เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ผมกลายเป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง -What IF หากพี่ต้นไม่ได้ โดนจับในคืนนั้น
ครึ่งแรก
https://actdsky-story.blogspot.com/2021/12/what-if-part1.html
ครึ่งหลัง
https://actdsky-story.blogspot.com/2021/12/what-if-part2.html
ฉากจบแบบที่ 1(ดั่งเดิม)
https://actdsky-story.blogspot.com/2021/12/14-2564-what-if-1.html
*****************************************************************
ผมกลายเป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง
-What IF หากพี่ต้นไม่ได้ โดนจับในคืนนั้น (ฉากจบแบบ 1 ฉบับปรับปรุง) –
-ครึ่งหลัง-
“คุณหนูครับ รถพร้อมออกแล้วนะครับ...” เสียงเชิงบอก พร้อมกับการเข้ามาของนายเจ๋ง ผู้เป็นบอดี้การ์ด และลูกน้องมือขวาของณัฐกานต์นั้น ก่อนที่นายเจ๋งจะชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเห็นสภาพของคุณหนู หรือ นายหญิงของตนนั้น กำลังยืนเปลือยเปล่าอยู่หน้ากระจก พร้อมกับกำลังมองอะไรบางอย่างที่ถืออยู่ในมือ..
“หือออ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวชั้นจะรีบแต่งตัว และลงไปนะ..” ณัฐกานต์ที่กำลังครุ่นคิด และจ้องมองของที่อยู่ในมือนั้น ก่อนจะได้สติแล้วหันไปเอ่ยตอบ ก่อนที่ทางนายเจ๋งนั้นจะพยักหน้า และเดินออกไปจากห้องนอนของเธอ และทันทีที่นายเจ๋งได้เดินออกไปจากห้องนั้น เธอก็หันมาเอ่ยกับตัวเอง...
“เอาละ แต่งตัว...แล้วไปหาไอ้สารเลวนั้นกัน..” เธอเอ่ยบอกกับตัวเอง พร้อมกับวางของที่ได้ถืออยู่นั้นลงยังที่โต๊ะใกล้ๆตัว ก่อนจะเดินไปแต่งตัว และของที่ถือ พร้อมกับจ้องมองมันอยู่เมื่อกี้นั้น มันคือ เครื่องตรวจครรภ์ และบนหน้าปัดของเครื่องนั้น ก็แสดง ผล คือ 2 ขีด!!
.
.
.
2-3 ชั่วโมงถัดมา ที่เซฟเฮาส์ แห่งหนึ่ง..
“ปล่อยกู....พวกมึงรู้มัย!! ว่า กูเป็นใคร!! ปล่อยนะเว้ย ได้ยินมัย!! เฮ้ย!!!..” เสียงโวยวายของชายหนุ่มที่เอ่ยร้อง พร้อมกับพยายามดิ้นร้นให้หลุดจากพันธนาการที่ตรึงยึดเขาไว้กับเก้าอี้ ซึ่งเขาก็อยู่ภายในสี่เหลี่ยมเปล่าๆที่ไม่มีอะไรเลย...
ก่อนที่ท่าทีที่แสนโวยวาย กับความพยายามดิ้นร้นของเขาจะยุติลง เมื่อประตูของห้องนั้นได้ถูกเปิดออก พร้อมกับการเดินเข้ามาของ หญิงสาวที่ค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตา สำหรับเขาซะเหลือเกิน...
“อีณัฐ...” เขาเอ่ยทัก เมื่อหญิงสาวคนดั่งกล่าวนั้น คือ ณัฐกานต์ มาเฟียสาว ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา..
“สวัสดีค่ะพี่ต้น ในที่สุดเรา ก็ได้พบกันอีกครั้งซะทีนะ...” เธอเอ่ยทักตอบ พร้อมกับเดินเข้ามาในห้อง จนยืนหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา ถึงแม้เธอจะทักด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน แต่มันกลับทำให้เค้ารู้สึกเสียวสันวาบอย่างบอกไม่ถูก...
โดยสภาพของณัฐกานต์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานั้น ก็มีลักษณะที่เปลี่ยนไปจาก เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว จากที่เคยผมดำยาว มาตอนนี้ก็กลายเป็นผมสั้น และดูเหมือนเธอจะผอมลงเล็กน้อยด้วย ซึ่งหลังจากที่จ้องมองอยู่ครู่นั้น ทางนายต้นก็ได้เอ่ยกล่าวขึ้นมาว่า..
“ท...ที่แท้พวกที่จับกูมา คือ คนของมึงเองเหรอ?..”
“แล้วทีแรกพี่นึกว่า พวกไหนจับพี่มาละ? กลุ่มพยัคฆ์ภูผา งั้นเหรอ?..” ณัฐกานต์ตอบกลับอย่างถามกลับไปด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ทำให้ทางนายต้นรู้สึกหนาวๆร้อนๆอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่เค้าจะกลั้นใจถามต่อ..
“แล้วนี่มึงคิดจะทำยังไงกับกูต่อ? จะฆ่ากูเหรอ? คุณอา เค้าคงไม่ยอมให้ลูกชายคนเดียวของพี่ชายเค้าถูกฆ่าตายหรอกนะ?...” ถ้อยคำเชิงถามของนายต้นนั้น ก็ทำให้ทางณัฐกานต์ถึงกับหัวเราะอย่างทันที..
“ฮะๆๆๆ คุณพ่อนะเหรอ? เค้าตัดหางพี่ต้นแล้วค่ะ จากหลุมพรางครั้งก่อน ที่พี่ต้นวางแผนจะให้กลุ่มของเรา ตีกับ กลุ่มพยัคฆ์ภูผา นั้นนะ นอกจากตัดหางปล่อยวัดแล้ว ยังอนุญาตให้ณัฐทำอะไรกับพี่ก็ได้ตามใจชอบด้วย จะฆ่าก็ได้ จะปล่อยก็ได้..” ณัฐกานต์ตอบ ซึ่งปลายประโยคนั้น เธอก็เน้นเสียงอย่างค่อนข้างหนักแน่นพอสมควร นี่ยังไม่รวมถึงสีหน้า และแววตาที่แสดงออกมาอย่างน่ากลัวนั้นด้วยนะ..
“อึกกก มึงคงไม่คิดจะฆ่ากูจริงๆใช่มัย? ถึงจะไม่ใช่พี่แท้ๆ แต่กูก็พี่มึงนะ..” นายต้นกลืนน้ำลายเล็กน้อย แล้วถามต่อ อย่างเริ่มมีเหงื่อออก ถึงแม้ภายในห้องนี้มันจะทั้งอับ ทั้งร้อน อยู่หน่อยๆก็ตาม..
“พี่ต้นลืมอะไรไปรึเปล่าค่ะ? คนที่วางแผนให้กลุ่มพยัคฆ์ภูผา ดักยิงถล่มพี่ต้น จนทำให้พี่ต้นตาบอด เสียโฉมแบบนี้ ก็คือ ณัฐ นะค่ะ ฉะนั้นเรื่องความอยากฆ่าพี่ต้นนะ มันมีมาตั้งนานแล้ว และถ้าณัฐจะฆ่าพี่ต้นจริงๆ คงสั่งให้พวกลูกน้องยิงพี่ทิ้งทันทีที่เจอตัวแล้ว คงไม่สั่งให้จับกลับมาเป็นๆแบบนี้หรอก..” ณัฐกานต์ตอบ พร้อมกับยิ้มหวานที่ดูน่ากลัวให้กับเขา..
“ไม่ฆ่าในทันที? แสดงว่า มึงคิดจะทำอะไรกับกูก่อนสินะ..” นายต้นยังคงร้องถามต่อ อย่างทำใจดีสู้เสือ ถึงแม้ในใจจะเริ่มหวั่นๆกลัวๆบ้างแล้วก็ตาม
“ใช่ค่ะ... ณัฐตั้งใจ จะเล่นสนุกกับพี่ต้น ตาม list พวกนี้ก่อน?..”
“List??... List อะไรของมึงนะ??...” นายต้นร้องถามอย่าง งงๆ และสงสัย ก่อนที่ทางฝั่งของณัฐกานต์นั้นจะ แบมือขอ บางอย่าง จาก นายเจ๋ง บอดี้การ์ด และลูกน้องมือขวาของเธอ ที่ได้ยืนอยู่ข้างๆเธอตั้งแต่แรกนั้น และเขาก็มอบสิ่งที่เธอขอให้แทบจะทันทีเลย
“แผลจากการทำร้ายร่างกาย 18 แผล // แผลจากการทำร้ายด้วยของแข็ง 3 แผล //แผลที่เกิดจากของมีคม 3 แผล //ร่องรอยเหมือนถูกซ็อตด้วยไฟฟ้า และแผลกระสุนปืน 2 แผล พี่ต้นพอจะคุ้นๆ กับรายละเอียดพวกนี้บ้างมัยค่ะ ” ณัฐกานต์ที่ร่ายยาวตามข้อมูลในกระดาษที่อยู่ในมือนั้น ซึ่งนั้นก็คือ List ที่เธอพูดถึงนั้นเอง แน่นอนว่า สิ่งที่ณัฐกานต์เอ่ยออกมานั้น มันคือ รายละเอียด ถึงสิ่งที่เค้าได้กระทำกับ ‘กาย’ ชายหนุ่มของเธอนั้นเอง..
“ที่พูดไปนั้นแค่ส่วนที่พี่ต้นทำกับเขา...ยังไม่ได้นับ ส่วนที่พี่ทำกับณัฐเลยนะ..” ณัฐกานต์กล่าวต่อ พร้อมกับหันไปมองเพราะมันเป็นจังหวะเดียวกับที่ ลูกน้องของเธออีกคน ที่ได้เดินเข้ามาในห้องแห่งนี้ ซึ่งเขาก็มาพร้อมกับเข็นนำอุปกรณ์ทรมานต่างๆเข้ามาในห้องแห่งนี้..
“สิ่งที่กูทำกับมึงเหรอ? อ้อ...ที่ให้มึงโดนไอ้แรงงานต่างด่าว เย็ดมึงจนยับนั้นนะเหรอ?...” นายต้นเอ่ยทวน และร้องถาม ด้วยท่าทีที่เริ่มหวั่นกลัวมากขึ้นจากการเห็น ลูกน้องของณัฐกานต์ได้นำอุปกรณ์ทรมานเข้ามาในห้องแห่งนี้...
“ใช่...” ณัฐกานต์ตอบกลับสั้นๆ พร้อมกับเดินเข้าไปดูยังอุปกรณ์ทรมานที่ลูกน้องของเธอนำเข้ามานั้น..
