กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้

กติกาการใช้บล็อคแห่งนี้ ห้ามก็อปไปเผยแผ่ที่ไหน // อ่านแล้ว ตอบ "ขอบคุณ" สักนิด...เพื่อกำลังใจน้อยๆ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Princess Tentacle ตอนที่ 1

คุยก่อนอ่าน

เรื่องนี้ ไม่ใช่ เรื่องใหม่ เป็น เรื่องเก่า 1 เรื่องที่เก็บไว้อยู่....ได้รับแรงบันดาลใจจาก มังกะ 18+ เรื่อง Tentacle Lover 

หวังว่าจะสนุกกันนะครับ

ส่วนเรื่องเก่าๆที่ค้างไว้จะค่อยๆทยอยลงๆๆ ใจเย็ดๆๆๆ นะครับ 
****************************************************************
Princess Tentacle...

ตอนที่ 1 เจ้าหญิงโลกเวทมนต์....

นี่ชั้นตายแล้วใช่มัย...เสียงของชายหนุ่มที่เอ่ยร่ำร้องในความมืดมิด...ก่อนที่จะมีเสียงของหญิงสาวนั้นเอ่ยดังขึ้น...
 “นายยังไม่ตายหรอก ตาบ้า...เสียงของหล่อนที่ดังกังวานนั้น ก็ทำให้ชายหนุ่มที่รู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยอยู่ในความมืดเริ่มได้สติและลืมตาตื่นขึ้น...

เธอ....เอมิเรีย..ชายหนุ่มที่ลืมตานั้นก็เอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของเขา ที่ยืนอยู่ในห้องที่มืดแห่งนี้ เธอเป็นสาวผิวขาวเนียนดุจหิมะ ผมสีทอง ใบหน้าที่ดูสวยอ่อนหวานอย่างตุ๊กตา แต่แฝงด้วยความเย่อหยิ่งตามแบบฉบับคุณหนูมีเงิน...ในเวลานี้เธอชุดนอนขาวบางจนแทบเห็นเนื้อใน...

นายนะยังไม่ตายหรอกนะ...ชาร์ล..เธอเอ่ยย้ำอีกครั้ง ขณะที่ตัวของชายหนุ่มก็ยังมีท่าทีมึนๆงงๆ..

ไม่ตาย? งั้นเธอช่วยชั้นไว้สินะ..เขาเอ่ยตอบและเอ่ยถามกลับ...ก่อนจะต้องชะงัก ด้วยสีหน้าที่ดูแปลกใจ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเค้าเมื่อครู่นี้ ซึ่งมันไม่น่าที่จะทำให้ เค้าพื้นมาพูดคุยกับเธอในลักษณะนี้ได้เลย....

ใช่ เค้าไม่น่าจะลุกขึ้นมาพูดคุยกับหล่อนในลักษณะนี้ได้เลยด้วยซ้ำ...

ส่วนมันเกิดอะไรขึ้นนั้น เราขอย้อนเวลากลับไป ยังเมื่อเช้านี่....

เฮ้ยยย...ชา..กูอยู่นี่...เสียงทักทายของเพื่อนสนิทที่เอ่ยทักเขา ทันทีที่เขาเดินเข้ามายังตึกของคณะ...ซึ่งชายหนุ่มหน้าเข้มที่ดูเหมือนเด็กเกเร นั้นก็คือพระเอกของเรื่องนี้ ชื่อ ชาคริต อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ...

ถึงแม้หน้าตาของเขาจะดูเข้มดุ จนคล้ายเหมือนเด็กเกเร แต่นิสัยของเขานั้นก็หาได้ เป็นดั่งหน้าตาไม่ ใช่ นิสัยใจคอเขา นั้นก็แทบไม่ได้ต่างจากเด็กหนุ่มทั่วไป เพียงแต่ เขาออกจะมีปัญหาเรื่องการทะเลาะวิวาท มากหน่อยเท่านั้น ซึ่งสาเหตุก็มาจากหน้าตาของเขาเนี่ยแหละ (ประมาณหน้าตากวนทีน ไม่ได้ตั้งใจนะครับ..)

