับร่างลงมาคร่อมร่างของผม ใบหน้าที่อยู่ห่างจากใบหน้าของผมไม่เท่าไร..
เป็นสาวเงียบพูดน้อย และ ขี้อาย..?....ใช่ที่ไหนละ ยัย ริน นี่ไม่ได้ เงียบ พูดน้อย ขี้อายแล้ว!!
“และพี่ทีเองก็สนใจอยากรู้จักกับพิม มากขึ้นด้วยใช่มัยละค่ะ..” เธอเอยถามกลับ เล่นเอาผมอึ้งอย่างพูดไม่ถูก..
นี่ผมคงไม่ได้ เจอ สาวน้อยเงียบพูดน้อย ขี้อายแล้วละ แต่มันตรงกันข้ามแบบ 360 องศา มากกว่า...
“ใช่ แต่พี่ไม่ได้หมายความอย่างงี้นะ...”
“ไม่ได้หมายความอย่างงี้ และหมายความอย่างไหนค่ะ..” เธอเอยถามกลับ และขยับใบหน้าจนใกล้ เกือบจะจูบปากผมอยู่แล้ว ลมหายใจของเธอที่พ่นออกมาก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ผมให้แปรป่วนมากยิ่งขึ้น....
ให้ตายเถอะ ถูกผู้หญิงยั่ว หรือ ผู้หญิงรุกนี่มันเป็นอย่างงี้เองรึ!!....
“ไม่ใช่อย่างที่เรากำลังทำอยู่...” ผมกลั้นใจเอยกล่าวออกไป ทั้งๆที่ความรู้สึกของผมนั้นกำลังปั่นป่วนได้ที่แล้ว..และคำกล่าวของผมนั้นก็ทำให้ พิม นั้น ขมวดคิ้ว ก่อนจะเอยร้อง...
“ใจร้าย ทีกะพี่รินยอมรู้จักกันอย่างลึกซึ้ง แต่กับพิม จะไม่ยอมงั้นเหรอค่ะ.. แบบนี้มันลำเอียงนะค่ะ!!” เธอที่เอยโวยอย่างเสียงดัง ซึ่งถ้อยคำนั้นของหล่อน ก็ทำให้ผมตาโต เอยร้องอย่างเสียงดัง..
“ระเรื่องนั้น รู้ได้ไงนะ…” เมเอยอย่างตกใจ เพราะผมไม่นึกว่า รินจะเอยเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง...แต่ทว่าถ้อยคำของผมก็ทำเอา สาวน้อยที่โวยวายนั้น ทำสีหน้า งง อย่าง ทำตาปริบๆ ...
“อ้าว จริงเหรอเนี่ย...พี่ทีกับพี่ริน เคยมีอะไรกันเหรอ?..” พิม ที่เอยอย่างหน้าตาตกใจเล็กน้อย โดยที่ใหน้าของเธอที่อยู่ห่างจากใบหน้าของผมไม่มากนั้นก็ค่อยๆขยับห่างออกมาพร้อมกับร่างที่ค่อยๆขยับขึ้นนั่ง โดยยังคงนั่งทับร่างของผมอยู่..และท่าทีของหล่อน ก็ทำให้ผม งง เช่นกัน..
“นี่สรุปว่าเรารู้เรื่อง หรือ ไม่รู้เรื่องเนี่ย..” ผมที่เอยปากถาม ก่อนที่หล่อนส่ายหัว และนั้นทำให้ผมรู้ว่า โดนคุณเธอหลอกซะแล้ว...
“ไม่รู้...เมื่อกี้แค่พูดเล่นๆค่ะ ไม่นึกว่า...” พิมเอยตอบ โดยที่สีหน้าของเธอนั้นยังคงตกใจอยู่บ้าง ก่อนที่เฮจะขยับกายเอนลงมาคร่อมนอนทาบทับร่างของผมและเอยสอบปากคำผมต่อ..
“เมื่อไรค่ะ พี่ที มีอะไรกับพี่รินนานยัง?..” เธอเอยกล่าวถามต่ออย่างอยากรู้...
“ก็นานแล้วละ...ก่อน รินแต่งงานอีกนะ..” ผมตอบอย่างไม่กล้าจ้องตาของคุณน้อง ซึ่งเธอก็มีท่าทีครุ่นคิด ก่อนจะเอยกล่าว
“อย่าบอกนะว่า ตอนที่พี่รินหายตัวไปนะ” เธอเอยอย่างเดาถูกซะด้วย ซึ่งนั้นทำให้ผมทำสีหน้าแปลกใจ จนเธอจับได้
“ใช่จริงๆด้วย ว่าแล้ว มิน่าละ หลังจากนั้น พี่รินถึงได้พูด ถึงพี่ที บ่อยขึ้น...” เธอเอยกล่าวต่อ ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่รู้หรอกว่า รินเอาผมไปพูดว่าไงมัง ผมก็ได้แต่มองเธอ และไม่ทันที่จะเอยถามอะไร..เธอกลับ…
“อิๆ...แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ อะไรๆ จะได้ง่ายขึ้น ในเมื่อ นอนกับพี่รินได้...ก็ต้องนอนกับหนูได้เหมือนกันนะ..” เธอเอยด้วยรอยยิ้ม อย่างมีท่าทีเอาจริง ในการนอนกับผม ซึ่งผมก็ได้แต่มองอย่างเหงื่อตก เพราะไม่เคยเจอผู้หญิงรุก อย่างงี้มาก่อนเลย...
