เรื่องของเธอกับผม เรื่องที่ 1 อดีต(4)
หลังจากที่นายคันนาวาโร่ ได้เดินออกไป...พวกเราทั้ง 3 ก็ต่างอยู่ในสภาพที่เงียบสงัด
อย่างไม่มีใครพูดอะไร ใช่ อยู่กันอย่างเงียบ พร้อมกับความหวาดกลัวที่ค่อยๆคุกคาม
ภายในใจของพวกเรา ใช่ ความกลัว
ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้..จนกระทั้งความรู้สึกดั่งกล่าวก็ถูกระเบิดออก
และคนที่ปลดปล่อยมันออกมานั้นก็คือ ลิซ่า....
“เป็นเพราะเธอ!!!...เป็นเพราะเธอคนเดียวเคท
ทำให้ชั้นต้องมาพัวพันกับเรื่องบ้าๆนี่ด้วย..”
ลิซ่าที่เอ่ยโพล่งขึ้นอย่างเสียงดังขึ้น...เมื่อไม่อาจจะสงบสติและอารมณ์ของตนเองใน
ขณะนี้ไว้ได้ แน่นอนว่า ถ้อยคำและท่าทีดั่งกล่าว มันก็ทำให้ ชั้น(น้ำฟ้า) และ เคท ต่างหันไปมอง โดยเฉพาะ
เคทที่มีท่าทีเสียใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น...
“ชั้นขอโทษ...” เคทที่เอ่ยกล่าวอย่างสั้นๆ
แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ลิซ่า สาวผมสีน้ำตาลสั้น หยุดการคลุ้มคลั่งแต่อย่างใด..
“ขอโทษแล้วมันทำให้
หลุดออกจากสถานการณ์บ้าๆนี่ได้เหรอ?...”
ลิซ่าที่เอ่ยสวนอย่างท่าทีคุมอารมณ์ไม่อยู่ จนชั้นเองก็อดรนทนไม่ได้...
“พอสักที่เถอะ ลิซ่า
เคทเค้าก็ไม่อยากให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นหรอก
ถ้าเค้ารู้เค้าคงไม่ชวนพวกเรามาหรอก...” น้ำฟ้าที่เอ่ยโพล่งด้วยความรู้สึกเหลืออด
ถึงแม้ชั้นจะเข้าใจความรู้สึกของลิซ่าก็ตาม เพราะชั้นเองก็กลัวเหมือนกัน
และกลัวมากด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ที่
ที่จะไปโทษว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของเคทเลย...
แน่นอนว่าถ้อยคำของชั้นก็ทำให้ลิซ่าถึงกับชะงัก
ซึ่งทีแรกเธอก็เหมือนจะมีท่าทีจะไม่ยอมแพ้ หรือ พูดง่ายๆคือ มีท่าทีจะเอ่ยโต้ตอบ แต่สุดท้ายเธอก็มิได้เอ่ยอะไรอีก
นอกจากบ่นพึมพำๆเบาๆเพียงคนเดียวเท่านั้น...ชั้นก็ได้แต่มองเธอ(ลิซ่า)ด้วยความรู้สึก
หลากหลาย ที่บอกไม่ถูกกับการกระทำดั่งกล่าว...ก่อนจะเหลือบไปมองยัง เคท
ซึ่งเธอก็ยิ้มเชิงขอบคุณชั้น...และเธอก็ไม่เอ่ยอะไร ซึ่งชั้นเองก็เช่นกัน ได้แต่เชื่อว่าความหวังและความช่วยเหลือจะมาถึงในเร็วๆนี้...
ก่อนที่พวกเราจะอยู่
ในสภาพที่ถูกมัดแบบชูมือขึ้นเหนือหัวเช่นนี้
อีกหลายชั่วโมง..จนกระทั้งชายคนนั้นได้กลับมาหา..
“ไงเป็นไงกันมังเอย...” คำทักทายสบายๆของ
นายคันนาวาโร่ ที่เอ่ยขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามายังห้องแห่งนี้
...พร้อมกับลูกน้องอีก 2 คน
โดยที่หมอนั้นก็จ้องมองไปยังที่เคท...ก่อนจะเอ่ยกล่าวกับเธอ...
“จริงสิ...กูมีข่าวดีจะบอกมึง กูติดต่อกับ
ตาแก่แล้ว.. และก็ตรงตามที่คิด สมกับเป็นพวกเทสทารอสซ่า
แทนที่จะถามหรือร้องขอ...กลับมาข่มขู่ตอบกลับมาด้วย ว่า ‘ถ้าแตะต้องหลานกับเพื่อนหลานของชั้น
แกไม่ได้ตายดีแน่..’ และรู้อะไรมัย? คำขู่นี้
มันทำให้กูชักอยากจะทำอะไรพวกมึงมากยิ่งขึ้น..” คันนาวาโร่ที่หันไปเอ่ยกล่าวกับเคท
ซึ่ง ถ้อยคำนั้น มันทำให้คนอื่นที่ได้ยืนอย่างชั้นและ
ลิซ่านั้นต่างยิ่งต้องหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก...
ก่อนที่เคทที่จ้องมองนายคันนาวาโร่นั้นก็เอ่ยโต้ตอบ...
“อย่าว่า
แต่ตาชั้นเลย...ชั้นเองก็จะไม่เอาแกไว้แน่...
ถ้าแกกล้าแตะต้องเพื่อนของชั้นละก็...”