และแน่นอนว่า การมีเรื่องมีราว ในบางครั้งจึงทำให้พ่อพระเอกของเราคนนี้...ไร้แฟน...จนถึงทุกวันนี้..

อืมมม ว่าแต่มึงคงไม่ลืมใช่มัย ไอ้ชัย..ชายหนุ่มที่เข้ามาก็เอ่ยปากถามแก่เพื่อนเลิฟที่เอ่ยเรียกเค้า ซึ่งอีกฝ่ายยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบ..

ไม่ลืมเว้ย เอ้านี่ ซาร่า เกรย์ ตอนใหม่..ชายหนุ่มที่เป็นเหมือนเพื่อนซี้ คู่หูนั้นก็เอ่ยพร้อมพร้อมกับยื่น DVD ให้กับเค้า..
อย่างที่ผู้แต่งบอกใช่มัยละ ว่า พ่อพระเอกเราไม่ได้แตกต่างจาก เด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปหรอก..ว่า แต่เอา ซาร่า เกรย์ มาให้ผู้แต่งดูมังสิเฟ้ย...

โอะ...โอ๋ วันนี้คุณหนู เอมิเรียมาแต่เช้าเหมือนเดิมเลยแฮะ...ชัย เอ่ยขึ้น เมื่อสังเกต เห็นดาวเด่น ประจำคณะที่กำลังเดินเข้ามายังที่ตึก ที่พวกเขานั่งอยู่นั้น...ถ้อยคำดั่งกล่าวก็ทำให้ ชาคริต หันไปมองตาม...

อืมมม...และก็ยังมาพร้อมกับเหล่าบริวารเหมือนเดิม...ชาคริตเอ่ยเสริม ซึ่งเขาก็จ้องมอง หญิงสาว ที่เดินมาพร้อมกับชายหนุ่ม 5-6 คนที่เดินตามเธอประมาณ ล้อมหน้าล้อมหลัง ตามประสา สาวสวย มีฐานะ เสน่ห์แรง...

ฮะๆ...พูดแรงได้ดีนี่ ชา บริวารเหรอ แต่แกก็พูดเหมือนกับตัวเองไม่ได้เป็น 1 ในบริวารของหล่อนแนะ..ชัย เพื่อนสนิทของเขาก็หัวเราะและเอ่ยตอบอย่างกึ่งๆแซวชายหนุ่ม...

กู...ไม่ได้เป็นบริวารของแม่นี่..

ไม่ได้เป็น? แต่เห็นยัยนั้นสั่งอะไรแกก็ทำตามทุกทีเลยนี่หว่า...คำกล่าวที่สวนตอบของเพื่อนสนิทนั้น ก็ทำให้เขาเอ่ยตอบกลับไม่ถูก เนื่องจากมันเป็นเรื่องจริง และเค้าเองก็ไม่รู้ว่า เพราะอะไรเหมือนกัน...ที่ต้องทำตามที่หล่อนสั่ง....

แต่จะว่าไป แกกับเอมิเรียนี่..ไม่ใช่แฟนกันจริงๆเหรอวะ..คำถามที่อยู่ๆของเพื่อนสนิทที่เอ่ยขึ้นนั้นก็แทบให้ชายหนุ่มกระอัก...และเอ่ยถามกลับ

นี่แก ถามบ้า อะไรของแกนะ....ไอ้ชัย...

ก็คนมันสงสัยนี่หว่า...ถึงแม้แกจะบอกว่า มีสถานะเป็นเบ๊ของแม่นั้น แต่แกดันเป็นเพียงคนเดียวที่แม่นี่ คุยอย่างเป็นกันเองมากที่สุดในคราส...แล้วแบบนี้จะไม่ให้ตูสงสัยได้ไง...

อย่าว่าแต่แกสงสัยเลย...ชั้นเองก็สงสัยตัวชั้นเองเหมือนกัน..ชาคริตที่เอ่ยตอบอย่างพึมพำเบาๆจนอีกฝ่ายนั้นไม่ได้ยิน จนต้องเอ่ยปากถาม..

แกว่าอะไรนะ ชา..

