ไวท์เดย์แห่งการแก้แค้น [ภาคจบ]
‘เคยรู้สึกแปลกใจ หรือ ภูมิใจกับตัวเองมัย ที่สามารถก้าวข้ามปัญหาร้ายๆที่เข้ามาในชีวิตได้..’ ซึ่งนั้นก็คือสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ในขณะนี้ โดยที่ตัวของผมนั้นก็ไม่อยากเชื่อเลยว่า ตนเองเป็น 1 ในเหล่าคนที่สามารถก้าวข้ามปัญหาในความผิดหวังด้านความรักนั้นมาได้....
ทั้งๆที่มีคนอีกไม่น้อยที่ไม่สามารถก้าวข้ามปัญหานี้ได้ พร้อมกับเลือกหนทางผิดๆให้กับตนเอง ด้วยการบ้างก็ทำร้ายตนเอง บ้างก็ทำลายอนาคตของตนเอง แน่นอนว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย แต่มันขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งทางด้านจิตใจ ที่ทุกวันนี้ ยังไม่มีมาตรฐาน เรื่องนี้....
ใช่ ทุกวันนี้เราไม่สามารถเอาอะไรมาตัดสินภายนอกได้เลยว่า คนๆนี้ มีจิตใจที่เข้มแข็งรึไม่ บางที คนที่ฉลาดและดูเข้มแข็ง มีพละกำลัง อาจจะมีจิตใจที่อ่อนไหว อ่อนแอ กว่า คนที่มีร่างกายอ่อนแอก็เป็นไปได้...
สำหรับผม ผมไม่อยากชื่นชมว่าตนเองมีจิตใจที่เข้มแข็งหรอก เพราะหากเข้มแข็งจริง คงสามารถทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ปล่อยให้จิตใจแตกสลายอยู่พักใหญ่ๆหรอก...แต่ มีบางคนก็บอกว่า ‘เรื่องเวลามันไม่สำคัญ’ มันสำคัญอยู่ตรงที่ เราสามารถก้าวข้ามมันไปได้รึไม่...ขอเพียงเราก้าวข้ามมันได้ แค่นั้น ก็ถือว่า เรามี ความเข้มแข็งทางด้านจิตใจแล้ว...
เมื่อราวๆ 4-5 เดือนก่อน มี หญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อ ‘เดียร์’ ได้มาสารภาพรักกับผม ที่เป็นคนร่างท้วม หน้าตาก็ไม่ได้หล่ออะไรเลย แต่แน่นอนแหละว่า มันทำให้ผมดีใจพอสมควร ซึ่งผมก็พยายามอย่างเต็มที่ในการทำตัวให้เหมาะสมในการเป็นแฟนของเธอ ราวกับตอบแทนความกล้าของเธอที่มาสารภาพรักกับผม....
แต่สุดท้าย สิ่งที่ผมทำลงไปทั้งหมด มันก็เหมือนเป็นเกมที่อยู่ในฝ่ามือ หรือไม่ ก็อยู่กระดานของ เดียร์....คำหวานที่บอกรักผม นั้นมันไม่มีอยู่จริง มีแต่คำลวงหลอกที่อยากเห็น คนโง่อย่างผมมีท่าทีเช่นไรเท่านั้น แน่นอนว่าวันที่เธอเปิดเผยอีกโฉมหน้าหนึ่งออกมา มันก็ทำให้โลกทั้งใบที่ในเวลานั้น ผมได้หลงรัก ‘เดียร์’ ไปแล้ว ได้พังทลายลง...