“ได้ยินมาว่า มึงโดนไอ้ยักษ์ จัดหนักเอามากๆเลยนี่....” นายต้นร้องถามต่อ พร้อมกับมองดูยังณัฐกานต์ที่กำลังกวาดสายตามองดูอุปกรณ์ทรมานที่มีอยู่อย่างมากมายนั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เธอกำลังเลือกเฟ้นหาอุปกรณ์แรกที่จะใช้ทรมานเค้าอยู่?? หรือ แค่มองด้วยความสนใจในอุปกรณ์พวกนั้นกันแน่??..
“อื้ออออ ใช่..โดนจัดหนัก ชนิดที่ทั้งรูหน้า รูหลัง พังยับเลยละ..” ณัฐกานต์ตอบคำถามนั้นอย่างตามตรง พร้อมหยุดชะงัก เมื่อเห็นค้อนยาง ซึ่งเป็น 1 ในอุปกรณ์ทรมานที่วางอยู่นั้น ราวกับว่า เจ้าของชิ้นนี้มีนัยยะบางอย่างซ่อนอยู่...
“ขนาดนั้นเลยเหรอ? แล้วตกลงมึงท้องกับไอ้ยักษ์มัย?...” นายต้นที่ร้องถามต่อ ด้วยคำถามไม่ควรถาม ไม่รู้เป็นเพราะทางหญิงสาวยอมตอบทุกคำถามเมื่อกี้แต่โดยดีด้วยมัย? จึงทำให้มันคึกคะนอง จนกล้าถามเรื่องนี้ อย่างไม่หวั่นกลัวแต่อย่างใด ซึ่งตอนที่ถามนั้น ณัฐกานต์ก็ยังคงจ้องมอง ค้อนยางนั้น พร้อมขยับมือ เข้าไปลูบยังตัวค้อน และตัวด้ามจับนั้น แล้วจึงค่อยตอบคำถามที่นายต้นถามแต่โดยดีเช่นเดิม..
“อื้ออออออ ท้องสิ ท้องกับไอ้ยักษ์ คนงานต่างด่าวนั้น...” ณัฐกานต์ตอบ พร้อมกับเริ่มทดลองจับที่ด้ามค้อนนั้น ว่ามัน กระชับกับมือของเธอรึไม่...ในขณะที่ทางนายต้น ก็ถึงกับตาโต ก่อนที่เค้าจะร้องถามกลับไปทันที
“เฮ้ยๆ....พูดจริงดิ นี่มึงโดนไอ้ยักษ์เย็ดจนท้องจริงๆเหรอ..” นายต้นร้องถามต่อทันที และมันก็ทำให้ทางหญิงสาวที่โดนถามนั้นวางเจ้าค้อนยางที่ลองถือนั้น ลง แล้วหันไปมองทางนายต้นแล้วเอ่ยตอบ..
“ถึงจะยังไม่ได้ตรวจเป็นทางการที่โรงพยาบาล แค่ตรวจกับชุดตรวจเท่านั้น แต่ก็คิดว่า น่าจะท้องได้ 2 เดือนแล้ว...” ณัฐกานต์ตอบคำถามของนายต้นแต่โดยดี และทันทีที่นายต้นได้ยินเช่นนั้น ก็ถึงกับหัวเราะแล้วเอ่ยอย่างเสียดาย
“แม่งเอ๊ยยยย....รู้งี้ไม่น่า ฆ่าไอ้ห่านั้นเลย น่าจะปล่อยให้แม่งมีชีวิตอยู่ก็คงดี...” นายต้นเอ่ยกล่าว อย่างเสียงดัง ด้วยท่าทีที่สะใจ คละเสียดายสุดๆ และนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์จ้องมองยังที่นายต้น แล้วร้องถาม
“พี่ต้น หมายถึง ใคร??...” เธอถาม และนายต้นก็ตอบกลับทันที...
“หมายถึงใคร? ก็หมายถึงผู้ชายของมึงนั้นไง!!” นายต้นตอบ อย่างไม่ทันสังเกตท่าทีของหญิงสาว เมื่อได้ยินถ้อยคำดั่งกล่าวของเขาแม้แต่น้อย...
และทันทีที่ณัฐกานต์ได้ยินถ้อยคำนั้น เธอก็ถึงกับนิ่งไปเล็กน้อย และภาพการตายของนายกายที่ได้ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ ภาพของเขาที่ถูกมัดขึงยึดไว้กับเก้าอี้ ในสภาพร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยที่ถูกทำร้ายอย่างมากมาย ก่อนจะตายเพราะรอยกระสุนที่เป่าเจาะที่ขมับของเขานั้น...
แน่นอนว่านั้นก็ทำให้ณัฐกานต์ค่อยๆหายใจแรง และถี่มากขึ้น ในขณะที่ทางนายต้นยังคงเอ่ยกล่าวอย่างสะใจอย่างไม่สนใจอะไรอยู่นั้น....
“กูน่าจะปล่อยให้แม่งมีชีวิตอยู่ต่อ ให้แม่งรู้เรื่องนี้ มันคงน่าสนุกพอควรเลยว่ามัย?...” นายต้นเอ่ยกล่าวต่ออย่างสะใจ และทันทีที่เค้าได้หันกลับไปมองดูท่าทีของหญิงสาวนั้น ก็ต้องตกใจ เพราะมันเป็นจังหวะเดียวกับที่ณัฐกานต์ได้ คว้าเจ้าค้อนยาง และเดินตรงเข้ามาหาเขา ก่อนจะลงมือตวัดฟาดทุบเข้าไปยัง ขมับด้านขวาของเขาอย่างเต็มแรง ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทางนายต้นไม่ทันจะเอ่ยร้องห้ามออกมาเลย.....
“อ๊อกกกกกกก..” นายต้นเอ่ยร้อง อย่างสะบัดใบหน้าหันไปตามแรงฟาดนั้น ก่อนที่จะค่อยๆมีเลือดซึมไหลอาบแก้มของเขา ภาพดั่งกล่าวของนายต้นนั้น ก็ยิ่งทำให้ภาพการตายของนายกายผุดขึ้นมาอีกรอบ และมันก็ทำให้เธอเอ่ยร้อง พร้อมกับตวัดค้อนยางที่อยู่ในมือเข้าฟาดใส่ทางนายต้นอีกครั้ง....
“อาาาาาาาาาาาาาาาา!!...” ณัฐกานต์เอ่ยร้อง พร้อมกับตวัดมือเข้าฟาดใส่ยังอีกข้างด้วยความแรงที่หนักมากขึ้น และในขณะที่เธอทำการฟาดเป็นครั้งที่ 2 นั้นเธอก็หวนนึกถึง ข้อความในรายงานชันสูตรศพของนายกาย ที่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ก่อนที่นายกาย จะถูกยิงทิ้งนั้น เค้าถูกทำร้ายอย่างหนัก จนถึงขั้นสมองบวม และเชื่อว่า ก่อนที่เค้าจะโดนยิงทิ้งนั้น เค้าคงทุกข์ทรมานอย่างสุดๆแน่ๆ และต่อให้เขาไม่โดนพี่ต้นยิงทิ้ง แต่จากสภาพบาดแผลนั้น เค้าก็น่าคงต้องตาย ภายในไม่กี่วันอยู่ดี.....
“ชะ..ชั้นจะให้พี่รับรู้ถึงความเจ็บปวด และความทรมานที่เขาได้รับ..” ณัฐกานต์เอ่ยด้วยท่าทีที่ดูคลั่งแค้น พร้อมกับตวัดมือ ใช้ค้อนยางนั้น เข้าฟาดใส่ยังศีรษะของนายต้นเป็นครั้งที่ 3 อย่างไม่สนเรียกร้องขอ และเสียงเจ็บปวดของเขาแม้แต่น้อย...
“ดะ เดี๋ยวววว!! อ๊อกกกกกกก!!..” นายต้นเอ่ย ก่อนจะเอ่ยร้องอย่างเจ็บปวด เมื่อโดนค้อนยางนั้นตวัดฟาดเข้าที่ใบหน้าของเขาอีกครั้ง แถมณัฐกานต์ก็ไม่ได้ฟาดใส่เพียงครั้งเดียว หากแต่ฟาดใส่อย่างต่อเนื่อง ราวกับคลุ้มคลั่งและสติหลุดไปแล้ว และทุกๆครั้งที่ค้อนยางเข้าฟาดใส่ที่ใบหน้าของนายต้นนั้น ภาพการตายของนายกายก็มักผุดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เธอยิ่งโกรธ!! ยิ่งแค้น!! ยิ่งคลั่ง!! จนทวีความแรงในการฟาดค้อนนั้นอย่างหนักขึ้นเรื่อยๆ...
ท่ามกลางเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของนายต้นที่เอ่ยร้อง พร้อมกับมีเลือดของเขาที่ค่อยๆ สาดกระเซ็นลงที่พื้นของห้องแห่งนั้น...
“อาาาาาาาาาาาาาาาา!!...” ณัฐกานต์เอ่ยร้อง และหมายเตรียมตวัดมือที่ถือค้อนยางนั้น เข้าฟาดทุบใส่กลางกบาลของนายต้น ก่อนที่ทาง นายเจ๋ง ลูกน้อง มือขวา+ บอดี้การ์ดของเธอ จะเข้าขวางไว้ ด้วยการเข้าคว้าจับแขนที่เกือบจะตวัดฟาดเข้าทุบกลางกบาลนั้น..
“ถ้าขืนคุณหนู ทุบเข้ากลางกบาลแบบนั้น... มีหวังคุณต้นได้ตายก่อนนะครับ..” นายเจ๋งเอ่ยเชิงบอกอย่างเตือนสติ ทันทีที่เขาได้หยุดยั้งความคลุ้มคลั่งของเธอ ซึ่งถ้อยคำของนายเจ๋งนั้น ก็ทำให้ณัฐกานต์หันไปมอง ด้วยท่าทีที่เหมือนได้สติ..
“นะ...นั้นสินะ...ชั้นเกือบทำพลาดไปแล้วสิ...” ณัฐกานต์ที่ได้สตินั้น ก็เอ่ยกล่าวอย่างเห็นด้วยกับบอดี้การ์ดของเธอ ก่อนจะหันกลับไปมองทางพี่ต้น ซึ่งสภาพใบหน้าของพี่ต้น ในตอนนี้นั้น ก็ปูดบวมช้ำอย่างหนัก เผลอๆ หนักกว่าที่ชายหนุ่มของเธอได้รับเสียอีก...
“โอยยยยยยยย พะ พอเถอะ ขอร้องละ..” นายต้นเอ่ยร้อง และเอ่ยกล่าวอย่างไม่เป็นภาษาคน เพราะปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด และฟันไม่รู้กี่ซี่ ที่ได้ไหลเยิ้มออกมาจากปากของเขา เพราะ 1 ในจุดที่ณัฐกานต์ฟาดใส่ไปเมื่อกี้นั้น มันมีช่วงขากรรไกรล่างด้วยนั้นเอง...