ปะ ..เปล่า แต่ถ้าโลกนี้ เหลือแม่นี่คนเดียวละก็...ตูยอมเป็นโสดซะยังดีกว่า..ชาคริตเอ่ย ซึ่งความอยากรู้ของเพื่อนสนิทเขานั้นก็ทำให้ตัวของเขา เซ็งนิดๆ ไม่ใช่เซ็งกับคำถาม แต่เซ็งกับตัวเองมากกว่า... ก่อนที่เขากับเพื่อนต่างชะงัก เมื่อคนที่พวกเขานินทานั้นต่างเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบแถมยังตอกคำกล่าวตอบของ พ่อพระเอกเราอีกต่างหาก...

อืมมม ช่างเป็นคำกล่าวที่อวดดีจังเลยนะ ชั้นต่างหากที่จะต้องเป็นฝ่ายคำมากกว่า...และสมมติว่า ถ้าเลือกจะเอาคนอย่างนายมาเป็นแฟนจริงๆละก็ ชั้นยอมเลือกสุนัขขี้เรื้อนหลังมหาลัยมาเป็นแฟนยังดีซะกว่าเลย.. เสียงของเอมิเรียที่เอ่ยขึ้น ด้วยท่าทีกอดอก และจ้องมองอย่างสาวสูงศักดิ์ที่กำลังมอง ทาสชั้นต่ำก็ไม่ป่านนั้น...

คำกล่าวและการมาของเธอก็ทำให้ พ่อ 2 หนุ่มของเราต่างเหงื่อตก และต่างคิดในใจพร้อมกันว่า มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย

ว่าแต่ มีอะไร...ชาคริตจ้องมองและเอ่ยถาม อย่างไม่สนใจคำกล่าวตอบของหล่อน ซึ่งคำถามของเขาก็ทำให้ เธอมองไม่พอใจ...

ไม่ได้มา เพราะคิดถึงนายก็แล้วกัน เอ้า...เธอตอบ ก่อนจะโยนแบงค์ร้อยลงบนโต๊ะ...และเอ่ยสั่งต่อ

ชั้นคอแห้ง ช่วยไปซื้อน้ำส้มร้านคุณป้า ให้หน่อย...ส่วนเงินทอน ชั้นยกให้..คำสั่งของเธอที่ทำให้ชายหนุ่มผู้มีหน้าตาเหมือนเด็กเกเรนั้นจ้องมอง อยู่ครู่ก่อนจะตอบรับ...

เข้าใจแล้ว น้ำส้ม ร้านประจำนั้นสินะ..เขาตอบ

ใช่ เอาเย็นๆนะ ไม่เย็น ชั้นไม่กินเข้าใจมัย ชาร์ล..เธอย้ำ ขณะที่ชายหนุ่มก็พยักหน้า และเดินไปทำตามที่เธอสั่ง โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไม ตัวเองถึงได้ยอมหล่อน...ทำตามที่หล่อนสั่ง จนมีสภาพเหมือนเป็นเบ๊ เธอกลายๆ ทั้งๆที่ถ้าว่ากันตามตรงแล้ว เค้าก็ไม่ได้สนิทอะไรกับเธอเลย แต่อย่างที่บอกอะไรก็ไม่ทราบ...

เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ...ใช่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันแล้ว...และเขายังจำได้อย่างแม่นยำ ถึงการเจอกันและคำทักทายที่แสนอวดดีของเธอ!!...

นายนะ...นายตรงนั้นนะ...คำกล่าวทักของหญิงสาวที่เอ่ยกับ ชายหนุ่มที่เพิ่งมีเรื่องเสร็จหมาดๆ ถึงแม้ชาคริตจะไม่ใช่เด็กเกเร แต่ หลายๆครั้ง ที่หน้าตา และเรื่องชกต่อยนั้นเหมือนจะวิ่งมาหาเขาเอง โดยไม่ได้ตั้งใจ... (แต่บางครั้ง หน้าตาของเขาก็สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้หลายอย่างเหมือนกัน...)

คำกล่าวของหญิงสาวที่ทำให้ชายหนุ่ม ที่มีสภาพสะบักสะบอมนั้น เอ่ยร้องและแหงกหน้ามองหญิงสาวที่เอ่ยทัก..