เคทที่เอ่ยกล่าว..แต่นั้นก็หาได้ทำให้นายคันนาวาโร่กลัวแต่อย่างใด
ชายคนนั้นยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะร้องถาม...
“กลัว...กลัว จริงๆ ในสภาพแบบนี้ยัง
พูดจาส่งสายตาได้น่ากลัวจริงๆ แต่ว่า จะมีใครอยากจะเป็นเพื่อนกับมึงอีก
หา...เอ้า..ตอบให้ฟังหน่อยสิ สาวๆ
ว่าพวกเธอยังเป็นเพื่อนกับคุณหนูเทสทารอสซ่านี่อยู่มัย?..”
นายคันนาวาโร่ที่เอ่ยโต้ตอบ ก่อนจะหันมาเอ่ยถามกับชั้นและลิซ่า....ซึ่งก็เป้นลิซ่าที่เอ่ยตอบคำถามดั่งกล่าว...
“ไม่
ชั้นไม่ได้เป็นเพื่อนกับยัยนี่....ชั้นก็แค่มาเที่ยวตามคำชวนเฉยๆ ไม่ได้เป็นเพื่อน
หรือ นึกชอบพอ อะไร ยัยนี่เลย....” ลิซ่าตอบอย่างทันที...ซึ่งมันทำให้เคท
และชั้นหันไปมองยังลิซ่าทันทีเช่นกัน ส่วนนายคันนาวาโร่ นั้นก็มีมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
ราวกับถูกอกถูกใจ ในถ้อยคำนั้นพอควร...
“แล้วแม่หนูสาวเอเชียละ ว่าไง
ใช่..เพื่อนรักของคุณหนูเทสทารอสซ่านี่รึเปล่า?...”
คันนาวาโร่ที่หันมาเอ่ยเชิงถามย้ำกับชั้นอีกครั้ง ซึ่งชั้นก็จ้องมองตอบ
ก่อนจะขยับปากเพื่อเอ่ยตอบ...
“ใช่....ชั้นเป็นเพื่อน
และเธอเป็นเพื่อนคนสำคัญของชั้น..” คำกล่าวตอบของชั้นก็ทำให้ คันนาวาโร่ ตาโต
และมีท่าทีผิดหวัง
“อืมมม...คุณหนูนี่ ก็มีโชคเหมือนกันนะ
ที่มีเพื่อนครบทั้ง 2 แบบ..” นายคันนาวาโร่ที่เอ่ยพึมพำ
“แต่ชั้นไม่ใช่!! ฉะนั้นปล่อยชั้นออกไปสิ ปล่อยชั้น...”
ลิซ่าเอ่ยร้อง...ซึ่งการเอาตัวรอดเห็นแก่ตัวของลิซ่านั้นมันทำให้ชั้นรู้สึกผิดหวัง
ส่วนเคทนั้นก็คงรู้สึกไม่ต่างจากชั้นซะเท่าไร ถึงพอจะรู้ก็เถอะว่า ลิซ่า
เป็นคนที่มีลักษณะนิสัยค่อนข้างเห็นแก่ตัวแบบนี้ ก็เถอะ....และถ้อยคำนั้นก็ทำให้นายคันนาวาโร่หันไปมอง..ก่อนจะตอบรับ
คำกล่าวของเธออย่างง่ายๆ...
“ได้สิ...ก็เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับ
คุณหนูแห่งเทสซารอสซ่านี่...” คันนาวาโร่ที่เอ่ยตอบ พร้อมกับชำเลืองมองยังที่ชั้น
เล็กน้อยเหมือนกับกำลังบอกว่าให้ชั้นเปลี่ยนคำพูด แต่แน่นอนว่าชั้นไม่คิดจะทำเช่นนั้น
ก่อนที่ไม่กี่อึดใจลูกน้องของนายคันนาวาโร่ก็ได้เดินเข้ามาปลดปล่อยพันธนาการที่มัดมือไม้ของลิซ่าเอาไว้นั้นออก....
โดยที่ลิซ่านั้นก็มีท่าทีที่ดีใจสุดๆ
ก่อนที่เธอจะดีใจมากขึ้น เมื่อนายคันนาวาโร่ได้เอ่ยกล่าวกับเธอว่า...
“เอ้า ตามมาสิ จะได้พาออกไป..” คันนาวาโร่เอ่ย
ซึ่งลิซ่า ก็มีท่าทีที่ดีใจมากขึ้นไปอีก...ซึ่งก่อนที่ลิซ่าจะเดินตามไปนั้น
เธอก็หันมามองพวกชั้นเล็กน้อย
และจึงค่อยเดินตามนายคันนาวาโร่ออกไป...แน่นอนว่าไม่เพียงแค่นายคันนาวาโร่ และ
ลิซ่าเท่านั้น แต่ผู้ติดตามของนายคันนาวาโร่ก็ตามออกไปด้วย...
“เคท?...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ชั้นจะอยู่ข้างเธอเองนะ ” ชั้น(น้ำฟ้า)
ที่ ค่อยๆเอ่ยถ้อยคำดั่งกล่าวขึ้น หลังจากที่พวกนาย
คันนาวาโร่ได้ออกไปจนหมดได้สักแป๊บหนึ่งนั้น...ซึ่งถ้อยคำของชั้น ก็ทำให้เคทที่นิ่งเงียบด้วยสีหน้าท่าทีที่ดูผิดหวังและเศร้านั้น ก็มีสีหน้าที่ดีขึ้นเล็กน้อย...