“อย่าทำกูอีกเลยนะ กูขอร้อง.....” นายต้นเอ่ยกล่าว ด้วยน้ำเสียงที่ฟังไม่รู้เรื่องเท่าไร อย่างมีน้ำตาไหลอาบยังแก้มทั้ง 2 ของเขา ร่างกายที่สั่นเทิ้มด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดๆนั้น นอกจากตัวสั่นเทิ้มแล้ว เขาก็ถึงขั้นเยี่ยวแตกเยี่ยวราดออกมาอีกด้วย...
“................” ณัฐกานต์ที่จ้องมองสภาพของนายต้นนั้น อย่างไม่แสดงท่าทีใดๆ ก่อนที่เธอจะวางค้อนยางที่อยู่ในมือของเธอ แล้วขยับกลับเข้าไปหาเขา...
“ขอโทษนะ... เมื่อกี้ณัฐสติหลุดไปหน่อย ยังไงพี่ต้นก็ช่วยอดทนหน่อยอย่าเพิ่งรีบพังนะค่ะ..” ณัฐกานต์ที่ขยับเข้าไปหา พร้อมกับประครองให้ใบหน้าของนายต้น ได้แหงกเงยหน้าจ้องมองหน้าของเธอ แล้วเอ่ยอย่างอ่อนหวาน ซึ่งเธอก็ไม่สนว่าทางนั้นจะมองเห็นหน้าของเธอไม่...เพราะข้างที่ใบหน้าของเขาปูดบวมจนตาปิดนั้น มันเป็นข้างเดียวกับข้างที่ดวงตาของเขาใช้ได้นั้นเอง (ส่วนตาอีกข้างของเขา บอด..)
“ก....กูขอโทษ ช..ช่วย..อ๊อกก... ยกโทษให้กูได้มัย?...” นายต้นพยายามเอ่ยกล่าวออกมา ขณะที่ถูกทางณัฐกานต์จับประครองให้แหงกเงยหน้าขึ้นนั้น ซึ่งเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียง และท่าทีที่ชวนน่าเวทนา น่าสงสารสุดๆ แถมตอนที่เอ่ยกล่าว ก็มีฟันอีก2 ซี่ ได้ร่วงหล่นออกจากปากของเขาด้วย...
“ขอให้ยกโทษเหรอ? ไม่มีวัน... พี่ต้น ล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง เห็นแก่ความเป็นญาติ พี่น้อง แถมยังใจดี ให้ณัฐ ดื่มด่ำกับความสุขกับนายยักษ์ถึง 18 ชั่วโมง ฉะนั้นณัฐก็จะให้พี่ต้น ดื่มด่ำแบบนั้นบ้าง ยังไงช่วยอยู่เป็น ของเล่น สัก 18 วันก่อน แล้วถึงค่อยตายนะค่ะ..” ณัฐกานต์ที่ปล่อยมือออกจากใบหน้าของนายต้นนั้น ก็เอ่ยตอบ อย่างน้ำเสียงที่ดูหวาน และใบหน้าที่ดูยิ้มแย้ม...
“ม...ไม่นะ...อย่านะ..” นายต้นเอ่ยร้องขอ ทันทีที่ได้ยินถ้อยคำนั้น แน่นอนว่า ทางณัฐกานต์นั้น ก็ไม่สนใจ หันไปมองเชิง ให้ลูกน้องของเธอ ที่แลดูเป็นงานกว่าเธอนั้น เข้าทำหน้าที่นี้แทนเธอ...
“คุณหนู...อยากให้ผมเริ่มจากตรงไหนก่อนดีครับ..” ลูกน้องคนดั่งกล่าวที่เดินเข้ามานั้น ก็ร้องถาม...
“นั้นสินะ ชั้นก็ดันเผลอตัวจัดหนักไปแล้ว เอาเป็นว่า ช่วงนี้ ช่วยจัดเบาๆ ให้กับพี่ต้นก่อนละกัน อย่าง ซ็อตไฟเบาๆ ให้เค้ามีสติรับรู้ ถึงความเจ็บปวด อย่างตลอดเวลาก่อน ก็แล้วกัน...” ณัฐกานต์ที่ยืน กอด-อก อย่างหันไปมองทางพี่ต้น และลูกน้องของเธอ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“เข้าใจแล้วครับ แล้วเรื่อง ‘บาดแผล’ ละครับ...” ลูกน้องคนเดิมร้องถามต่อ..
“อืมมมม...นั้นสินะ อนุญาตให้ทำแผลได้ หรือ ทำยังไงก็ได้ ให้พี่ต้นมีชีวิตอยู่ จนกว่าจะครบ 18 วันนะ..” ณัฐกานต์เอ่ยตอบคำถามนี้ แทบจะทันที แน่นอนว่า ทางลูกน้องของณัฐกานต์คนนั้น ก็พยักหน้าเชิงตอบรับต่อคำสั่งนั้น..
“ไม่ต้องห่วงนะ พี่ต้น เดี๋ยวอีกสัก 2-3 วัน ณัฐจะเข้ามาเข้ามาดูนะ ส่วนตอนนี้ขอให้ ขอให้สนุกกับ ช่วงเวลาดีๆนะ..” ณัฐกานต์หันกลับมาเอ่ยกล่าวกับ นายต้น ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ แน่นอนว่า เค้าก็เอ่ยร้องอย่างโวยวายออกมา..
“ไม่นะ!! มึงจะทำกับกูอย่างงี้ไม่ได้นะ...” นายต้นเอ่ยร้อง และพยายามดิ้นร้นให้หลุดจากเก้าอี้ ตัวที่เค้าถูกมัดผูกติดอยู่นั้น แน่นอนว่า เขาก็ไม่อาจจะดิ้นร้น ให้ตัวเองหลุดจากเก้าอี้นั้นไปได้..
“แล้วค่อยเจอกันใหม่นะค่ะ พี่ชาย..” ณัฐกานต์ที่จ้องมองท่าทีการดิ้นร้นนั้นอยู่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกล่าวอย่างทิ้งท้าย และเดินออกไปจากห้องแห่งนี้ โดยปล่อยให้ลูกน้องของเธอ กระทำการที่เธอได้สั่งไว้เมื่อกี้
.
.
.
3 วันต่อมา...
“โอยยยยย...” เสียงร้องครางอย่างเจ็บปวดของนายต้นที่เอ่ยร้อง ขณะยังคงถูกมัดขึงไว้กับเก้าอี้ ภายในห้องสี่เหลี่ยมเปล่าๆ ไม่มีอะไร นอกจาก ชั้นวางของแบบมีล้อ ที่บนชั้นดั่งกล่าวนั้น เต็มไปด้วย อุปกรณ์ทรมานอย่างมากมายอยู่ในนั้น แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่มีการหยิบของเหล่านั้น มาใช้งานสักเท่าไร..
แต่ถึงอย่างงั้น สภาพของนายต้น ในเวลานี้ ก็ดูจะหมดสภาพเอามากๆ ถึงแม้ตามร่างกายของเขาจะมีเพียงบาดแผลที่ ณัฐกานต์ทำไว้ เมื่อ 3 วันก่อนเท่านั้น แต่เหตุผลที่ทำให้เขามีสภาพเช่นนี้ เพราะเขาถูกลูกน้องของณัฐกานต์จับทรมานเบาๆ ตามได้สั่งไว้ ด้วยการสายไฟเข้าติดตามส่วนต่างๆ พร้อมกับตั้งค่าให้เครื่องทำการซ็อตไฟฟ้า ใส่ตัวของเขาทุกๆ 20 นาที...
ใช่....เขาโดนแบบนี้มา 3 วันเต็มแล้ว ถึงแม้กระแสไฟที่ทำการซ็อตนั้น จะไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แต่มันก็ทำให้สุขภาพทางจิตของเขา ค่อยๆ พังทลายลง...
“เป็นไงบ้างค่ะ พี่ต้น...” เสียงของณัฐกานต์ ที่เอ่ยทักทายทันที ที่เข้ามาดูสภาพ ลูกพี่ลูกน้อง ของเธอคนนี้ ก่อนที่เธอจะตาปริบๆเล็กน้อย เมื่อเห็นทางนายต้น หมดสติอยู่ (คือ เข้ามาอยู่ในช่วง 20 นาทีนั้นเอง..)
“นี่...” ณัฐกานต์เอ่ยเรียก ลูกน้อง คนที่ดูแล(?) พี่ต้น และเหมือนลูกน้องคนนั้น จะเข้าใจความหมายของเธอ
“รับทราบแล้วครับ คุณหนู..” ลูกน้องคนนั้น ขานรับ แล้วเดินไปกดปุ่มให้เครื่องได้จ่ายกระแสไฟ ให้เข้าซ็อต ซึ่งครั้งนี้เป็นการปล่อยไฟที่แรงกว่าทุกครั้ง แน่นอนว่ามันก็ทำให้ทางนายต้น ถึงกับร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด...
“อ็าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!!..” นายต้นเอ่ยร้อง พร้อมกับได้สติขึ้นมาในทันใด
“ตื่นแล้วเหรอค่ะ พี่ต้น..” ณัฐกานต์เอ่ยทักทาย ด้วยน้ำเสียง สีหน้า อย่างยิ้มแย้ม ในขณะที่พี่ต้น ที่รู้สึกตัวนั้น ก็เหมือนมีท่าทีจะยังไม่รับรู้อะไรเท่าไร ซึ่งก็ไม่แปลกที่เขาจะมีอาการแบบนี้ เพราะเขาไม่ได้หลับพักผ่อนเลย ถึงจะได้งีบหลับบ้าง แต่ไม่กี่นาทีก็ต้องสะดุ้งตื่นจากกระแสไฟฟ้าที่เข้าซ็อตทุกๆ 20 นาทีนั้น..
“น้ำ...อยากดื่มน้ำ..” นายต้นเอ่ยปากร้องขอ คำขอนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์มองเล็กน้อย แล้วถึงค่อยหันไปมองยังลูกน้องของเธอ คนที่เธอมอบหมายให้ทรมาน และให้ดูแลเขา ซึ่งทางลูกน้องคนนั้นก็เหมือนรู้ จึงรีบรายงานโดยไม่ต้องรอให้เธอถาม
“ครั้งสุดท้ายที่ผมให้น้ำไป คือ เมื่อ 6 ชั่วโมงก่อนครับ..” ลูกน้องคนดั่งกล่าวตอบ ซึ่งณัฐกานต์ก็เชื่อดั่งที่เขาบอก เพราะมันยังหลงเหลือหลักฐาน คือ ซากของ ขวดน้ำ และพวกเจลวุ้นอาหารเหลวอยู่นั้นเอง
“พี่ต้นอยากดื่มน้ำเหรอค่ะ?..” ณัฐกานต์หันกลับมาถาม หลังจากเชื่อถ้อยคำของลูกน้องเธอนั้น..