หือ...เค้าเอ่ย ก่อนที่สาวสวยที่เอ่ยทักเค้าจะเอ่ยกล่าวต่อว่า ด้วยท่าทีที่ยืนกอดอกนั้น

ชั้นหิว...ช่วยไปหาอะไรมาให้ชั้นกินหน่อยสิ..คำกล่าวต่อมาที่เป็นคำสั่ง ก็ทำให้เค้าอึ้งไม่น้อย ก็เพราะเขาไม่รู้จักเธอแม้แต่น้อย...ใช่ไม่รู้จักเลยสักนิด...

เออ...เรารู้จักกันด้วยเหรอ? คุณถึงมาใช้กระผมเนี่ย..ชายหนุ่มเอ่ยถามกลับ อย่างหรี่ตาจ้องมองหญิงสาวที่เอ่ยสั่งเค้า ซึ่งคำกล่าวตอบของเขา ก็ทำให้เธอตีหน้ายุ่งเล็กน้อย...

“.....
ไม่รู้จัก แล้วใช้ไม่ได้รึไง...ชั้นต้องการอาหาร ไปหามาให้ชั้นทานเดี๋ยวนี้!!..เธอเอ่ยตอบกลับเชิง สั่งถ้อยคำที่เหมือนเป็นคุณหนูผู้ดีที่เอา แต่ใจก็ไม่ป่าน...ซึ่งที่น่าตกใจไม่ใช่ถ้อยคำสั่งที่เอาแต่ใจของเธอหรอก...

แต่เป็นตัวของชายหนุ่มเองต่างหาก..

เข้าใจละ หิวใช่มัย รอตรงนี้เดี๋ยวนะ..เค้าตอบ ซึ่งตอนนั้นแม้แต่ตัวของเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดอะไรถึงได้ช่วยเธอคนนั้นที่เค้าไม่รู้จักเธอเลยสักนิด และแน่นอนว่า เธอก็ไม่รู้จักเค้าเช่นกัน....

นายนี่เป็นคนใจดี...ผิดกับหน้าตาเลยนะ..หล่อนเอ่ยขึ้น หลังจากที่เค้าหาของกินมาให้เธอ...

หือ ว่าไงนะ..ชายหนุ่มเอ่ยร้องถาม กับถ้อยคำเมื่อครู่ ที่เบาบางจนแทบไม่ได้ยินนั้น...

ไม่มีอะไร.... แต่ไม่ต้องห่วงนะ การช่วยเหลือของนาย สักวันชั้นจะตอบแทนนายแน่..เธอเอ่ย ด้วยท่าทีที่เย่อหยิ่ง แน่นอนว่าเขาไม่ได้ใส่ใจในถ้อยคำนั้นเท่าไร และก็ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีกครั้ง...แต่เค้าก็หารู้ไม่ว่า 6 เดือนต่อ เค้าก็ได้เจอเธออีกครั้ง ในฐานะเพื่อนร่วมคณะของเขา...แถมการเจออีกครั้งนั้น ก็ทำให้เขาได้ ชื่อเล่นใหม่จากเธอ ว่า ชาร์ล’ (ที่ตั้งชื่อใหม่ให้เค้า นั้นเธออ้างว่า คำว่า ชามันออกเสียงยากนั้นเอง)

ขณะที่เธอก็บังคับให้เค้าเรียกเธอว่า เอมิลี่ซึ่งคนในมหาลัยไม่เคยมีใครได้เรียกชื่อเล่นนี้ของเธอเลย ถ้าเธอไม่อนุญาต และเท่าที่รู้ มีแต่พระเอกของเราเท่านั้นที่ได้สิทธิ์นั้น...

และนี่ก็ เกือบ 2 ปีแล้ว กับสัมพันธ์อย่างแปลกประหลาดของเขากับเธอ...ที่ไม่ใช่แบบเพื่อน แต่ออกไปในทาง คุณหนูกับ ทาสรับใช้ ซะมากกว่า....แค่ถึงความสัมพันธ์จะเป็นเช่นนั้น แต่ถ้อยคำที่เค้าใช้สื่อสารกับเธอก็หาใช้เป็นคำสุภาพเชกเช่น เจ้านายกับทาสใช้กัน หากแต่เป็นถ้อยคำเป็นกันเอง ซึ่งต่างจากคนอื่นที่มักจะพุดคุยกับเธออย่างสุภาพ อาจจะพุดได้ว่าเค้าเป็นคนเดียวที่เอ่ยอย่างเป็นกันเองกับหล่อนได้..