คันนาวาโร่ได้ออกไปจนหมดได้สักแป๊บหนึ่งนั้น...ซึ่งถ้อยคำของชั้น ก็ทำให้เคทที่นิ่งเงียบด้วยสีหน้าท่าทีที่ดูผิดหวังและเศร้านั้น ก็มีสีหน้าที่ดีขึ้นเล็กน้อย...
“ขอบคุณนะ แองเจิ้ล แต่ชั้นไม่ได้คิดอะไรมากกับ
การกระทำของลิซ่าหรอก แต่ชั้นกลับเป็นห่วงเธอมากกว่า...” เคท
สาวผมสีเทายาวที่หันมาเอ่ยตอบกับชั้น
และนั้นก็ทำให้น้ำฟ้าเอ่ยถามต่อด้วยความสงสัย..
“หมายความว่าไงนะ..”
“ชั้นไม่เชื่อว่า คนอย่างนายคันนาวาโร่จะยอมปล่อยใครไปได้ง่ายๆนะสิ...”
คำกล่าวตอบของเคทนั้นก็ทำให้ชั้นเสียววาบทันที...จนชั้นก็เริ้มชักเป็นห่วงตามขึ้นมาในทันที...
“เท่าที่ชั้นเคยได้ยินเกี่ยวกับตัวของหมอนั้น(คันนาวาโร่) มันทำให้ชั้นคิดแบบนั้น...”
ถ้อยคำตอบของเคทก็ทำให้ชั้นถึงกับเสียววาบและนึกเป็นห่วงลิซ่าขึ้นมาอย่างทันที
เพราะถ้าหากเป็นดั่งที่ เคทพูดมาจริงๆ ลิซ่าที่เดินออกไปนั้นจะโดนทำอะไรบ้าง?
“ไม่ต้องกลัวนะ...พวกเราต้องผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้แน่..”
เคทที่มองชั้นพร้อมกับเอ่ยถ้อยคำนี้
ไม่รู้เป็นเพราะสีหน้าการแสดงออกของชั้นรึเปล่า? เพราะชั้นก็เริ่มมีท่าทีหวาดกลัวมากขึ้น ใช่กลัวทั้งตัวเอง
และเป็นห่วงลิซ่า...ก่อนที่อีก 10-20นาทีต่อมา
ชายฉกรรจ์ที่เดินตามนายคันนาวาโร่เมื่อกี้
ก็ได้กลับเข้ามาภายในห้องที่มีชั้นและเคทอยู่...
“กูขอจัดการแม่สาวเอเชียนั้นนะ...” 1 ใน 2
ชายฉกรรจ์ผู้เป็นลูกน้องของคันนาวาโร่นั้นก็เอ่ยขึ้นทันทีที่ เดินเข้ามาในห้องนี้
แน่นอนว่าถ้อยคำดั่งกล่าวก็ทำให้อีกคนถึงกับโอดครวญ...
“สัดดดดด กูว่าจะเลือกมันซะหน่อย...”
“พวกแกจะทำอะไรนะ...”
เคทที่ได้ยินถ้อยคำการพูดคุยของทั้ง 2 นั้นก็ร้องถามขึ้น...
“ไม่ต้องห่วงไม่ทำอะไรหรอก แค่เข้ามาจับมึง 2
ตัวแก้ผ้าตามที่ลูกพี่สั่งเท่านั้น
เพราะยังไงคืนนี้ก็มีอีนังผมสีน้ำตาลให้ความสนุกพวกกูตลอดทั้งคืนอยู่แล้ว?...”
ชายฉกรรจ์ 1 ใน 2 คนนั้นเอ่ยตอบ และนั้นก็ทำให้ชั้นและเคทต่างชะงัก กันอย่างทันที
โดยที่ทั้งชั้นและเคท ต่างคิดเป็นอื่นไม่ได้ ถึง
“อีนังผมสีน้ำตาล” ที่มันเอ่ยถึงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก... ลิซ่า?
“พวกแกทำอะไรกับเพื่อนชั้นนะ!!..” เคทที่ร้องถามอย่างเสียงดังต่อทันที
ซึ่งก็ทำให้ 2 คนนั้นถึงกับหัวเราะและเอ่ยตอบ...
“เพื่อนเหรอ? แต่เท่าที่ได้ยิน
อีนั้นมันพล่ามบอกว่า มันไม่ใช่เพื่อนของมึงนะ? และก็ไม่ต้องห่วง พวกกูไม่ได้ทำอะไรหรอก ก็แค่
จับมันรุมโทรมมันก็เท่านั้น..” ถ้อยคำตอบของ ชาย 1 ใน 2
นั้นก็ทำให้ชั้นที่ได้ยินถึงกับเสียววาบ
พร้อมกับนึกเป็นห่วงลิซ่าทันที...โดยที่ไม่มีใครกล้าถามต่อเลยว่า
พวกมันทำการรุมโทรมเธอ ตั้งแต่พาตัวออกไปรึเปล่า?
แต่ดูท่าน่าจะเป็นเช่นนั้นแน่ๆ...
“โอะๆ อย่าทำหน้าเครียด หน้าดุ
แบบนั้นสิ...อย่างน้อยพวกกูก็ไม่ได้ฆ่าอีนั้นนะ...”
ชายคนเดิมที่เอ่ยต่ออย่างน้ำเสียงทีเล่นทีจริง เมื่อเห็น เคท
แสดงสีหน้าที่จะกินเลือดกินเนื้อพวกเขา....