ความช้ำใจที่เกิดจากการเล่นสนุกของเธอนั้น ก็ทำให้ผมถึงกับเสียศูนย์ไป หลายอาทิตย์ ก่อนที่จะสามารถกลับมาเป็นตัวของตนเองได้ใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ก็คงต้องยกความดีความชอบ ให้กับพี่สาวคนสวยที่เป็นเหมือนนางฟ้า ที่ผมได้เจอที่โรงหนัง ในวันวาเลนไทน์นั้น...ไม่สิ...ไม่ใช่นางฟ้า ถ้าเปรียบคงต้องบอกว่า เหมือนซินเดอเรลล่ามากกว่า เพราะหลังจากวันนั้นแล้ว ผมก็ไปห้างที่เป็นที่ตั้งของโรงหนังนั้นอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่ยักจะเจอพี่สาว ที่เหมือนซินเดอเรลล่าคนนั้นอีกเลย...
ถ้าเจอ ก็อยากขอบคุณ คงไม่อาจเอื้อม หวังให้พี่สาวใจดีกับลูกหมูคนนี้อีกครั้งหรอก...แต่ถ้าได้อีกสักครั้งก็คงดี...
หลังจากวันนั้น ที่ผมได้นางฟ้าของผมช่วยไว้ ชีวิตที่ปกติเรียบง่าย ก่อนที่จะเรื่องของเดียร์เข้ามาในชีวิตนั้นก็กลับมาอีกครั้ง ใช่มัน เหมือนช่วงเวลาก่อนหน้าที่มีเดียร์จริงๆ ถึงแม้จะเรียบง่าย ไม่มีประสบการณ์อะไรที่น่าตื่นเต้น แต่มัน ก็คงเพียงพอแล้ว สำหรับคนอย่างผม...
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีเรื่องแปลกๆเข้ามาหาผม เมื่อมีชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่คอนโด เดียวกับผมนั้น ซึ่งผมก็รู้จักอย่างผิวเผิน ซึ่งชายคนดั่งกล่าว ก็เอ่ยชวนคุยด้วย ด้วยกันหลายเรื่อง ซึ่งผมเองก็ งงๆ เพราะอยู่ๆเรื่องที่คุยจากทั่วๆไปนั้นกลายเป็นเรื่องของเดียร์ไปได้ยังไงก็ไม่ทราบ...ก่อนที่เค้าจะเอ่ยถาม ด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่ผมไม่รู้คิดไปเองมัย ว่านั้นคือจุดประสงค์หลักของการพูดคุยนั้น...
‘ถ้ามีโอกาส น้องอยากจะแก้แค้นผู้หญิงคนนั้นมัย?’ คำถามของชายคนนั้น ที่เหมือนดั่งเสียงกระซิบของปีศาจร้าย แน่นอนว่า ผมก็เอ่ยตอบคำถามนั้นไปอย่างตรงๆ ชนิดที่ ไม่แอ๊บ ว่าตัวเองเป็นพระเอกจ้า แต่อย่างใด...
“อยากครับ...” คำตอบสั้นๆของผมที่ได้ใจความ และมันเหมือนทำให้ชายคนดั่งกล่าวยิ้ม..พร้อมกับเอ่ยกล่าวตอบบางอย่าง ด้วย ถ้อยประโยคที่ ผมไม่ค่อยอยากเชื่อนัก ใช่ ไม่มีทางที่ผมจะได้โอกาส แก้แค้นเธอหรอก เพราะหลังจากวันนั้น วันที่ผมเจอหน้าเดียร์ครั้งสุดท้าย ผมก็แทบไม่เคยเจอหน้าเธออีกเลย...แล้วมันจะมีโอกาสอะไรให้เอาคืน จะไปหาเธอเองลำพังเพื่อแก้แค้น ก็มีแต่ตัวของผมจะถูกทำร้ายมากกว่า...
ใช่ เพราะเพื่อนเธอ 2 คนก็ใช่เล่นซะทีไหน แถมผมก็ไม่ใช่คนทำร้ายผู้หญิงเป็นทุนเดิมอีกด้วย...แต่ไม่รู้ทำไม ถ้อยคำของชายคนนั้นถึงได้ไม่ยอมจางหายไปจากหัวของผมก็ไม่รู้ แถมมันทำให้ผมรู้สึกว่า ‘มีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น..’