โชคดีที่ ยังเหลือ ถ้าหมดละก็ มีหวังโดนยัยเอมิลี่ ด่าเปิงแหงๆ...ชาคริตเอ่ยบ่นๆ พร้อมกับกำลังเดินกลับไปหาหญิงสาวผู้สั่งเค้า และนั้นก็ทำให้เขาเห็น เธอกำลังคุยกับนิสิตหนุ่มคนหนึ่ง...ก่อนที่นิสิตหนุ่มคนนั้นจะเดินออกไปด้วยท่าทีที่เสียใจ

และแน่นอนว่า ท่าทีนั้นก็ไม่ต้องสืบก็น่าจะฟันธงได้ว่า เอมิเรียได้หักอกหนุ่มๆอีกแล้วแน่ๆ....

เธอไปทำอะไรหมอนั้นนะ..ชาคริตที่เดินไปถึงนั้นก็เอ่ยถามเธอ..พร้อมกับยื่นน้ำส้มให้....

หือ...อ้อ...หมอนั้นมาบอกว่าชอบชั้นนะ ชั้นก็แค่บอกปัดไปนะ...เธอเอ่ยตอบด้วยท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังดูดน้ำส้มที่เขาซื้อมาให้อย่างสบายใจเฉิบซะอีก....ซึ่งก็ไม่แปลกที่เธอจะไม่รู้สึกอะไร เนื่องจากนี่ไม่ใช่ครั้งแรก...

ถ้านับจำนวนเฉพาะภาคเรียนนี้ ก็...20 คนแล้วมัง ที่โดนเธอปฏิเสธรักไป แต่ถ้านับตั้งแต่ตอนเรียนปี 1 ด้วยละก็ น่าจะ 50 ขึ้นไปแล้ว....

แน่ใจว่าแค่ บอกปัด ๆไม่ใช่ ด่าเปิงนะ? ” คำกล่าวถามของชายหนุ่ม นั้นก็ทำให้หญิงสาวที่ดื่มน้ำส้มนั้นชะงักเล็กน้อย ก่อนเธอจะเหลือบมองเขาอย่างยิ้มๆ...

แล้วนายคิดว่าเป็นอย่างไหนละ?” เธอถามอย่างยิ้มๆเหมือนจะอารมณ์ดีกับการรู้ทันของเขา พร้อมกับค่อยหันกลับไปดูดน้ำส้มต่อ แน่นอนว่าคำตอบนั้น ก็ทำให้ชายหนุ่มที่จ้องมองอยู่นั้น ก็คิดในใจ ทันใดว่า น่าจะเป็นอย่างหลังแหงๆๆ..

เพราะส่วนใหญ่ หนุ่มๆที่มักเข้ามาเสนอตัว หรือ จีบ/บอกชอบ เอมิเรีย หรือ เอมิลี่ นั้น ก็มักจบด้วยการถูกหล่อนด่าเปิง ด่าชนิดเสียหมา...หากยิ่งเป็นหนุ่มที่หน้าตาไม่ดี จะยิ่งโดนหนัก ประมาณว่า ไม่เจียมกระหลาหัวเลยก็ว่าได้...

การปฏิเสธอย่างรุนแรงด้วยท่าทีที่หยิ่งยะโส ราวกับ คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงนั้น ก็มักจะทำให้เค้าอดเป็นห่วงไม่ได้ ที่จะกลัวว่า หล่อนจะถูกชายหนุ่มที่เธอได้ทำการปฏิเสธ (ชนิดเสียหมานั้น) มาล้างแค้นรึเปล่า...ไม่ใช่ว่าจะไม่มี อย่างน้อยๆที่เขารู้ก็มีอยู่รายหนึ่ง...ที่เขาเคยได้ยินจากปากของชายคนนั้นโดยบังเอิญ ว่า จะแก้แค้น ล้างอาย โดนการล่อลวง พาเอมิเรีย ไปรุมโทรมให้ยับ...