“เฮ้ย...เลิกคุย แล้วรีบๆจับพวกมันแก้ผ้า
ตามที่ลูกพี่สั่งเถอะ จะได้กลับไป เย็ดอีนั้น...” ชายอีกคน
ที่มาด้วยกันนั้นก็เอ่ยกล่าวขึ้น ซึ่งนั้น
ก็ทำให้ชายอีกคนหันกลับมาพยักหน้าเชิงตอบรับ...ก่อนที่พวกมันทั้ง 2
ต่างขยับเข้ามาทำการแก้ผ้าทั้งชั้น และ เคทออก...
“อะ อย่านะ..ไม่นะ....” ชั้น (น้ำฟ้า) ที่ส่งเสียงร้องขึ้น
เมื่อ 1 ใน 2 คนนั้น ทำการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของชั้นออก
ขณะที่เคทเองก็ถูกกระทำเช่นกัน แต่เธอก็ไม่มีการเอ่ยร้องใดๆ นอกจาก
สีหน้าและแววตาที่แสดงออกมาอย่างน่ากลัวและเคียรแค้น
โดยที่พวกมันทั้ง 2
คนนั้นหาได้ทำการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของพวกเราอย่างธรรมดา..ใช่ ถ้าพูดให้ถูกคือ
พวกมันทำลายเสื้อผ้าของเราเลยต่างหาก ใช้ทั้งมีด ทั้งกรรไกร ทำการ ตัดเสื้อผ้า
ชั้นใน ของชั้นและ เคท ออกจนหมด....ใช่ ออกจนหมด จนไม่เหลืออะไรติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว...
“อี 2
ตัวนี่หุ่นแม่งดีกว่าที่คิดอีกนะ...” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่ยืนอยู่ระหว่างชั้นและเคทนั้นก็เอ่ย
พร้อมกับหันไปมองยังเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของชั้น กับเคท ก่อนที่ชั้น(น้ำฟ้า) จะต้องเอ่ยร้องขึ้นด้วยความตกใจนิดๆ...
“วะ ว้ายยยยยยย...”
น้ำฟ้าที่เอ่ยร้องอย่างเสียงดังขึ้น เมื่อชายฉกรรจ์อีกคนที่ยืนประกบทางด้านหลังของชั้น
ได้ขยับมือเข้าล้วงบีบขยำขยี้เต้านมของชั้นทันทีที่ถ้อยคำเมื่อกี้ของพวกพ้องของมันได้สิ้นสุดลง...และชายฉกรรจ์คนดั่งกล่าวก็เอ่ยกล่าวเสริม...
“ใช่....โดยเฉพาะ แม่หนูเอเชียนี่
ทีแรกไม่นึกว่านมมันจะใหญ่แบบนี้เลยนะ..” ชายคนดั่งกล่าวที่เอ่ยเชิงโต้ตอบพวกพ้องของมัน
พร้อมกับเค้นคลึงเต้านมข้างหนึ่งของชั้นอย่างเมามันส์ไปด้วย...ซึ่งจริงๆแล้วนมของน้ำฟ้า
มันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก เพียงแต่ ชายคนนี้คงคิดว่า นม
ฟ้าคงเล็กกว่านี้ละมัง...ถึงได้พูดแบบนี้..เพราะถ้าใหญ่จริงๆ ต้องของลิซ่าค่ะ...
“อืออออออออ...” ชั้นที่เอ่ยร้องด้วยสีหน้าระเรืออย่างรู้สึกไม่ดี
กับมือหยาบๆที่กำลังขยำขยี้ที่เต้านมของชั้นอยู่นั้น
ซึ่งมันก็ทั้งบีบคลึงและบี้คลึงปทุมถั่นของฟ้าไปด้วย....
“แต่ถ้าให้กูพูด...กูแปลกใจกับ
ทางแม่หนู เทสทารอสซ่า นี่มากกว่า...ไม่คิดเลย ว่า หีมันจะสวยและปิดสนิทแบบนี้..”
ชายฉกรรจ์คนที่ยืนอยู่ระหว่างกลางชั้นและเคทนั้นก็เอ่ยขึ้น และขยับตรงไปหาเคท
ซึ่งตอนที่เค้าเอ่ยนั้น เค้าได้เดินไปถึงตัวของเธอแล้ว และลงนั่ง
จับแข้งขาของเคทให้แยกออกจากกัน...แน่นอนว่ามันทำให้เคทที่หันไปมองชั้นอยู่นั้น
ถึงกับต้องหันกลับมาและก้มมองอย่างทันที...
“เห็นหีสวยๆแบบนี้ แล้ว
ชักอดใจไม่ได้แฮะ ขอเลียหน่อยนะ..” ชายฉกรรจต์คนเดิมที่เอ่ยกล่าวขึ้น
อย่างแหงกหน้ามองหน้าของเคท ซึ่งมันก็ทำให้เธอถึงกับอึ้ง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยตอบใดๆ
ก่อนที่เธอจะมีท่าทีสะดุ้งสะท้านแทบทันที..ที่ใบหน้าของชายคนนั้นขยับเข้าไปประกบซุกยังที่หีของเธอ!!
โดยที่เคทนั้นก็มีท่าทีสะดุ้งสะท้าน
ใบหน้าของเธอที้ขยับสับส่ายไปมา
แต่เธอก็มิได้เอ่ยร้องเปล่งเสียงร้องครางแต่อย่างใด ขณะที่ทางชายฉกรรจ์นั้น
ก็ยังขยับใบหน้าซุกไซที่ของสงวนของเคทอย่างไม่หยุด...ซึ่งชั้นก็หันไปมองดูเคท
ด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่ชั้นจะต้องสะดุ้งสะท้านมัง
เมื่อชายฉกรรจ์คนที่ยืนประกบแผ่นหลังของชั้นนั้นก็ได้ขยับกระทำมากกว่าเดิม
หลังจากที่เอาแต่บีบเคล้าคลึงเต้านมของน้ำฟ้าอยู่นาน 2
นานนั้น...และสิ่งที่ชายคนนั้นทำกับฟ้าคือ การก้มลงไปดูดยังที่ปทุมถั่นของฟ้า...