“อยากดื่มน้ำ...” นายต้นเอ่ยตอบด้วยท่าทีเช่นเดิม จนค่อนข้างมั่นใจว่า เขาในตอนนี้ยังคงไม่ตื่น อย่างมีสติดีพอ ที่จะรับรู้นั้นเอง
“เข้าใจละ งั้นเดี๋ยวณัฐจะให้ดื่มน้ำนะค่ะ..” ณัฐกานต์ตอบ พร้อมกับรับขวดน้ำที่ลูกน้องของเธอได้ยื่นให้อย่างทันที และในขณะที่ณัฐกานต์เปิดขวดน้ำนั้น เธอก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้...
“ไม่สิ...น้ำแบบนี้ มันไม่เหมาะกับพี่ต้นหรอก...” ณัฐกานต์เอ่ยขึ้น พร้อมกับเทน้ำในขวดนั้นทิ้งลงกับพื้นทันที โดยทางนายต้นนั้น ก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆเช่นกัน ซึ่งนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันในระดับหนึ่งว่า ประสาทรับรู้ และสติสตังของพี่ต้น ในตอนนี้นั้น มันยังไม่ตื่นอย่างเต็ม 100 นั้นเอง
“เดี๋ยวชั้นกลับมานะ..” ณัฐกานต์เอ่ยเชิงบอกกับลูกน้อง ก่อนจะหายออกไปจากห้องแห่งนี้ ซึ่งเธอก็หายไปราวๆ 5 นาทีได้ ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องนี้อีกครั้ง..
“มาแล้ว น้ำดื่มที่เหมาะกับพี่ต้น..” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าว ทันทีที่กลับเข้ามาในห้องแห่งนี้ พร้อมกับถือขวดน้ำที่ข้างในนั้น บรรจุของเหลวสีเหลืองเอาไว้ ก่อนจะหันไปพยักหน้า เชิงสั่งกับ ลูกน้อง คนเดิม และทางลูกน้องคนนี้ ก็ยังคงรู้งาน อย่างไม่ต้องให้เธอเอ่ยสั่งแต่อย่างใด
“อึกกกก จะทำอะไรนะ ปล่อยกูนะ..” นายต้นเอ่ยร้องด้วยความตกใจ ทันทีที่ลูกน้อง คนนั้น ของณัฐกานต์ ได้ขยับ เข้าจับล็อค อย่างบังคับให้ทางนายต้น ต้องแหงกเงยหน้าขึ้น ก่อนจะบีบปาก เพื่อหมายบังคับให้เค้าต้องดื่มน้ำที่ ณัฐกานต์เตรียมจะป้อนให้กับเค้า..
“ก็จะป้อนน้ำให้พี่ต้นทานไงค่ะ อ้ามมมมมม..” ณัฐกานต์เอ่ย พร้อมกับป้อนน้ำในขวดนั้น เข้าใส่ปากของนายต้น ด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน..
“อึกกกกกกก...อ๊ออกกก..” เสียงของนายต้นเอ่ยร้อง ก่อนที่เขาจะสำลัก และสะบัดหน้าจนหลุด แล้วเอ่ยร้องอย่างโวยวายออกมา..
“นะ..นี่มึงให้กูดื่มเหี้ยอะไรเนี่ย!!..” นายต้นเอ่ยโวยวาย ด้วยท่าทีที่เหมือนกลับมาอย่างมีสติเต็มที่แล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ดูเบลอๆ อย่างไม่มีสติสักเท่าไร แน่นอนว่า มันก็ทำให้ณัฐกานต์ยิ้มสวยๆ แล้วตอบกลับทันที..
“ให้ดื่มอะไรเหรอ? ก็เยี่ยวไงค่ะ แถมเป็นเยี่ยวสดๆ ที่ณัฐเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อกี้นี้ด้วยนะ..” คำกล่าวตอบของเธอนั้น ก็ทำให้นายต้นถึงกับอึ้งๆ ก่อนจะเอ่ยโต้ตอบ ด้วยสีหน้า น้ำเสียง ท่าทีอย่างเกรี้ยวกราด
“นี่มึงให้กูแดกเยี่ยวของมึงเรอะ อีณัฐ!!..”
“ก็ทีพี่ยังบังคับให้ณัฐกินเยี่ยวของพี่ได้เลย แล้ว..ทำไมณัฐจะบังคับให้พี่ดื่มเยี่ยวของณัฐกลับบ้างไม่ได้ละค่ะ” ณัฐกานต์เอ่ยตอบสวนกลับทันที และนั้นก็ทำให้นายต้นถึงกับชะงักไป เพราะเค้าได้กระทำกับเธอเช่นนั้นจริงๆ ก่อนที่ณัฐกานต์จะกล่าวต่อ..
“นอกจากพี่แล้ว ก็ยังมีคนของพี่ด้วย ที่ทำแบบนั้นกับชั้น...”
“คนของกูเหรอ? เดี๋ยวนะ ไม่ใช่มีแค่ นายยักษ์กับกูเหรอ ที่ทำกับมึงแบบนั้น นะ..” นายต้นร้องถาม อย่างงๆ และสงสัย เพราะเท่าที่เค้าจำได้ ในคืนนั้น มีเพียงแค่เค้ากับนายยักษ์ ที่บังคับให้ณัฐกานต์ดื่มกินเยี่ยว..
“ถ้าคืนนั้นละก็...ใช่...มีแค่ พี่ต้นกับนายยักษ์เท่านั้น แต่ในช่วงเช้าของวันถัดมา พวกลูกน้องพี่ที่ พี่ให้เฝ้าโรงงานนั้น ก็ได้ทำเช่นนั้นกับชั้นด้วย....” ณัฐกานต์ตอบ ซึ่งนั้นก็ทำให้นายต้นจ้องมอง หากตัวของเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ปกติกว่านี้ ก็คงปากดีร้องถามกลับไปแล้วว่า ‘เหรอ แล้วอร่อยมัยละ?’
แต่เพราะเขาตกอยู่ในสภาพที่เป็นรอง แถมมีประสบการณ์จาก 3 วันที่แล้วที่คะนองปากมากไปจนโดนเธฮเอาค้อนหวดไม่ยั้ง จึงทำให้เค้าไม่กล้าที่จะพูดอย่างไม่คิดอีก..
“ในเมื่อณัฐทานได้ พี่ต้นเองก็ต้องทานได้เช่นกัน..” ณัฐกานต์กล่าวต่อ พร้อมกับพยักหน้าเชิงสั่งให้ ลูกน้องของเธอนั้น กลับมา จับล็อค เพื่อบังคับให้ ลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้ ดื่มทานเยี่ยวที่เหลืออยู่ในขวดนั้นต่อ..
“มะ ไม่นะ อย่านะ อึกกกกกก...” นายต้นเอ่ยร้อง ทันทีที่ถูกจับล็อค ซึ่งเขาก็ดิ้นร้นขัดขืนสุดๆ ถึงแม้ ทั้งมือ และเท้าจะโดนมัดไว้ก็ตาม แต่เขาก็ทำสำเร็จด้วย คือ ดิ้นร้น สะบัดจนสู้ จนทำให้ขวดน้ำที่อยู่ในมือของณัฐกานต์นั้น หลุดร่วงหล่นจากมือของเธอ..
“เฮ้อ...ถ้าพี่ต้นยอมดื่มมันดีๆ ณัฐก็กะว่า จะให้พี่ต้น ได้พักซะหน่อยแล้วแท้ๆ...” ณัฐกานต์ที่มองขวดน้ำร่วงหลุดจากมือเมื่อกี้ ก่อนจะถอนหายใจ แล้วเอ่ยกล่าวออกมา..
“มะ หมายความว่าไงนะ..” นายต้นร้องถาม เมื่อได้ยินถ้อยคำดั่งกล่าวของณัฐกานต์ ซึ่งทางณัฐกานต์ก็ไม่สนใจ พร้อมกับขยับถอยออกห่างจากนายต้นเล็กน้อย แล้วค่อยเอ่ยเชิงสั่งกับลูกน้องของเธอ..
“จัดการเขาสิ...” ณัฐกานต์เอ่ย ในท่า กอด อก โดยทางลูกน้องคนดั่งกล่าวก็ขานตอบรับทันที..
“ครับ คุณหนู..”
“ดะ เดี๋ยวสิ..” นายต้นเอ่ยร้อง หลังชะงักไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำสั่งนั้นของณัฐกานต์ ก่อนที่ชายฉกรรจ์ที่เป็นลูกน้องของณัฐกานต์ที่ได้ขยับวนมายังด้านหน้า จากที่เมื่อกี้ยืนอยู่ข้างหลังของเขานั้น ซึ่งพอเขาเข้าประจำตำแหน่ง ก็ลงมือ ลงไม้กับนายต้นทันที...
โดยมีณัฐกานตืยืนมองดูการลงมือ ลงไม้นั้น ถึงแม้การลงมือลงไม้ดั่งกล่าว จะดูไม่รุนแรงอะไรมาก เพราะเธอได้สั่งกำชับไว้ว่า อย่าลงมือหนัก เอาให้แค่อีกฝ่ายเจ็บปวด ทรมานก็พอ...
“อ๊อกกก!!! อัคคคคคคคค!!..” เสียงของนายต้นที่เอ่ยร้องด้วยความเจ็บปวด จากหมัดที่ขยับเข้าต่อยที่ ใบหน้า ที่ร่างกายของเขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เขาโดนต่อยราวกับกระสอบทรายอยู่นานแค่ไหน จนกระทั้งมีเสียงเชิงสั่งจากณัฐกานต์ดังขึ้น
“พอได้แล้ว...” ณัฐกานต์เอ่ย พร้อมกับเดินตรงเข้าไปหานายต้นที่ยังคงถูกมัดขึงกับเก้าอี้ และจ้องมองดูสภาพของเขาในตอนนี้ อยู่สักแป๊บ แล้วจึงค่อยขยับเดินไปหยิบอุปกรณ์ทรมานที่อยู่ใกล้ๆ นั้น...
“นี่คือ แผลแรก ไม่สิ แผล 2 มากกว่า..” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าว พร้อมกับเอามีดสั้นที่อยู่ในมือ แทงลงไปที่ต้นขา ของนายต้นอย่างเต็มแรง แน่นอนว่า ทางนายต้นก็ถึงกับสะดุ้งและเอ่ยร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด
“อ๊าคคคคคคคคคคคคค!!!..”