ก่อนที่ผมจะรู้ว่ามันเป็นดั่งที่ผมรู้สึกไว้จริงๆ เมื่อวันนี้ได้มีเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องของผมอย่างดังขึ้น แถมยังเป็นการเคาะอย่างบ้าคลั่งแบบเร่งรีบ ราวกับร้อนใจ ไม่ก็เรื่องฉุกเฉินก็ไม่ป่าน...
แน่นอนว่า มันทำให้ผม งง ไม่ใช่น้อย เนื่องจากมันเป็นเวลาที่ค่อนข้างดึก แถม ผมก็ไม่ได้นัดใครไว้อีกด้วย...และทันทีที่ผมเดินไปยังที่ประตูเพื่อมองว่า ใครเป็นผู้ที่มาหาในเวลายามดึกนั้น ผมก็ต้องแทบชะงักอย่างตกใจ เมื่อคนที่มาหานั้น คือ เดียร์ และที่สำคัญ เธออยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่าอย่างหมดจดอีกด้วย...
“อย่าเพิ่งถามอะไร ขอชั้นเข้าไปก่อนได้มัยพี...ขอร้องละ..” นั้นคือถ้อยคำแรกที่เธอเอ่ยขึ้น หลังจากที่ผมทำการเปิดประตู และแน่นอนว่า ด้วยถ้อยคำนั้นบวกกับสีหน้าที่แสดงถึงความวิงวอนของเธอ ก็ทำให้ผมยอมให้เธอเข้ามาในห้อง...
“เกิดอะไรขึ้น..” ผมที่เอ่ยถามย้ำ หลังพาเธอเข้ามาในห้อง พร้อมกับหาอะไรให้ เดียร์ได้คลุมกาย ซึ่งท่าทีของเดียร์ก็แสดงถึงความหวาดกลัว ราวกับเจออะไรมาบางอย่าง...
และไม่ทันที่เธอจะเอ่ยตอบ เสียงเคาะประตูห้องของผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็เบาและไม่บ้าคลั่งเชกเช่นเหมือนของเดียร์ แต่มันทำให้เธอถึงกับสะดุ้งและเอ่ยกล่าวบอกกับผม...
“พี....ถ้ามีคนถามหาเดียร์ ช่วยบอกว่า เดียร์ไม่อยู่นี่นะ...ขอร้อง..” เธอเอ่ย ซึ่งผมก็จ้องมอง ก่อนพยักหน้าเชิงรับคำและเดินไปยังที่ประตู ซึ่งคนที่มาหาผม คือชายคนที่คุย+ถามแปลกๆกับผม เมื่อหลายวันก่อน...
“ไปทำอะไรกับเค้าไว้...” ผมที่กลับมาถามกับเดียร์ หลังจากเอ่ยตอบคำถาม 2-3 ข้อ กับชายคนดั่งกล่าว จนทำให้เค้าจากไปอย่างโดยดี...คำถามของผมที่ทำให้เดียร์ที่ จ้องมองยังผม ก่อนจะเอ่ยเล่าเรื่องให้ผมฟัง....
“สมควร...” มันเป็นถ้อยคำแรกที่หลุดออกมาจากปากของผม หลังจากฟังเรื่องราวจากปากของเดียร์ ซึ่งสรุปย่อๆ คือ พี่คนที่มาหาผมเมื่อครู่ นั้นได้วางแผนเล่นงาน เดียร์กับเพื่อน เธอ 2 คน ที่เป็นต้นเหตุทำให้ น้องชายของเขาฆ่าตัวตาย ผลจากเกมบ้าๆของพวกเธอทั้ง 3 แน่นอนว่า เดียร์ กับเพื่อนก็ติดกับของชายคนนั้น หากแต่ มีเพียงแค่ เดียร์ ที่หนีรอดออกมาได้ ถึงแม้จะหนี มาในสภาพที่เปลือยเปล่าก็ตาม....