“อย่า ล้อเล่นน่า...”
“ไม่ล้อเล่นค่ะ จะบอกอะไรให้นะค่ะ พิมนะ อยากรู้จักพี่ที มานานแล้วค่ะ อยากเจอตัวจริงมานานแล้ว อยากรู้ว่าผุ้ชายที่พี่สาวชอบพูถึงเป็นคนแบบไหนยังไง..” เธอเอยตอบด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับเลียริมฝีปากเล็กน้อย ซึ่งนั้นก็ทำให้ผมขนลุกมากกว่า อยากรู้จักเรอะ ท่าทางมันเหมือนอยากจะกิน ซะมากกว่า...
“พะ พิม...” ผมยังคงได้แต่เอยเรียกชื่อของเธอ ไม่รู้จะดีใจ หรือ เสียใจ ที่สาวน้อยที่ทำให้ผมใจเต้นตอนสายๆนั้น ตกดึกมารุกใส่แบบนี้เนี่ย...
“ขา....”
“พี่ว่า ทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ..” ผมเอยอย่างผลักเธอให้ลุกขึ้นนั่ง จากที่นอนคร่อมร่างของผมอยู่นั้น...แต่พิมยังคงมีท่าทีที่ยืนกรานจะรุกใส่ผมให้ได้....
“ทำไมค่ะ...ไอ้ไม่ดีของพี่ที นี่หมายความว่าไงค่ะ ถ้าหมายความว่า เรายังไม่รู้จักกันดีละก็ นี่ไงค่ะ เดี๋ยวเราจะทำการรู้จักกันแล้ว รู้จักกันอย่างงี้ไงค่ะ ทั้งเร็ว ทั้งมันส์ แถมรู้จักทุกซอกทุกมุมของอีกฝ่ายด้วย..” เธอเอยตอบด้วยสายตาและท่าทีที่เอาจริง อย่างไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนใจ แม้แต่น้อย ทั้งๆที่ผมเอยซะขนาดนั้นแล้วแท้ๆ...
“รึว่า พี่ทีเขิน...รึ ยังไม่มีอารมณ์ค่ะ ถ้างั้นไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพิม จะจัดการทำการปลุกอารมณ์ของพี่ทีให้เอง...รับรองว่าแข็งทั้งคืนแน่เลยค่ะ...” เธอเอยกล่าวด้วยรอยยิ้ม และก็อย่างที่ผมบอกครับ ถึงแม้ในห้องของผมตอนนี้จะมืด และไม่รู้ว่านี่มันเวลาเท่าไรแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่มืดมาก ขนาดมองไม่เห็นอะไรภายในห้องเลยครับ..
ใช่ครับได้แสงจันทร์อ่อนๆที่สาดส่องเข้ามาพอทำให้เห็นอะไรได้บ้าง...
ร่างของพิมที่นั่งทับอยู่บนร่างของผม และจ้องมองผมด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน ซึ่งรอยยิ้มนั้นไม่ชวนน่าหลงใหล แต่ชวนสยิวเสียววาบราวกับ หมาป่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อก็ไม่ป่าน...
ก่อนที่ผมจะตาโตขึ้น เมื่อ พิมที่สวมใส่เสื้อเชิ้ต ของผมนั้นค่อยๆกลัดกระดุมเหล่านั้นออกจนหมด และทำการถอดโยนเสื้อเชิ้ตนั้นออก ก่อนจะขยับกาย ลงเข้าคร่อมร่างของผม อย่างจงใจ วางนมไว้แทบใกล้ยังหน้าของผมเลย...ใช่นมสวยๆที่ดูจากขนาดแล้วไม่แพ้กับของริน ที่อยู่ห่างจากตรงหน้าของผมไม่กี่เซน...
ใช่......เจอลูกไม้ของ พิมแบบนี้เข้าไป ต่อให้คุณเธอ ยัง ไม่ทันจับของผม ของผมก็แข็งแล้วละครับ....ผมที่มัวแต่มองนมของพิม อยู่นั้นก็ไม่ทัน ได้เห็นถึงใบหน้าของพิมในเวลานี้ที่จ้องมองดูปฏิกิริยาของผมด้วยรอยยิ้มอย่างเลียริมฝีปากเล็กน้อย...
งานนี้ผมจะรอดมัยเนี่ย.....
ขอบคุณครับ
ตอบลบ