“จะบอกให้พี่ต้นทำใจเอาไว้ จากนี้ไป ทุกครั้งที่ณัฐมาหา ณัฐจะฝากแผลแบบนี้ไว้ จนกว่าจะครบ 18 แผลที่พี่ต้นทำกับเขาไว้..” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าว ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่น้ำเสียงนั้น กลับดูน่ากลัวอย่างมาก ขณะที่ทางนายต้นก็ยังคงเจ็บปวดจากการโดนแทงจนไม่รู้ว่า สิ่งที่ณัฐกานต์เอ่ยนั้นได้เข้าหัวของเธอไปมังรึเปล่า?
“รักษาแผลให้เขาด้วย และก็ยังคงซ็อตไฟฟ้าให้เขาต่อไปด้วยนะ..” ณัฐกานต์ที่หันไปเอ่ยสั่งกับลูกน้องของตน ซึ่งทางลูกน้องคนนั้นก็ขานรับต่อคำสั่งนั้น
“เข้าใจแล้วครับคุณหนู..”
หลังจากสั่งจบณัฐกานต์ก็ได้เดินออกไปจากสถานที่แห่งนั้นและเธอก็กลับมาในวันรุ่งขึ้น แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในวันถัดมานั้น ก็แทบไม่แตกต่างอะไรเท่าไร คือ ณัฐกานต์มีการเข้ามาถามไถ่ พร้อมกับกลั่นแกล้งอะไรนิดๆหน่อยๆ แล้วค่อยให้ลูกน้องของเธอ ซ้อม และปิดท้ายด้วยการสร้างบาดแผลลงบนร่างของนายต้นเอาไว้
และไม่ใช่แค่ในวันถัดมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันต่อๆไป นั้นก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน..
แต่สิ่งที่หนักหนาสำหรับนายต้นนั้นไม่ใช่การถูกซ้อม หรือ การโดนณัฐกานต์สร้างบาดแผล หากแต่เป็นการถูกซ็อตไฟฟ้า ทั้งวัน ทั้งคืนนั้นมากกว่า แถมระยะเวลาที่ซ็อตไฟฟ้านั้นก็ลดลงเหลือ ทุกๆ 15 นาทีแล้วด้วย
.
.
.
“ฆ..ฆ่ากู ฆ่ากูทีเถอะได้โปรด..” นายต้นที่เอ่ยอย่างเพ้อๆ อย่างเริ่มไม่ไหวแล้ว หลังจากถูกกระทำมา 5 วันเต็มแล้ว โดยที่การโอดครวญนั้น ก็อยู่ในสายตาของณัฐกานต์ที่ได้เข้ามาหาเค้าในวันนี้เช่นกัน..
“ก็บอกแล้วไงค่ะ ว่า...เรื่องฆ่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจัดให้แน่ แต่ต้องหลังจาก ครบ 18 วันก่อนนะ เอ๊ะ หรือเปลี่ยนเป็น 18 สัปดาห์ดีละ?...” คำกล่าวตอบของเธอนั้น ก็ทำให้นายต้น ที่จ้องมองเธอนั้น ก็เริ่มแสดงถึงสายตาที่เริ่มสิ้นหวัง ไม่ได้แสดงถึงความโกรธแค้น แบบก่อนหน้านี้..
“ก่อนจะเริ่มความสนุกในวันนี้ พี่ต้นมีอะไร? ที่อยากได้มัยละค่ะ?..” ณัฐกานต์กล่าวต่อเชิงถามอีกฝ่าย ด้วยรอยยิ้ม ซึ่งนั้นก็ทำให้นายต้นมองเล็กน้อย แล้วเอ่ยตอบ..
“....น...น้ำ...อยากได้น้ำ..”
“น้ำเหรอค่ะ? ได้เลย..” ณัฐกานต์เอ่ยตอบรับอย่างทันที ก่อนจะหันไปมองยังลูกน้องของเธอ อย่างพยักหน้าเชิงสั่งกับลูกน้องคนนั้น และทางลูกน้องของเธอคนนั้น ก็ทำการนขยับจับเอนเก้าอี้ให้ล้มลงนอน...
“เชิญพี่ต้นดื่มน้ำ ให้เต็มที่ได้เลยนะ..” ณัฐกานต์ มาเฟียสาวแสนสวยเอ่ย พร้อมกับขยับร่างเข้าไปนั่งคร่อมอยู่เหนือใบหน้าของนายต้น อย่างถลกกระโปรงที่สวมใส่ขึ้นมานั้น ซึ่งนั้นก็ทำให้นายต้นถึงกับอึ้งๆกับการกระทำนั้น แถม ภายใต้กระโปรงนั้น ก็ไม่ได้มีการสวมใส่ชั้นในอีกชั้นแต่อย่างใดด้วย..
นอกจากอึ้งแล้ว เขาก็ได้แต่จำต้องทนรีบชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่อึดใจต่อจากนั้นด้วย..
“อืมมมมมม..” ณัฐกานต์ครางเบาๆ พร้อมกับปลดปล่อยสายธารสีเหลืองเข้ารดใส่หน้าของนายต้น ถึงแม้สีหน้าของเธอจะดูเขินอายกับการกระทำของตัวเองอยู่บ้าง แน่นอนว่าตอนที่เธอกระทำเช่นนั้น ลูกน้องคนที่ให้ความร่วมมือกับเธอนั้น ก็ได้ยืนหันหลังให้ ราวกับรู้งาน หรือไม่ก็ไม่ต้องการรับรู้การกระทำดั่งกล่าว..
“อืมมมมม.... ดูเหมือนจะเต็มใจยอมดื่มเยี่ยวของณัฐแล้วสินะ..” ณัฐกานต์กล่าวเบาๆด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นอีกฝ่ายยินยอม ถึงแม้ทางนายต้นจะไม่เต็มใจเท่าไรก็ตาม และหลังจากที่เธอให้พี่ต้นได้ดื่มน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น เธอก็จัดการฝากรอยแผลประจำวันให้กับเค้าต่อทันที..
.
.
.
“อึกกกกก...” นายต้นที่เอ่ยร้อง อย่างหมดสภาพ และมีสภาพที่สะบักสะบอมเต็มไปด้วยบาดแผลอย่างมากมาย นอกจากบาดแผลแล้ว ตัวของนายต้นก็ยังมีกลิ่นตัว กลิ่นเยี่ยวที่เหม็นอย่างสุดๆ ซึ่งมันก็คือ สภาพของเขา หลังจากโดนทรมานมาครบ 1 สัปดาห์แล้ว..
ใช่...นอกจากถูกทรมานแล้ว รอบเวลาที่เค้าถูกซ็อตด้วยไฟฟ้านั้น มันได้ลดลงมาอีก จากทุกๆ 15 นาที มาเป็น ทุกๆ 10 นาทีแล้วนั้นเอง จึงไม่แปลกที่เค้าจะมีสภาพที่ยำแย่เช่นนี้
“ใกล้พังแล้วสินะ..” ณัฐกานต์ที่เข้ามาดูสภาพของนายต้นนั้น ก็เอ่ยกล่าว เมื่อเห็นสภาพดั่งกล่าวของนายต้น ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปใกล้ พร้อมกับกล่าวต่อ..
“พี่ต้นค่ะ ยังพอมีสติอยู่มัย วันนี้ณัฐอุตสา มีข่าวดีมาบอกนะ คือ พี่ต้นจะได้พัก 2 วันนั้นนะ..” ณัฐกานต์ที่เดินเข้ามาหาทางนายต้นนั้น ก็กล่าวบอกอย่างจ้องมองดูท่าทีของนายต้นไปด้วย และดูเหมือนนายต้นยังจะมีสติอยู่บ้าง ก่อนจะกลั้นใจร้องถามออกมา
“อึกกก..แล้วหลังจากนั้นละ? ทรมานต่อเหรอ?..” คำกล่าวถามที่เบาบางแต่ก็พอจะได้ยินอยู่บ้างนั้น ก็ทำให้ณัฐกานต์ยิ้มเล็กน้อย แล้วเอ่ยตอบ..
“ความลับค่ะ เอาไว้ลุ้นเอาเองละกันนะ พี่ชาย...” ณัฐกานต์ตอบ พร้อมกับพยักหน้าเชิงสั่งกับลูกน้องของเธอ โดยไม่สนถึงทางนายต้นที่ยังคงต้องการคำตอบนั้น..
“ความลับเหรอ หมายความว่าไงนะ นี่มึงจะ...” นายต้นเอ่ยร้อง แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยถามจบคำดี เค้าก็โดนลูกน้องของณัฐกานต์คนนั้น ปักเข็มฉีดยา เข้าที่คอ และนั้นก็ทำให้สติของเขาถึงกับหมดสติลงในทันที
ท่ามกลางสายตาของณัฐกานต์ที่จ้องมองอย่างดูมีแผนการบางอย่าง...
.
.
.
และอีก 3 วันต่อมา..
“พี่ต้นค่ะ ตื่นได้แล้วค่ะ ตื่นได้แล้ว..” เสียงเรียกอย่างอ่อนหวานนั้น ก็ทำให้นายต้นที่หมดสตินั้นก็ค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้น และคนที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้น ก็คือ ณัฐกานต์...
“อีณัฐ???...” นายต้นเอ่ยทัก ซึ่งณัฐกานต์ก็ไม่ใส่ใจกับคำทักนั้นสักเท่าไร ยังคงจ้องมองเขาอย่างยิ้มหวาน
“ดีใจจังที่พี่ต้นพื้น ยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าไม่พื้นนี่จะทำไงดี..” ณัฐกานต์กล่าวตอบอย่างไม่สนใจคำทักนั้น ขณะที่นายต้นก็เริ่มรู้สึกตัว ถึงสภาพร่างกาย และสถานที่ตนเองอยู่ ซึ่งมันไม่ใช่ห้องที่เค้าอยู่ก่อนหน้านี้ แถมสภาพร่างกายของเขาในเวลานี้ก็เปลือยเปล่าอีกต่างหาก..
“ที่นี้ที่ไหน!! แล้วทำไมกู ถึงอยู่ในสภาพแบบนี้...” นายต้นที่เอ่ยร้อง เมื่อเค้าอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า และโดนมัดมือทั้ง 2 ไขว์ไว้ยังที่ด้านหลังของตัวเอง ที่กำลังนอนอยู่บนเบาะนอนโทรมๆแห่งหนึ่ง...
โดยทางณัฐกานต์ก็ไม่ได้ตอบคำถาม เอาแต่ยืนดูท่าทีอันร้อนร้นของนายต้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่นายต้นจะร้องถามอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว
“นี่มึงคิดจะทำอะไรกับกูกันแน่!! อีณัฐ...”