เชื่อมัย ว่า หลังจากที่ชาคริตซึ่งได้ยินแผนการร้ายนั้น ก็ไปเตือนเธอ แต่เธอก็กลับตอบมาว่า..

น่าสนุกดีนี่..ในเมื่อเจ้าพวกมดปลวกนั้น คิดจะทำเช่นนั้น..ชั้นก็จะแกล้งเดินตามเกมของมันหน่อยก็ได้..เธอตอบอย่างหน้าตาเหมือนเป็นเรื่องสนุกสนาน....จนทำให้เค้าเป็นห่วงไม่น้อย...

ไม่ต้องห่วงหรอกชาร์ล...ชั้นนะ ไม่เป็นไร..เธอเอ่ยบอกกับเค้าเหมือนจะรู้ว่าเขาคิดไง...แต่ถึงงั้นเขาก็ยังเอ่ยห้ามเธออยู่ดี แต่สุดท้าย เธอก็ยังคงไปกับชายคนดั่งกล่าวที่คิดชั่วกับเธอจนได้...

แต่ที่น่าประหลาดก็คือ ชายคนดั่งกล่าวก็ได้หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยในวันรุ่งขึ้นทันที...และไม่เพียงชายคนนั้น หากแต่ชายอีกหลายคน ที่มีท่าทีตื้อเอมิเรีย หรือ มีนัยยะที่หมายจะฟันเธอ ทุกคน ถ้าไม่หายสาบสูญ ก็เข้า ร.. ด้วยอาการโคม่าอย่างสาหัสอย่างมิทราบเหตุผล แบบเบาสุดก็เจ็บตัว แต่อาการหนักจนไม่กล้ามาตื้อเธออีก...

เรื่องประหลาดเหล่านี้ก็ใช่ว่าเค้าไม่เคยถาม....ถามแต่คำตอบที่ได้รับคือ..

นายจะใส่ใจไปทำไม กับพวกสวะสังคมแบบนั้นนะ หายไปแบบนั้น มันมี แต่ทำให้แผ่นดินสูงขึ้น...เธอตอบ ซึ่งนั้นก็ทำให้เค้าแย้งไม่ออก เพราะ คนที่หายสาบสูญ ส่วนใหญ่ เป็นจำพวก เสือผู้หญิง หรือ นักฟันหญิงตัวยง...ทั้งสิ้น...

แต่เชื่อมัยถึงแม้จะมีเรื่องประหลาดนี้เกิดขึ้น...ก็มิได้ทำให้ เอมิเรีย ไร้หนุ่มๆแต่อย่างไร ยังคงมีหนุ่มๆตามจีบและมีนักจีบหญิง/นักฟันสาว ต่างพากันมาลองของไม่ขาดสาย...จนดูเหมือนจะมีการตั้งค่าเชือดเอมิเรียกันด้วย ว่าใครสามารถเชือดเธอได้จะได้รับเงิน XX,XXX บาท เลยละ...

จริงสิ....เอมิลี่ เงินทอน...ชาคริตเอ่ยขึ้น หลังจากยืนจ้องมองดูหญิงสาวที่ดูดน้ำส้มอยู่ครู่หนึ่งนั้น...ซึ่งเขาก็เอ่ยพร้อมกับยื่นเงินทอนค่าน้ำส้มคืน ถึงแม้เธอจะบอกว่า เงินทอนนั้นยกให้ก็ตาม...

ถ้อยคำการกระทำของเขา ก็ทำให้เธอหันมามอง..ก่อนจะตอบ...

นายเอาไปเถอะ...ถือว่าเป็นรางวัล และอีกอย่าง...นายเองก็ลำบากอยู่ไม่ใช่เหรอ?..” เธอตอบอย่างเรียบๆ ซึ่งนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มเอ่ยไปไม่ถูก เพราะมันจริงอย่างที่เธอว่า ว่าฐานะของเขาในเวลานี้แย่พอควร....เนื่องจากน้องสาวคนเดียวของเขานั้นเพิ่ง ป่วยหนักจนทำให้ชาคริตต้องตระเวนหางานพิเศษเพื่อใช้ในการรักษาน้องของเขา....