และที่เธอมาหาผม ก็เพราะห้องของผมอยู่ที่เดียวกับชายคนเมื่อกี้นี้นั้นเอง ถึงแม้จะอยู่ต่ำกว่า 3 ชั้นก็ตาม...
“ก็อย่างที่ว่ามานั้นแหละ และถ้ากรุณา ขอเดียร์ ยืมมือถือหน่อยได้มัย?..” เดียร์ที่หน้าเสียจากถ้อยคำที่ผมสบ หลังจากฟังเรื่องราวนั้นก็รวบรวมความกล้าเอ่ยปากขอยืมโทรศัพท์จากผม...
“มือถือ? อ้อ จะโทรไปหาตำรวจ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ เพื่อน 2 คนที่ ติดกับอยู่ ตอนนี้สินะ...” ผมเอ่ยกล่าวอย่างเข้าใจ ถึงจุดประสงค์ในการขอยืมนั้น ซึ่งเธอก็พยักหน้าตอบสั้นๆ
“อืมมมมม..ใช่....” เธอตอบ ก่อนที่ผมจะตอบเธอกลับทันทีว่า...
“เสียใจ แต่ผมไม่มีทางให้หรอก..” คำกล่าวปฏิเสธของผมก็ทำให้ เดียร์ถึงกับชะงัก....
“เพราะถ้าพิจารณาจากสิ่งที่พวกเธอทำกับผม ทำกับคนอื่นแล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องช่วยเหลือเลยนี่...” คำกล่าวต่อมาของผมก็ทำให้เดียร์ถึงกับอึ้ง จนเกือบพูดอะไรไม่ออก...
“อะ อย่าพูดแบบนั้นสิ...ขอร้องละพี ช่วย เพื่อนเดียร์ด้วยเถอะ เพราะถ้าขืนปล่อยไว้ ไม่รู้ว่าจะโดนทำอะไรมัง เผลอๆตอนนี้ก็คงโดนกระทำอย่างป่าเถื่อนอยู่แน่ๆ ขอร้องละ...” เดียร์ที่เอ่ยกล่าวอย่างร้องขอ ด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่น่าสงสาร ซึ่งหากเป็นสาวคนอื่นผมคงไม่ยืนปั้นหน้าแข็งทำเป็นใจร้อยหรอก แต่นี่เป็นเธอ....
ภาพสีหน้าตอนที่เธอกระทำกับผมนั้นมันยังติดตา จนเหตุทำให้ ผมไม่มีทางใจอ่อนให้เธอในเวลานี้ได้...
“พี....” เธอเอ่ยเรียกชื่อผมอย่างยาวๆ จนเหมือนออกเสียงเป็น ‘พลีส’ (ได้โปรด) เลย แต่แน่นอน ก็อย่างที่บอกไป คือ มันไม่ทำให้ใจผมอ่อนลงแม้แต่น้อย ก่อนที่ผมจะเอ่ยตอบเธออย่างไร้เยื่อใย...
“ไม่ก็คือไม่...ถ้าอยากจะช่วยเพื่อนก็ทำเอาเอง ออกไปจากห้องผมแล้วไปแจ้งความเอาเอง แต่ผมก็ไม่รับประกันหรอกนะ ว่าพวกนั้นจะเฝ้ารออยู่ข้างนอกรึเปล่า?...” คำกล่าวของผมที่ทำให้เดียร์จ้องมองผมอย่างผิดหวังกับคำตอบที่ผมเอ่ย แน่นอนว่า สิ่งที่ผมตอบมันก็เป็นทั้งคำขู่ ที่เธอเองก็น่าจะพอคาดการณ์ได้สำหรับสิ่งที่รอเธออยู่ข้างนอกนั้น...