“มะ ไม่นะ....ไม่....” น้ำฟ้า ชั้นที่เอ่ยร้องอย่างขยับสะดุ้งสะท้านให้กับการกระทำของอีกฝ่าย
ด้วยสีหน้าที่ทั้งเสียวและขยะแขยงในการกระทำนั้นมากๆ
ขณะที่ทางชายฉกรรจ์คนนั้นก็มิได้สนใจเสียงร้องของชั้นแต่อย่างใด ยังคงก้มหน้าก้มตา
ดูดนมของชั้นอย่างเมามันส์และรุนแรงนั้น ต่อ จนกระทั้ง...
“เหี้ยยยยยยย...”
เสียงร้องอย่างต่อว่า ของชายฉกรรจ์คนที่กระทำกับเคทนั้น จนทำให้ทั้งชั้น และ
ชายคนที่กระทำกับชั้นนั้น หันไปมอง และเป็นชายฉกรรจ์ คนที่กระทำชั้น
เป็นคนร้องถาม...
“เกิดอะไรขึ้นวะ..”
“แม่งเยี่ยวใส่หน้ากูนะสิ...”
ชายฉกรรจ์คนที่กระทำเคทนั้นก็หันหน้าชุ่มๆมาเอ่ยตอบ
ด้วยสีหน้าที่เดือดดาลไม่น้อย...ขณะที่ท่าทีของเคท
สาวสวยผมสีเทายาวนั้นก็มองชายคนนั้นอย่างแสยะยิ้มด้วยความสะใจ
ซึ่งมันก็ทำให้ชายฉกรรจ์คนนั้นเดือดมากขึ้น
หมอนั้นที่ลุกขึ้นและขยับอย่างมีท่าทีหมายจะทำร้ายเคท...
“เฮ้ยยย!!...ใจเย็นๆ ไม่มีคำสั่งจากลูกพี่
หากทำร้ายมันละก็ เราอาจจะซวยได้นะ..” ชายฉกรรจ์คนที่กระทำชั้นนั้น ก็เอ่ยร้องห้าม
และนั้นก็ทำให้ชายคนดั่งกล่าวที่ลุกขึ้น ง้ามืออย่างเตรียมตบ
หน้าเคทนั้นก็ชะงัก..เหมือนกับคำกล่าวนั้นได้ผล เพราะชายคนนั้น
หันกลับมาตอบอย่างเห็นด้วย...
“นั้นสินะ..” ชายฉกรรจ์คนนั้นเอ่ย
ก่อนที่ชายคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของชั้น
จะคลายมือจากเต้านมและขยับเดินเข้าไปหาพวกพ้อง...
“ไปล้างหน้าล้างตา...และกลับไปเย็ดอีดอกนั้นกันเถอะ...”
ชายคนที่กระทำกับชั้นนั้น ก็เอ่ยและเดินตรงไปหา ก่อนที่ไม่กี่อึดใจ ชายฉกรรจ์ 2 คนนั้นก็เดินออกไปจากห้องแห่งนี้....
“เคท....ไม่เป็นไรใช่มัย?...”
ชั้นที่หันไปร้องถามกับเคท หลังพวกนั้นออกไปได้ครู่หนึ่งแล้ว
ซึ่งเธอก็หันมาเอ่ยตอบ
“อืออออ ไม่เป็นไร
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ลิซ่า มากกว่า....” เคทที่เอ่ยตอบ
ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วง ซึ่งมันก็ทำให้ชั้นทึ่ง พอควร
ที่เคทยังนึกเป็นห่วง ลิซ่า...ทั้งๆที่ลิซ่า แสดงออก
กระทำแบบนั้นแท้ๆ...และพอได้ยินแบบนั้น มันก็พาลเอาชั้นนึกเป็นห่วงลิซ่า ตามไปด้วย
ใช่เป็นห่วง พร้อมกับ กลัวว่า ตัวเองจะถูกกระทำแบบเดียวกันกับลิซ่า รึเปล่านะ
ก็ได้แต่ภาวนา ขอให้ความช่วยเหลือนั้น
มาถึงก่อน....ที่จะถูกกระทำแบบนั้น หรือ ไม่ก็ ให้มาถึงก่อนที่
ชั้นกับเคทจะตายด้วยอากาศที่หนาวเย็นนี้....ใช่...ในคืนนั้น อากาศ
ก็ได้หนาวเย็นขึ้น
ซึ่งถ้าได้สวมใส่เสื้อผ้าอยู่ก็คงไม่รู้สึกเสียเท่าไรอย่างแน่นอน
แต่เมื่อถูกจับแก้ผ้านั้น ก็รู้สึกถึงความหนาวที่ทรมานนั้นได้...
ถึงแม้จะ เย็น และหนาว…ชั้น แลบะ เคท
ก็ต่างพล็อยหลับกันเป็นระยะๆ...จนกระทั้งตอนเช้าของวันต่อมา...