ถ้าไม่ไหว ก็บอกได้นะ...เธอเอ่ยต่อ...

อะ..อืมมม...เขาตอบรับ โดยที่เค้าก็ไม่เคยถาม ให้คลายสงสัยว่าทำไม หลายๆครั้งเธอรู้สิ่งที่เค้าคิด หรือ สภาพการณ์ของเขาทั้งๆที่เขาก็ไม่ เคยเอ่ยเล่าให้ใครฟังแท้ๆ (อย่างเช่น เรื่องน้องสาวเพิ่งป่วย..)

ว่าแต่ นายไม่โกรธนะ เรื่องเมื่อกี้นี้นะ..เอมิเรียที่อยู่ๆเอ่ยถามขึ้น..ซึ่งทำให้อีกฝ่ายนั้นมีท่าที งง....

เรื่องเมื่อกี้? เรื่องไหน?..” เค้าเอ่ยถามกลับอย่าง งง...

ก็เรื่องที่ตอกนายกลับ ต่อ หน้าเพื่อนนายไง....เธอตอบ และนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มทำตาปริบๆ เหมือนยังไม่เข้าใจอยู่ดี

เออ...เรื่องนั้นช่างมันเถอะ..เอมิลี่..อ้อ ใช่ วันนี้ชั้นไม่เข้าชมรมนะ..เขาเอ่ยตอบและบอกแก่เธอ ซึ่งเธอก็ยิ้มและเอ่ยตอบเขาเช่นกัน...

อื้ออออ..ชั้นเองก็ไม่เข้าเหมือนกัน...เธอตอบ นอกจากทั้ง 2 จะยังเรียนคณะเดียวกันแล้ว ยังอยู่ชมรมเดียวกันอีกด้วย ซึ่งคำตอบของหล่อนก็ทำให้ชายหนุ่มพยักหน้า และไม่เอ่ยถามเธอ ที่ไม่เข้าเพราะเหตุใด?....ส่วนเขาที่ไม่เข้า นั้น เนื่องจากวันนี้ มีงานในช่วงเย็น ซึ่งถ้าหากเข้าชมรมละก็ คงไม่มีทางไปทันแหงๆ...

ถึงจะบอกว่า มีงานตอนเย็น แต่ทุกเย็น เขาก็มักจะแวะเดินผ่านที่แห่งหนึ่งก่อนเสมอๆ...

และสถานที่ ที่ว่านั้น คือสวนสาธารณะที่ติดริมถนนแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั้นก็มีเจ้าลูกหมาจรจัดที่เค้าเลี้ยงดู...ซึ่งพ่อพระเอกของเราก็มักเอาอาหารไปให้มัน ในตอนเช้าและตอนเย็นเสมอๆ....และการเข้าไปแวะให้อาหารในเย็นวันนี้ คือจุดเริ่มต้นทั้งหมด

กินให้มากๆนะเจ้าปี้ยก..ชาคริตที่เอ่ยอย่างก้มนั่งมองเจ้าหมาน้อยที่กำลังก้มหน้าทานอาหารที่เขานำมาให้ และขณะที่เขากำลังมองดูมันอยู่นั้น ก็มีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น...เมื่อรถสิบล้อนั้นได้พุ่งตรงมาหาเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุ...

มันเป็นช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งสิ่งที่เค้าพอทำได้ คือการคว้าร่างของเจ้าเปี้ยกและโยนมันออกไปให้พ้นทาง ส่วนตัวของเขาก็ปะทะกับรถสิบล้อ และถูกมันทับจนบดร่างของเค้าจนแหลกเหลว!!...

กลับมายังสถานการณ์ปัจจุบัน...

ถ้าจะจำได้แล้วสินะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองนะ..หญิงสาวเอ่ย ซึ่งถ้อยคำของเธอนั้นก็ไม่เหมือนเข้าหูของผมเลย เพราะในตอนนั้นชายหนุ่มก็เริ่มตกใจ เมื่อเห็นแขนของตนเองมีลักษณะต่างออกไปจากเดิม..ลักษณะที่ไม่ใช่แขนของมนุษย์!!