“อืมมมม ดูจากน้ำเสียง พี่ต้นน่าจะแอข็งแรง เป็นปกติดีแล้วสินะค่ะ งั้นณัฐจะได้ไม่ต้องกังวล หรือ เป็นห่วง ตอนที่ให้พี่ต้น ‘เล่น’ กับพวกเขา เอ๊ะ หรือต้องบอกว่า โดนพวกเขาเล่นดี??..” ณัฐกานต์ตอบด้วสยรอยยิ้ม
“มึงพูดอะไรของมึงนะ มึงคิดจะทำอะไรกับกูกันแน่..” นายต้นเอ่ยกล่าว และถามย้ำอีกรอบ อย่างไม่เข้าใจในคำพูดของณัฐกานต์นั้นเอง..
“วันนี้ตั้งใจจะตอบแทน ที่วันนั้น พี่ต้นหาคู่นอนให้กับณัฐ ก็เลยหาคู่นอนให้พี่ต้นกลับบ้าง แต่เพราะไม่รู้ว่า พี่ต้นชอบผู้ชายแบบไหน? ณัฐก็เลยเอาสเปคตัวเอง เป็นหลักในการเลือก คือ เน้นที่ อาวุธประจำกายใหญ่ๆ เค้าไว้...” ณัฐกานต์ตอบด้วยรอยยิ้ม และทันทีที่เธอเอ่ยจบ ก็มีชายร่างกำยำ ทั้งผิวดำ ผิว ขาว เดินเข้ามาในห้องร่วมๆ 10-15 คน..
“มึงอย่าบอกนะว่า...จะให้เจ้าพวกนี้...” นายต้นที่แสดงสีหน้าอย่างเข้าใจอะไรหลายๆอย่างนั้น ก็ร้องถามด้วยสีหน้าที่ถอดสี ซึ่งนั้นก็ทำให้ทางณัฐกานต์ ถึงกับยิ้มหวานอย่างถูกใจให้กับสีหน้านั้นของนายต้น..
“ค่ะ จะให้พวกนี้เป็นผัวของพี่ต้น..” เธอตอบ..
“มะ ไม่เอานะ...ขอร้องละ อย่าทำกับกูแบบนี้เลยนะ..” นายต้นเอ่ยร้อง พร้อมกับพยายามจะดิ้นร้นให้หลุดจากการถูกมัดนั้น แต่เค้าก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งณัฐกานต์ก็จ้องมองดูการกระทำนั้นอยู่ครู่แล้วจึงค่อยร้องถามกลับ..
“ขอร้องเหรอค่ะ? งั้นณัฐถามกลับคำหนึ่ง...ตอนที่พี่ต้นลงมือทำร้าย ฝ้าย คุณตาล และสาวๆคนอื่นๆ พวกเธอก็เคยร้องขอพี่ แล้วพี่เคยให้พวกเขามัยละ?..” ถ้อยคำเชิงถามของณัฐกานต์นั้น ก็ทำให้นายต้นถึงกับชะงัก จนไม่สามารถที่จะตอบถ้อยคำดั่งกล่าวได้ ก่อนที่ณัฐกานต์จะกล่าวต่อ
“พี่ต้นไม่เคยให้ใครเลยใช่มัยละ? งั้นเรื่องอะไรที่ ณัฐจะให้พี่ละ? จริงมัย?...” ณัฐกานต์กล่าวต่อ และมันก็เป็นเรื่องจริงดั่งที่ณัฐกานต์ว่า เพราะ นายต้นนั้นไม่เคยให้ใครเลย ซ้ำร้าย เขามักจะทำร้าย พวกเธอ (ฝ้าย/ตาล และสาวคนอื่นๆ ) อย่างหนักมากขึ้นไปอีก ทันทีที่พวกเธอได้ร้องขอ ให้หยุดนั้น..
“ที่สำคัญ มันคือการแก้แค้นให้กับ....” ณัฐกานต์กล่าวต่อ พร้อมกับจับที่บันท้ายของตัวเอง เล็กน้อย แล้วจึงค่อยหันไปเอ่ยบอกกับเหล่าชายฉกรรจ์ที่เธอเป็นคนจัดหามานั้น..
“ได้เวลาแล้วค่ะ เชิญสนุกกันตามสบายเลยนะ อยากจะแตกนอก หรือ แตกใน ก็เชิญทำตามใจชอบได้เลย” ณัฐกานต์หันไปเอ่ยเชิงสั่ง กับหนุ่มๆที่เธอจัดหามา และนั้นก็ทำให้ เหล่าชายฉกรรจ์ ร่างกำยำเหล่านั้น พากัน ขยับเข้าไปหายัง นายต้น ที่อยู่ในสภาพขัดขืนอะไรไม่ได้นั้น...
“อย่านะ อย่า อย่าเข้ามาหานะ!!!!!!!!!!!...” นายต้นเอ่ยโวย เมื่อเห็ฯชายฉกรรจ์เหล่านั้น ค่อยๆพากันเข้ามารอบกรอบร่างของเขา ก่อนที่พวกเขาจะจับจัดท่าทางการนอนของนายต้นซะใหม่ ให้เหมาะ และสะดวกต่อพวกเขา..
“อย่ามาแตะต้องตัวของกูนะ...” นายต้นเอ่ยโวย เมื่อถูกเหล่าชายฉกรรจ์จัดท่าทางให้อยู่ในสภาพนอนโก้ง ตูด ก่อนจะมีชายฉกรรจ์คนหนึ่งขยับเข้าประจำตำแหน่ง...
“โวยวายจังเลยนะ น้องสาวคนนี้นะ..” ชายฉกรรจ์คนนั้นกล่าว..พร้อมกับขยับเข้ามาชิดใกล้ ชนิดที่ทางนายต้นรู้สึกได้ถึง อาวุธประจำกายที่เข้ามาสัมผัสกับร่องก้นของเขา...
“น้องสาวเหี้ยอะไร หยุดเลยนะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ..” นายต้นที่หันไปเอ่ยกับชายฉกรรจ์คนนั้น อย่างดิ้นร้น โดยทางชายฉกรรจ์คนนั้น ก็/ไม่ได้เอ่ยโต้ตอบ เอาแต่ยิ้มๆให้ ก่อนจะส่งอาวุธประจำกาย อันใหญ่ยาวเข้าไป และนั้นก็ทำให้การโวยวายนั้น เปลี่ยนเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวดแทน...
“อึกกกกกกกก อัคคคคคคคคคค..”นายต้นเอ่ยร้องอย่างสุดเสียง และเขาก็เอ่ยร้องอย่างเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความแรงในการกระทำของชายฉกรรจ์คนนั้น..
“อืมมมม แน่นจังเลยนะ น้องสาว..” ชายฉกรรจ์คนดั่งกล่าวเอ่ย พร้อมกับออกแรงกระทำหนักขึ้น จนทำให้ทางนายต้นยิ่งเอ่ยร้องด้วยความเจ็บปวด...
“อัคคคคคคคคค กูจะฆ่ามึง กูจะฆ่าพวกมึงให้หมดเลย ได้ยินมัย!!..” นายต้นเอ่ยร้องอย่างโวยวายด้วยความเจ็บปวด และถ้อยคำดั่งกล่าวนั้น ก็ทำให้ชายฉกรรจ์ที่กระทำกับเค้าอยู่นั้น ถึงกับชะงัก ก่อนจะมีเสียงของชายฉกรรจ์อีกคนเอ่ยบอกกับเค้า
“เสียงดังไม่พอ ยังพูดจากไม่น่ารักอีกนะ คงต้องสั่งสอนซะหน่อยแล้ว..” ชายฉกรรจ์คนนั้นเอ่ย อย่างขยับเข้าไปหา และทำการจับให้ใบหน้าของนายต้นแหงกเงยขึ้น ซึ่งนั้นก็ทำให้นายต้นที่น้ำตานอง จากความเจ็บปวดนั้น ก็ถึงกับอึ้งตะลึง เมื่อเห็นอาวุธประจำกายของชายฉกรรจ์คนนั้น..
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ถ้าทำกูจะกัดควยมึงให้ขาดเลย..” นายต้นเอ่ยโวยใส่ เพราะรู้ดีว่า ชายฉกรรจ์คนนั้นจะทำอะไรกับเขา ก่อนที่ชายฉกรรจ์คนนั้นจะตอบกลับทันที..
“ก็เอาสิ...ถ้ามึงกล้าก็ทำเลย เพราะถ้ามึงทำ กูสาบานว่าจะเอากำปั้นกูยัดตูดมึง!!..” ชายฉกรรจ์คนดั่งกล่าวเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสีหน้าที่ดูเหี้ยมโหด จนทำให้ทางนายต้นที่ข่มขู่ ถึงกับต้องหน้าถอดสี ก่อนที่เค้าจะโดนชายฉกรรจ์คนนั้นกล่าวต่อ พร้อมกับบีบจมูกของเขา...
“เอ้า....อ้าปากกว้างๆซะนะ คนสวย...” ชายฉกรรจ์คนดั่งกล่าวเอ่ย...
ท่ามกลางสายตาของณัฐกานต์ที่ยืนกอดอกมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเธอก็ยืนดูอยู่นานพอสมควร นานพอที่จะเห็นว่า นายต้น ลูกพี่ลูกน้อง ของเธอโดนกระทำชำเราผ่านไปถึง 3 คนแล้ว และถึงค่อยเดินออกไปจากที่แห่งนี้ ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง ในอีก 2 วันถัดมา...
“อึกกกกกกก...ฮื้อออออออ..”นายต้นที่เอ่ยร้องอย่างสะอึกสะฮื้น ในสภาพที่นอนหมดสภาพอย่างดูไม่จืด เนื้อตัวเปรอะเลอะไปด้วยสิ่งสกปรก และคราบน้ำกาม แถมบันท้าย ก็มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด บงบอกว่า โดนกระทำมาอย่างหนัก ชนิดที่ถึงขั้น ฉีกขาดเลยก็ได้...
“เป็นไงบ้างค่ะ พี่ต้น..” ณัฐกานต์ที่เข้ามา ภายในห้องแห่งนั้นก็ร้องถาม ด้วยรอยยิ้ม ที่ดูสะใจไม่น้อย ซึ่งเธอก็ไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่มาพร้อมกับนายเจ๋งด้วย..
“ณ..ณัฐ??..” นายต้นเอ่ยทัก และแหงกเงยหน้าขึ้น เมื่อได้ยินคำทักทายจากเธอ ก่อนที่เขาจะทำการบางอย่างที่ทำให้ณัฐกานต์ถึงกับอึ้ง เมื่อเค้าได้ขยับร่างกายเข้าไปกราบยังที่เท้าของเธอ..