“อรุณสวัสดิ์
คนสวย...”คันนาวาโร่ที่เข้ามาเอ่ยทักทาย ซึ่งมันก็ทำให้ชั้นรู้ว่า
นี่เข้าสู่วันถัดมาแล้ว โดยที่ทั้งชั้นและเคทต่างมีท่าทีตัวสั่นเทาด้วยความหนาวเย็น
และไม่เพียงแต่ตัวสั่นเทาด้วยความหนาวเท่านั้น หากแต่ยังหิวมากๆอีกด้วย
เพราะจะว่าไปตั้งแต่ ถูกจับตัว ทั้งชั้นและเคท รวมถึงลิซ่า ก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย
อย่างน้อยๆ ก็มื้อเย็น เมื่อวาน...
ก็น่าแปลกใจที่เมื่อวานพวกเราก็ไม่ได้หิวเท่าไร
หรือ เพราะความกลัว ความกังวลกันแน่ จึงทำให้เราไม่รู้สึกหิวกันนะ...
“เพื่อนชั้นเป็นไงบ้าง?...”
เคทที่ร้องถามเรื่องของลิซ่า ด้วยน้ำเสียงที่เบาบาง
แต่สายตายังคงจ้องมองอย่างแสดงความน่ากลัวออกมา แต่นั้นก็หาได้ทำให้ชายกำยำอย่าง
คันนาวาโร่นั้นหวั่นกลัวแต่อย่างใด...
“มึงยังถือว่าอีดอกนั้นยังเป็นเพื่อนอีกเหรอ?..คุณหนูเทสทารอสซ่า
แต่เอาเถอะ ในเมื่อกล้าถาม ก็จะตอบให้
นอนขาถ่างอ้าซ่าหมดสภาพอยู่ที่ข้างนอกนู่นแนะ ไม่ต้องห่วง
หล่อนยังไม่ตายหรอก...”คันนาวาโร่เอ่ยตอบ
พร้อมกับขยับหาที่ลงนั่งอย่างจ้องมองพวกชั้นที่ถูกมัดอยู่นั้น...
และไม่กี่อึดใจ
ลูกน้องคนหนึ่งของมันก็เดินเข้ามา...
“นี่ครับ
ลูกพี่..”ชายฉกรรจ์ที่เป็นลูกน้องที่เพิ่งเข้ามานั้นก็เอ่ยขึ้น
พร้อมกับยื่นถุงให้กับผู้เป็นลูกพี่...ซึ่งนายคันนาวาโร่นั้นก็รับมา
พร้อมกับเปิดและหยิบบางอย่างออกมา ก่อนจะแกะสิ่งนั้นออก ซึ่งมันก็คือ
แฮมเบอร์เกอร์นั้นเอง...
“อืมมมม...จริงสิ หิวมังรึเปล่าละ?
ถ้าจำไม่ผิด มึง 2 คนยังไม่ได้แดกอะไรมา
ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่นะ..”นายคันนาวาโร่เอ่ยอย่างนึกได้
หลังจากกัดแฮมเบอร์เกอร์ไป 1 คำนั้น ก่อนที่มันจะพยักหน้าสั่งให้ลูกน้องของมัน
ทำการปลดโซ่ที่เป็นพันธนาการพวกชั้นอยู่นั้นออก และทันทีที่ลูกน้องของมัน
ปลดพันธนาการดั่งกล่าวนั้นออก ร่างของชั้น และ เคทก็ต่างลงนั่งแหมะที่พื้น
และต่างจับที่ข้อมือของตนเอง...
และวินาทีนั้นเองที่ชั้นเพิ่งเหลือบไปเห็นถึงสภาพข้อมือของเคทที่มีร่องรอยบาดแผลเล็กๆมากมาย
บงบอกว่าเธอพยายามอย่างเต็มที่ แทบตลอดเวลาที่จะหลุดออกจากการถูกพันธนาการนั้น ใช่
ถ้าหากไม่พยายามอย่างหนักคงไม่มีร่องรอยขนาดนั้นแน่ๆ...
“เคท...” น้ำฟ้าที่เอ่ยเรียกอย่างเบาๆ
หลังจากเห็นสภาพข้อมือของเธอ
ซึ่งเคทที่จับข้อมือของตนเองนั้นก็หันมายิ้มเล็กน้อยให้ เหมือนบงบอกเป็นนัยๆว่า ‘ไม่ต้องเป็นห่วง’ ก่อนที่ลูกน้องคนเดิม
คนที่เอาอาหารมาให้คันนาวาโร่นั้นก็เดินเข้ามาพร้อมกับถุงใบเดิม
ก่อนจะยื่นแฮมเบอร์เกอร์ ให้กับชั้นและ เคท คนละห่อ...
“ทานซะ...” ลูกน้องคนดั่งกล่าวเอ่ย
หลังจากยื่นอาหารให้กับพวกเรา และถึงไม่เอ่ยเช่นนั้น ทั้งชั้นและเคทก็หมายจะทานอยู่แล้ว
เพราะต่างหิวมากนั้น เอง แต่เมื่อชั้นและเคท ต่างแกะกระดาษที่ห่อแฮมเบอร์เกอร์ออก
ก็ต้องชะงักและตกใจกันอย่างทันที เมื่อสิ่งที่เยิ้มออกมานั้น แฮมเบอร์เกอร์นั้น
มิใช่ซอสมะเขือเทศ แต่กลับเป็นน้ำควย!!