นายอาจจะตกใจ กับสภาพของนายในตอนนี้...แต่ชั้นก็ช่วยนายอย่างสุดความสามารถแล้วนะ..เอมิเรียเอ่ย หลังจากเธอเดินไปหยิบกระจก...และทันทีที่เธอเอากระจกนั้นมาส่องให้กับเค้า...ก็ทำให้ ชาคริต หรือ ชาร์ล ก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีก... เมื่อภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกนั้น คือสิ่งมีชีวิตประหลาด ที่มีดูเหมือนคล้าย แมงกะพรุนและปลาหมึก เนื่องจากมีลักษณะทรงกลม มีผิวใสๆ มีดวงตา 1 ดวง และมีหนวดอย่างมากมาย...

กะ โกหก..โกหกใช่มัย..ชายหนุ่มเอ่ยด้วยท่าทีที่ตกใจและไม่อยากเชื่อ ทันทีที่เห็นเงาสะท้อนที่กระจกนั้น...

ใจเย็นๆ...ตาบ้า..และนี่ไม่ใช่เรื่องโกหก นี่คือสภาพของนายในตอนนี้จริงๆ..เอมิเรียเอ่ยตอบ..อย่างก้มมองเค้า ซึ่งนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มเพิ่งรู้สึกว่า ร่างใหม่ของตัวเองนั้นเตี้ยเล็กขนาดไหน?....

มะ ไม่ให้ตกใจงั้นเหรอ?...มีใครบ้างละที่จะไม่ตกใจนะ..บอกมาสิ เธอทำอะไรกับชั้น เอมิลี่..ชายหนุ่มเอ่ยตอบและถามกลับในน้ำเสียงอย่างตะคอก ซึ่ง สาวผมทองหน้าหวานก็มอง ก่อนถอนลมหายใจ ซึ่งเธอก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเขา ใช่ เพราะถ้าเธอมีสภาพแบบนั้น ก็ขอตายซะดีกว่า...

ก็....ช่วยชีวิตนายไง แต่ชั้นทำได้ดีที่สุดแค่นี้..นายจึงต้องมีสภาพแบบนี้ไปก่อนไง..เธอตอบอย่างเสียงอ่อยๆ คล้ายเป้นความผิดของเธอก็ไม่ป่าน...

งั้นนี่ ชั้นกลายเป็นตัวอะไร? เอมิลี่..เขาเอ่ยปากถามต่อ..เนื่องจากสภาพของเขาใน เวลานี้ ได้กลายเป็นตัวประหลาดที่มิใช่สิ่งมีชีวิตในในโลก ใบนี้...คำถามนั้นที่ทำให้หญิงสาวยืนนิ่งครู่หนึ่งก่อนเอ่ยตอบ...

เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ...ในโลกที่ชั้นอยู่นะสิ..คำกล่าวตอบของเธอที่ทำให้ชายหนุ่ม งง. ยิ่งกว่าเดิม...

หมายความว่าไง..โลกที่เธออยู่?..”

ชั้นไม่ใช่คนของโลกนี้....ชั้นก็แค่มาเรียนรู้เรื่องราวของโลกใบนี้ ตัวจริงของชั้น คือ เจ้าหญิงของโลกเวทมนต์ เจ้าหญิง
เอมิเรีย
เดอ วา ลู เชีย...คำตอบของเธอที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปอีกรอบ....

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ23 กรกฎาคม 2558 เวลา 16:11

    เป็นนักเขียนระดับแนวหน้าของยุคนี้เลย....ขอบคุณครับ (แต่อย่าให้แฟนคลับรอนานนัก...มันจะลืมเค้าเรื่องเดิมซะก่อนครับ)

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2558 เวลา 13:53

    เรื่องราวเพลินๆแบบนี้ก็ดีฮ่ะ รออีกแล้นนนน^^

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2558 เวลา 23:30

    ขอบคุณนะครับ แหม เรื่องนี้ต้องเชียร์ให้พระเอกแก้แค้นเยอะๆ เลยนะครับ ^^

    ตอบลบ
  4. ติดตามคร้าา หมวดป็อป หมวดดาว ตอน 3 รออยู่นะคร้าา

    ตอบลบ