“ขะ...ขอโทษ พี่ขอโทษ ทั้งเรื่องที่ทำกับเรา กับเพื่อนเรา ย ยกโทษให้กับพี่ด้วย อย่าทำพี่อีกเลยนะ..” นายต้นค่อยๆเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ด้วยท่าทีที่หมดสิ้นทุกอย่าง ซึ่งน้ำเสียง และ ท่าทีของเขามัน ก็บงบอกว่า เขาสำนึกผิดแล้วจริงๆ
โดยการเอ่ยขอโทษนั้น มันก็ทำให้ณัฐกานต์หวนนึกถึงเหตุการณ์ในวัยเยาว์ ที่ครั้งหนึ่ง เด็กชาย “ต้น” ได้กลั่นแกล้งเธอจนโกรธจน งอน จน เค้าต้องมาขอโทษด้วยลักษณะ น้ำเสียงประมาณนี้..(ถึงจะไม่ถึงขั้นกราบเท้าก็เถอะ)
“ยกโทษให้พี่ด้วย อย่าทำอะไรพี่อีกเลยนะ..” นายต้นกล่าวซ้ำ ด้วยน้ำเสียงอย่างสะอึกสะฮื้น ซึ่งมันก็ทำให้ณัฐกานต์หรี่ตาลงเล็กน้อย ถ้าเป็นเมื่อก่อน เมื่อยังเป็น เด็กหญิง ณัฐกานต์ ก็คงตอบเค้าว่า ‘เข้าใจแล้วค่ะ สัญญานะ ว่า พี่ต้นจะไม่ทำแบบนี้แล้วนะ..’
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ แถมเรื่องที่เค้าก่อนั้น มันก็คนละสเกลกับตอนเด็กแล้ว...เพราะมันไม่ใช่การแกล้ง ด้วยความตึกคะนอง ที่ทำร้ายไปไม่รู้กี่ชีวิต ทั้งเพื่อนรักเธอ และคนที่เธอรัก รวมถึงตัวของเธอด้วย..
“พี่ต้น ล้ำเส้นมากเกินไป เกินกว่าที่จะให้อภัย..ณัฐไม่มีวันที่จะยกโทษให้กับพี่ ส่วนฝ้าย กับ กาย เค้าจะยกโทษให้พี่มัย? ไว้พี่ไป ถามกับพวกเขาเอาเองละกัน..” คำกล่าวตอบของณัฐกานต์นั้น ก็ทำให้นายต้นแหงกเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพล่ง เมื่อเห็นทางณัฐกานต์ ถือปืนจ่อมายังที่เค้า...
และเสียงปืนที่ได้ดั่งสนั่นขึ้น ถึง 3 นัดด้วยกัน...
“นี่ยังไม่ครบ 18 วันเลยนะครับ..” นายเจ๋งร้องถาม ทั้งๆที่เค้าเป็นคนส่งปืนให้กับเธอแท้ๆ..
“ชั้นเปลี่ยนใจแล้วนะ อีกอย่างแค่นี้ก็น่าจะสาสมกับสิ่งที่เค้าทำแล้วละ..” ณัฐกานต์ตอบ อย่างไม่ได้หันมามองทาง นายเจ๋งแต่อย่างใด ก่อนที่เธอจะเอ่ยเชิงสั่งในไม่กี่อึดใจถัดจากนั้น..
“ฝากจัดการเก็บกวาดด้วยนะ ชั้นขอไปสูดอากาศหน่อย..” ณัฐกานต์กล่าว และเดินออกไปจากห้องนั้นอย่างทันที โดยไม่ให้ใครได้เห็นน้ำตา ซึ่งณัฐกานต์เองก็ไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งๆที่คิดว่า เธอได้เกลียดลูกพี่ลูกน้องคนนี้อย่างเข้าไส้แล้วแท้ๆ..
แต่ในช่วงเวลาสุดท้ายของเขาเมื่อกี้ เธอกลับหวนนึกถึง ตอนเป็นเด็ก ตอนที่เค้ายังเป็น พี่ต้น พี่ชายที่น่ารักอยู่...ไม่รู้ว่า เป็นเพราะ กาลเวลา หรือ สภาพแวดล้อม กันนะ ที่ทำให้ เด็กชายต้น ที่แสนน่ารักคนนั้น โดนกลืนหายไป เหลือเพียง นายต้น ชาย คนที่เธอเกลียดชั่งคนนี้แทน..
2 เดือนต่อมา..
ณ สถานที่วางอัฐิ ของวัดแห่งหนึ่ง...
“ขอโทษนะ...ที่ไม่ได้มาหานายเลยนะ..” ณัฐกานต์ที่เอ่ยกล่าว เมื่อเดินมาถึงยังที่วางอัฐิของนายกาย..
“แต่ถึงชั้นไม่มา ก็ดูเหมือนนายจะมีคนคอยมาหานายอยู่นะ...” ณัฐกานต์กล่าวต่อ เมื่อเห็นที่วางอัฐิของกายนั้น มีดอกไม้ ถึง 2 ช่อด้วยกัน ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่า 2 ช่อนั้น น่าจะเป็นของ ตาล และ เต้ย แน่ๆ..
ก่อนที่ณัฐกานต์จะก้มวางช่อดอกไม้ ร่วมกับ 2 ช่อที่วางอยู่ก่อนแล้วนั้น...
“นายคงทราบแล้วอยู่ละมังว่า ชั้นล้างแค้นให้กับนาย ตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว เพราะพี่ต้นคงไปกราบเท้าขอโทษนาย ที่อยู่ในนรก แล้วนะ...” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าว และนิ่งไปครู่ ก่อนจะกล่าวต่อ ด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่น..
“ช...ใช่..... คนเจ้าชู้ เอาเพื่อน เอาฝูง อย่างนาย มันต้องตกนรกอยู่แล้วละ...” เธอกล่าว อย่างค่อยๆมีหยาดน้ำตา ไหลหยดลงกับพื้น...
“ชั้นคิดถึงนายนะ กาย ชั้นอยากจะได้ยินเสียง และสัมผัสนายอีกครั้ง...” ณัฐกานต์ที่เอ่ยกล่าว อย่างเสียง และตัวสั่นเทิ้ม ด้วยความเสียใจ ซึ่งเธอก็มีสภาพแบบนั้น อยู่พักหนึ่งได้ ก่อนที่จะกลั้นใจ ทำตัวกลับเป็นปกติ...
“นายไม่ต้องเป็นห่วงชั้นนะ ถึงช่วงนี้จะไม่ค่อยดี จากการแพ้ท้องก็ตาม...” ณัฐกานต์กล่าว พร้อมกับค่อยๆลูบท้องของตัวเองที่ตอนนี้เริ่มป่องโตอย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่เธอท้องได้แค่ 4 เดือน แต่ขนาดท้องของเธอกลับเหมือนคนท้อง 6 เดือนก็ไม่ป่าน...
“เรื่องเด็ก ชั้นตัดสินใจที่จะเก็บเด็กพวกนี้ไว้...ชั้นไม่ได้ใจดีอะไรหรอกนะ แต่เพราะ เด็กที่อยู่ในท้อง มีด้วยกันถึง 3 คน ถ้าเป็นคนเดียว ยังพอว่า แต่พอมีถึง 3 คน ชั้นทำใจ ที่จะไปทำแท้งไม่ลงจริงๆ...และมันคงง่ายกว่านี้นะ ถ้าเด็กในท้องเป็นลูกของนายนะ..” ณัฐกานต์กล่าวด้วย ด้วยน้ำเสียง สีหน้าที่เศร้าสร้อยและเจ็บปวด ซึ่งหลังจากที่เธอเอ่ยถ้อยคำนั้น เธอก็ยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอจะดังขึ้น
“ไปก่อนนะ...ไว้ว่างๆ ชั้นจะมาหานายใหม่นะ?...” ณัฐกานต์ที่มองยังโทรศัพท์มือถือ แล้วเอ่ยกล่าว ก่อนจะเดินออกมาจากจุดที่เป็นที่วางอัฐิของนายกายนั้น....
Epilogue
หลายเดือนต่อมา...
“มีอะไรเหรอ? นายเจ๋ง...” ณัฐกานต์ที่นอนอยู่ที่เตียงนั้น ก็เอ่ยถาม ทันทีที่เห็นบอดี้การ์ดของเธอได้ เข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอ ขณะทางนายเจ๋งที่เข้ามานั้น ก็ชะงักเล็กน้อย เพราะในเวลานั้น เหล่าลูกๆของณัฐกานต์กำลังส่งเสียงร้องงอแง๊อยู่...
“คุณหนู ให้นมกับพวกเขาบ้างรึยังครับ..” นายเจ๋งที่เดินตรงเข้าไปหาเธอนั้น ก็ร้องถาม ทั้งๆ การเข้ามาหาเธอนั้น มาด้วยเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องนี้..
“.......ยัง อีกสักพัก เดี๋ยวชั้นลงไปให้นมพวกเขาเองนะ..” ณัฐกานต์ที่นอนอยู่บนเตียง นั้นเอ่ยตอบ ด้วยน้ำเสียง ท่าทีที่เหมือน ไม่ใยดี ต่อลูกๆของตัวเอง ที่เธอเพิ่งให้กำเนิดมาราวๆ เดือนหนึ่งได้...
โดยที่นายเจ๋งก็มองท่าทีของคุณหนู ถึงแม้ตัวของเขาจะไม่รู้สึกแปลกใจกับการกระทำของเธอสักเท่าไร เนื่องจาก ลูกๆ ที่เธอเพิ่งให้กำเนิดมานั้น มันไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เกิดจากเหตุการณ์ที่คุณต้นได้เอาคืน ด้วยการบังคับให้เธอต้องหลับนอน กับแรงงานต่างด่าวคนหนึ่ง และจากเหตุการณ์นั้น ก็นำไปสู่การตั้งท้อง แล้วการให้กำเนิดเด็กแฝด 3 คน..
ใช่....นั้นคือ ต้นตอ และเหตุผลที่ทำให้คุณหนูของเขา รู้สึกเย็นชา และไม่ใจใส่ หรือ ให้ความรักแก่ลูกๆของตัวเองสักเท่าไร แค่ไม่ยอมทำแท้ง และยอมอุ้มท้อง จนให้กำเนิดพวกเขาออกมาได้นั้น ก็อาจจะเรียกว่า ใจดีที่สุดแล้วก็ได้...เพราะการมีอยู่ของเด็กทั้ง 3 นั้น มันไม่ต่างจากเครื่องยืนยัน ถึง สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น..เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น มันไม่ได้มีแค่ เรื่องที่ทำให้คุณหนู ได้เด็ก 3 คนนี้เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องที่เธอได้สูญเสีย ชายที่เธอรักไปอีกด้วย..