“นะ นี่มันอะไรกันนะ...” เคทที่เห็นนั้นก็แหงกหน้าขึ้นมาเอ่ยโวยใส่
ขณะที่ชั้นเองที่เห็นเช่นเดียวกันนั้น ก็อึ้งอย่างพูดไม่ออก
ซึ่งทางด้านคันนาวาโร่และพวกนั้นต่างอมยิ้มและขบขันอย่างรอดู
ปฏิกิริยาของพวกชั้นยังไงอย่างงั้นอยู่...
“มันอะไรนะเหรอ?
ถ้าพูดกันตรงๆก็เป็นการกลั่นแกล้งเล็กๆน้อยๆแหละ แต่จะทานรึไม่ก็ได้นะ กูไม่ว่า
และจะไม่ทำอะไรมึงด้วย...” นายคันนาวาโร่เอ่ยตอบ คำตอบที่ทำให้ทั้งเคท
และชั้นต่างจ้องมอง ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน
ซึ่งเคทก็คงรู้สึกค่อนไปทางเจ็บแค้น ขณะที่ชั้น รู้สึกไปทางขยะแขยงเสียมากกว่า...
“คะ เคท!!...” ชั้นที่เอ่ยร้องเรียก
ด้วยความตกใจ..เมื่อเห็นเคท ได้ขยับมือไม้ที่ถือแฮมเบอร์เกอร์นั้น
ขึ้นมากัดทาน...ถึงแม้สีหน้าของเธอจะแสดงถึงความเจ็บช้ำ
และเจ็บแค้นอย่างเริ่มเห็นน้ำตาที่คลอออกมาก็ตามที่...
ใช่
ชั้นที่จ้องมองดูเคทที่กัดทานแฮมเบอร์เกอร์นั้น ซึ่งบางครั้งบางคำตอนที่เธอกัดนั้นไส้ที่เป็นน้ำซอสที่น่าเกลียดนั้นก็ทะลักเยิ้มเปรอะเปื้อนปากสวยๆของเธอไปด้วย
โดยที่ชั้น(น้ำฟ้า) ก็ใช้เวลามองดูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองดูยังแฮมเบอร์
เกอร์ของตนเอง...
ถึงแม้เคทจะไม่พูดอะไร
แต่ก็พอเข้าใจในการกระทำของเธอได้อย่างไม่ยาก...เพราะมันก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว...หากไม่กิน
ก็ไม่มีแรง ทำอะไรทั้งนั้น
โดยเฉพาะเรี่ยวแรงในการต่อสู้กับอากาศที่ค่อนข้างเย็นแบบนี้...เคทก็คงคิดแบบนั้น
ถึงได้ยอมทนทาน ไอ้ของบ้าๆ แบบนี้.....และพอชั้นคิดได้ถึงตรงนี้
ชั้นจึงจำใจต้องทานแฮมเบอร์เกอร์ดั่งกล่าวบ้าง...
มันเป็นการทาน เพื่อ ให้มีชีวิตรอด
มิได้ ทานเพื่อลิ้มรสชาติ เหมือนดั่งปกติทั่วไป ซึ่งมันเป็นอะไรที่แย่มากๆ....
ท่ามกลางสายตาของคันนาวาโร่และพรรคพวกที่จ้องมองดู
ชั้นและเคท ทานของน่าขยะแขยงที่พวกมันเตรียมมานั้นด้วยท่าทีที่สนุกสนานและสะใจ...
“นะ น้ำ ขอน้ำหน่อยสิ..”
น้ำฟ้าที่แหงกหน้าเอ่ยปากร้องขอ น้ำ
เพราะสิ่งที่เธอรับประทานไปนั้นมันค่อนข้างฝืดคออย่างแรง
ยิ่งมีซอสเป็นน้ำเหนียวๆน่าขยะแขยงแบบนั้นด้วยแล้ว...
“อ้อ ลืมไปเลย...”
เสียงของลูกน้องคนหนึ่งของคันนาวาโร่เอ่ย และเดินเข้ามายื่นน้ำขวดให้กับชั้น(น้ำฟ้า) ซึ่งเคทก็หันมาชำเลืองมอง
ด้วยท่าทีต้องการสิ่งนี้เหมือนกัน
และชายคนดั่งกล่าวเองก็เหมือนจะรู้....ชายคนนั้นที่ขยับหันไปทางเคทและร้องถาม...
“อยากได้น้ำบ้างสินะ
ได้สิ...แต่ของมึงพิเศษหน่อย...” ชายฉกรรจ์คนนั้นเอ่ย และทันทีที่เอ่ยเช่นนั้น
พรรคพวกรวมถึงนายคันนาวาโร่เองก็ยิ้มและหัวเราะเบาๆออกมา
เหมือนดั่งมีนัยยะอะไรแอบแฝงอยู่ ซึ่งมันก็จริงตามคาด
เพราะหลังจากที่ชายคนนั้นเอ่ยจบ ชายคนนั้นก็ทำการปลดเปลื้องกางเกงออก
และควักท่อนควยออกมาอย่างทันที...
“เอ้า อ้าปากสิคนสวย
แล้วกูจะมอบน้ำให้มึงทาน...” ถ้อยคำของชายคนนั้นที่เอ่ยขึ้น
หลังจากปลดเปลื้องและควักท่อนควยออกมานั้น และท่าทีดั่งกล่าวก็ทำให้ชั้นและเคท
รู้ทันทีว่า น้ำที่มันจะให้ทาน นั้นคือ น้ำอะไร....
“กะ แก.....” เคทที่เอ่ยสบ
ด้วยน้ำเสียงที่ดูแหบแห้ง และท่าทีก็ดูทรมานไม่น้อย ซึ่งชั้นก็พอเข้าใจ
เพราะการทานแฮมเบอร์เกอร์บ้านี่ ทำให้เราต้องการน้ำอย่างมาก...
“งั้นเอางี้.....” คันนาวาโร่
ที่ดูเหมือนจะรับประทานแฮมเบอร์เกอร์หมดแล้วนั้นก็เอ่ยขึ้น
พร้อมกับลุกขึ้นเดินตรงมาหาชั้น
ก่อนจะแย่งขวดน้ำที่ชั้นได้ทำการเปิดและเพิ่งดื่มไปได้เล็กน้อยจากมือของชั้นอย่างทันที...
“น้ำ สำหรับพวกมึง
มีแค่ขวดเดียวเท่านั้น.. ส่วนอีกคนจะต้องทานเยี่ยวของพวกกูแทนน้ำ
และมึงจะต้องเป็นคนเลือก ว่า ใครจะทานแบบไหน..” คันนาวาโร่ที่เอ่ยกล่าวต่อ กับเคท
ซึ่งนั้นก็ทำให้ชั้นและเคทต่างอึ้ง กับถ้อยคำนี้
ชนิดที่หันหน้ามองกันเลยทีเดียว....
“เอาน้ำคืนให้กับเพื่อนของชั้นไปซะ...ชั้นจะเป็นคนทานเยี่ยวพวกแกเอง..”เคทที่เอ่ยตอบ
อย่างไม่คิดนานนั้น และนั้นก็ทำให้ คันนาวาโร่ยิ้ม
ก่อนจะหันกลับมาและโยนขวดน้ำคืนให้กับชั้น...ส่วนทางด้านเคทนั้น
ก็แสดงสีหน้าที่เจ็บใจมากกว่าเดิม ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ขยับใบหน้าอย่างแหงกเงยขึ้น
และค่อยๆอ้าปากออกทันทีที่ชายฉกรรจ์คนเดิมได้ขยับเข้ามายืนประกบยังตรงหน้าของเธอนั้น...
“อะ อืออออออออ...”
เสียงร้องเบาๆของเคทที่เอ่ยร้องขึ้นทันที
ที่อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยกรอกสายธารสีเหลืองเข้าใส่ปากของเธอ
ซึ่งชั้นก็สังเกตเห็นมือไม้ของเคทนั้นก็ก่ำแน่นขนัดมากๆ ราวกับบงบอก หรือ
แสดงถึงอารมณ์ของเธอในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี...
และเคทก็ไม่ได้ถูกพวกมันเยี่ยวกรอกใส่ปากแค่คนเดียว
เพราะหลังจากที่ทานแฮมเบอร์เกอร์เสร็จนั้น เธอก็ต้องดื่มทานเยี่ยวของพวกมันอีก 2
คน โดย 1 ในนั้นก็มีของนายคันนาวาโร่ด้วย!!
.
.
.
.
ปัจจุบัน...
“ฟ้า?...”
เสียงเรียกของชายหนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างกายของหญิงสาวนั้น
ก็ทำให้เธอที่อยู่ในสภาพเดียวกัน แต่กำลังเหม่ออย่างจ้องมองดูรูปถ่ายนั้น
ก็ได้สติขึ้นมา...
“หือออ
ขอโทษ...นี่ฟ้าเล่าถึงไหนแล้ว?..” เธอหันไปเอ่ยตอบกับเขาอย่างได้สติ ซึ่งนั้นก็ทำให้นายแอ็ค
จ้องมองอย่างเป็นห่วงและเอ่ยถาม...
“ไม่เป็นไรแน่นะ...” เค้าร้องถามด้วยความเป็นห่วง
ซึ่งตัวของหญิงสาวก็ยิ้ม เอ่ยตอบกลับ
“อื้อออออ
ไม่เป็นไร...แอ็คไม่ต้องห่วงหรอก..ฟ้าไม่เป็นไร อีกอย่าง ถ้าฟ้าเล่าไม่หมดละก็
คนแต่งถูกคนอ่านตามล่าถึงบ้านแน่?..แล้วนี่ฟ้าเล่าถึงไหนแล้วละ?..” หญิงสาวตอบ
และเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง
“??? เออ
ถึงตอนที่พวกมันให้ทานของแปลกๆนะ...” ชายหนุ่มที่ งง กับคำกล่าวตอบของเธอนั้น
ก็เอ่ยตอบคำถามของเธออย่างว่าง่าย ก่อนที่เธอจะยิ้มหวานและเอ่ยตอบกับเค้า...
“งั้นตอนหน้า ก็ ‘climax’ แล้วสินะ...” น้ำฟ้า
เอ่ยบอกกับเค้าด้วยรอยยิ้ม...
To....be.........
เร็วๆ สิ ไม่งันล่าถึงบ้านอย่าง ฟ้าบอกแน่ จารย์
ตอบลบนั่นไง!...ว่าแล้ววว!! สาวๆถูกทรมาณ...หรือ คนอ่านถูกทรมาณกันแน่!!!! มาต่อเร็วๆหน่อยครับ!!!
ตอบลบรอๆ อิอิ
ตอบลบอ่ะหืมมมมม ยังสุดยอดเหมือนเดิม ทรมานจิตใจต่าง ๆ นา ๆ บีบบังคับให้อยู่ในสถานการณ์ที่จำยอม แดกเยี่ยว ได้ใจผมสุด ๆ ไปเลย
ตอบลบขอบคุณหนูฟ้า มากครับที่เล่าต่อ ไม่งั้นผมแย่แน่ๆครับ
ตอบลบ