“ว่าแต่นายเข้ามาด้วยเรื่องอะไรละ??...” ณัฐกานต์ร้องถามด้วยความสงสัย และนั้นก็ทำให้นายเจ๋ง หันกลับมามองแล้วเอ่ยตอบ..
“มาเปิดเผยความจริงอีกด้าน ที่คุณหนูน่าจะไม่รู้ครับ?...”
“ความจริงอีกด้สน?? ความจริงอะไรของนาย..” ณัฐกานต์ร้องถามด้วยความสงสัย ก่อนที่นายเจ๋งจะตอบด้วยคำถาม..
“คุณหนูคิดว่า พวกลูกๆ ของคุณหนูหน้า เหมือนใครกันครับ...”
“นี่นายอยากพูดอะไรกันแน่...” ณัฐกานต์ร้องถาม ด้วยสีหน้า ท่าทีที่เริ่มไม่สบอารมณ์ กับคำถามนั้น เพราะถ้าให้พูดตามตรง ตั้งแต่เธอให้กำเนิด เด็กทั้ง 3 ออกมานั้น เธอก็ไม่คิดที่ จะมองหน้าพวกลูกๆของเธอ แต่อย่างใดเลย ถึงแม้หลายคนจะบอกว่า พวกเขาเป็น แฝด หญิง 2 ชาย 1 ที่แสนน่ารัก ก็ตาม..
“ผมคิดว่า พวกเขาหน้าเหมือน นายกาย นะครับ..” นายเจ๋งกล่าวต่ออย่างไม่สนใจ ในท่าทีของณัฐกานต์ และนั้นก็ทำให้เธอถึงกับออกอาการอย่างระเบิดอารมณ์ออกมาทันที..
“อย่าพูดอะไรบ้าๆนะ..ต่อให้เป็นนาย ชั้นก็.....” ณัฐกานต์เอ่ยกล่าวโพล่งออกมา ด้วยสีหน้า น้ำเสียงที่โกรธเอามากๆ แต่ทางนายเจ๋งไม่สนยังคงกล่าวต่อ...
“คุณหนูไม่รู้สึกแปลกใจบ้างเหรอครับ ว่าทำไม หลังเหตุการณ์นั้นเพียง 8 เดือน คุณหนูก็พร้อมให้กำเนิดพวกเขาแล้ว...” ถ้อยคำของนายเจ๋งนั้น ก็ทำให้ณัฐกานต์ถึงกับชะงัก เพราะมันเป็นดั่งที่เค้าพูด ก่อนที่เธอจะเอ่ยโต้ตอบอย่างไม่ยอมรับ..
“ระ...ร่างกายชั้นอาจจะผิดปกติอะไรก็ได้ ถึงได้ให้กำเนิดพวกเขาก่อนกำหนด...” เธอตอบออกมาอย่างส่งเดช ทั้งๆ ที่เธอก็รู้ดีว่า เหตุผลจริงๆนั้น มันไม่ใช่อย่างที่เธอพูดออกมา เพราะคุณหมอได้อธิบายให้เธอฟังแต่เธอไม่เคยสนใจ รับฟัง คำอธิบายเลย ถึงแม้จะเข้าพบหมอก็ตาม (คือ ฟังแหละ แต่ไม่เข้าหู )..
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมได้ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์ของคุณหนูอย่างละเอียดหมดแล้ว ในนั้นระบุไว้ชัดว่า เด็กทั้ง 3 ที่เกิดมานั้น ไม่ใช่เด็ก 8 เดือน แต่เป็นเด็ก 9 เดือนครับ ไม่สิ มันผิดปกติ ตั้งแต่ตอนที่คุณหนูไปหาหมอครั้งแรกแล้ว เพราะในบันทึกการตรวจมันบอกว่า คุณหนู ท้องได้ 3 เดือน ทั้งๆที่ผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้น ไปได้แค่ 2 เดือนแท้ๆ....” นายเจ๋งกล่าวตอบ พร้อมกับนำเอกสารข้อมูลทางการแพทย์ยื่นให้กับณัฐกานต์ ซึ่งเธอก็รับมัน และร้องถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร..
“ นายตั้งใจจะบอกอะไรกับชั้น?...” ณัฐกานต์ร้องถาม ด้วยท่าทีที่เหมือนเริ่มตามอีกฝ่ายไม่ทัน ซึ่งทางนายเจ๋ง ก็มอง แล้วยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะตอบคำถามนั้น ให้แก่นายหญิงของเขา...
“ดูเหมือนตอนที่คุณหนูถูกคุณต้นก่อเหตุลักพาตัวไปนั้น ตัวของคุณหนูจะตั้งท้องอยู่ก่อนแล้วครับ..” นายเจ๋ง ตอบ ซึ่งนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์ถึงกับตาโต และเธอก็ไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะเธอมั่นใจเรื่องการป้องกันตัวเองค่อนข้างมาก ซึ่งเธอก็ป้องกันตัวเองตลอดเวลา ยกเว้นคืนที่ถูกลักพาตัวไปนั้น เพราะเธอตั้งใจจะปล่อยท้อง..จะบอกว่า 1 เดือนก่อนหน้าที่จะถูกลักพาตัว เธอป้องกันพลาด แล้วท้องกับกายเหรอ?...
‘ไม่...ไม่...ไม่มีทางหรอก...’ ณัฐกานต์เอ่ยกล่าวในใจอย่างไม่ยอมรับ เพราะเธอค่อนข้างมั่นใจในเรื่อง ป้องกันตัวเอง และการนับวันอยู่ แต่อีกใจหนึ่งของเธอ ก็อยากให้เป็นเช่นนั้น...เพราะ...ระหว่าง ท้องกับคนที่รัก กับ คนที่ไม่ได้รัก เธอก็ต้องเลือกอย่างแรกอยู่แล้ว....
ถึงแม้ มันจะหมายความว่า เธอป้องกันตัวเอง พลาดไปก็ตาม....
“ไม่ต้องคิดเยอะให้มากความครับ ด้วยความสงสัยในโครงหน้าของพวกคุณหนู ได้ถือวิสาสะนำบางส่วนของพวกเขา ของคุณหนู และเส้นผมของคุณกาย ที่คุณหนูได้แอบเก็บไว้ นำไปตรวจ DNA แล้วครับ...” นายเจ๋งเอ่ยพร้อมกับยื่นเอกสารบางอย่างให้กับนายหญิงของเขา และนั้นก็ทำให้ณัฐกานต์คว้ากระดาษแผ่นนั้น ที่เป็นผลรายงานตรวจ DNA มาอ่าน....
“.......มีโครงสร้างทาง DNA ตรงกัน....” ณัฐกานต์ที่อ่านตรงสรุปผลนั้นอย่างช้าๆ ด้วยมือไม้ที่สั่นระริกๆ ก่อนที่จะมีหยาดน้ำตาหยาดหยดลงมา...
“ขอบคุณนะ เจ๋ง ขอบคุณมาก....” ณัฐกานต์เอ่ยพร้อมกับปาดน้ำตา...
“ไม่เป็นไรครับ ผมว่า คุณหนูควรรีบไปให้นมพวกเขาจะดีกว่านะครับ..” นายเจ๋งกล่าวตอบ..
“อื้อออออ ชั้นไปให้นมพวกเขาเดี๋ยวนี้ละ..” ณัฐกานต์ตอบ พร้อมกับขยับร่างอย่างหมายที่จะลงจากเตียงทันที ด้วยสีหน้าท่าทีที่ดูเปลี่ยนไปแทบจะทันที และนั้นก็ทำให้ทาง ชายหนุ่มผู้เป็น บอดี้การ์ดของเธอนั้น มองอย่างพอใจกับผลลัพธ์ที่เค้าได้พยายามทำเพื่อเธอ...
เพราะจากนี้นายหญิงของเขาคงไม่มอง หรือปฎิบัติต่อ ลูกๆ ของเธอ อย่างเย็นชาอีกต่อไปแล้วละ...
-ผมกลายเป็นคนเอาเพื่อนเอาฝูง
-What IF หากพี่ต้นไม่ได้ โดนจับในคืนนั้น (Bad End 1) –จบ
ผู้แต่ง
หวังว่า ฉบับนี้ คงโหดสาแก่ใจคนอ่านแล้วนะ...
มีเรื่องให้ช่วยเล็กน้อย คือว่าด้วยเรื่อง ฉากจบแบบที่ 2 ที่ว่าด้วยทางเลือกที่ มาช่วยไม่ทัน.นั้น
ฉากจบนี้ จะมีครึ่งหลัง 2 แบบ ..
แบบ A ณัฐกานต์ถูกส่งไปที่ซ่อง
แบบ B ถูกส่งไปที่ค่ายทหารของพม่า
ไม่ต้องห่วงได้อ่านทั้ง 2 แบบแน่นอน...
และเรื่องที่อยากให้ช่วย คือ เพื่อนๆอยากให้สภาพของณัฐกานต์ เป็นยังไง หลังจากอยู่ในซ่อง/ค่ายทหาร มา 6 ปี!! แบบให้ผมสั้น ผอมลง บลาๆ แนะนำมาได้เต็มที่เลยครับ..
ร่างกายไม่ต้องเปลี่ยนมาก แค่อวบอัดขึ้นสมกับที่คลอดลูกแล้วสัก 2 -3 รอบ ถูกตีตราที่สะโพก แต่ที่เปลี่ยนไปคือระบบความคิดซึ่งหลุดกรอบไปแล้ว มีความสุขกับการเป็นทาสกามและตั้งใจทำหน้าที่อย่างดี ไม่มีความคิดที่จะหลบหนีอีกแล้วเพราะเชื่อว่าที่นั่นเหมาะสมกับเธอที่สุด
ตอบลบB ครับ แต่ขอแบบโดนเล่นขยายรู จนพังเละ โดนตัดแตดตัดแคม ตัดหัวนม จะแตกได้เฉพาะเวลาโดนทะลวงมดลูกเท่านั้นครับ
ตอบลบมาขนาดนี้ อย่างน้อยต้องโดนสองอันในรู้เดียวและอีกอันอยู่ในตูดจนเป็นปรกติ สุดท้ายเอามือยัดเข้าได้ถึงข้อศอกและสองมือได้สบาย ย้วยจนมดลูกปลิ้นออกมาข้างนอก สะใจมากก
ตอบลบเห็นด้วยอยากเห็นโดนเล่นจนเละ เอาตีนยัดเข้าได้สบาย มดลูกปลิ้นออกมา หีหุบไม่ได้ถาวร
ตอบลบตูดอั้นขี้ไม่ได้ แค่โทรศัพท์เข้าสั่นนิดหน่อยน้ำแตกไหลเยิ้มตลอดเวลา
หัวนมโดนเล่นจนยาน ย้วยหัวนมยื่นเป็นสีดำน่าเกลียด