เพราะพอผมเอ่ยถ้อยประโยคนั้นเธอก็จ้องมองผมอย่างคอตก เสมือนกับความหวังสุดท้ายนั้นดับวูบลง...ก่อนที่ผมจะซ้ำขยำขยี้ด้วยถ้อยประโยคถัดมา....
“และอีกอย่าง คนที่แค้นเธอ ก็มิได้มีเพียงแค่ ผู้ชายคนนั้นหรอกนะ...” ผมที่เอ่ยขึ้นต่อ ซึ่งถ้อยประโยคนี้ก็ทำให้เดียร์แหงกหน้าขึ้นมามองอย่างตกใจ....
“พี ที่พูดนั้น หมายความว่าไงนะ...” เธอที่เอ่ยร้องถามอย่างเสียงสั่นเครือ....
“ก็หมายความว่า พี ไม่ได้ช่วย เดียร์ ฟรีๆไง แต่ เดียร์จะต้องเลือก...ระหว่างยอมนอนกับพี หรือ จะออกไปจากห้องของพี และโดนพวกของชายคนนั้นที่อาจจะรออยู่ลากกลับไปรุมโทรม..” คำกล่าวตอบของผมก็ทำให้สีหน้าของเดียร์แย่ลงอย่างทันที ซึ่งสีหน้าของเธอก็บงบอกถึงความผิดหวัง และให้ความรู้สึกว่า เธอเหมือน ได้หนีเสือปะกับจระเข้ เสียแล้ว...
“นั้นสินะ...มันก็ไม่แปลกหรอกที่ พี จะทำแบบนี้..” เดียร์ที่ก้มหน้าลงและเอ่ยพึมพำ ด้วยท่าทีที่เหมือนปลงๆ ขณะที่ผมนั้นก็ยืนมองเธอรอฟังคำตอบอย่างเย็นชาและโหดร้าย และคำตอบของเธอนั้นก็คือ....
“ตะ ตกลง...ถือว่าเป็นการชดใช้ที่เดียร์เคยกระทำไว้กับพีละกัน...” เธอที่ค่อยๆเอ่ยตอบและแหงกหน้าจ้องมองผม...
.
.
.
.
“อื้อออออออออออ....”เสียงครางของเดียร์ที่เอ่ยร้องดังขึ้น...เมื่อมือไม้ของผมได้ขยับเข้าสัมผัสยังเต้านมของเธอ หลังจากที่เธอเอนกายลงนอนลงบนเตียง โยมีร่างอันอ้วนท้วมของผมเข้าขึ้นคร่อม ร่างอันเปลือยเปล่าของเธอนั้น...ใช่ เต้านมของเธอที่ค่อยๆถูกผมขยำขยี้อย่างเคล้นคลึงอย่างไปมา ซึ่งสีหน้าของเดียร์ก็แสดงถึงการตอบสนองในการกระทำนั้น...
ก่อนที่เธอจะสะดุ้งและเอ่ยร้องครางอย่างพอประมาณ เมื่อผมได้ก้มหน้าเข้าขบดูดยังทรวงอกของเธอ...
“อาาาาาาาาาา..” เสียงของเธอที่ดังขึ้น พร้อมกับร่างกายที่สะดุ้งสะท้านให้กับการกระทำนั้นของผม ซึ่งผมก็ประกบขบดูดยังที่หัวนมของเธออย่างแนบแน่นและรุนแรง...แบบไร้ซึ่งความอ่อนโยนใดๆ...
“พี...ดะ เดียร์เจ็บนะ..” เธอที่เอ่ยร้องบอก...ซึ่งผมก็หาได้สนใจในถ้อยคำนั้นของเธอแต่อย่างใดไม่...ใช่ยังคงทำการขบดูดหัวนมของเธออย่างไร้ความปราณีนั้นต่อ....ท่ามกลางเสียงครางที่เอ่ยร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นระยๆของเดียร์...ซึ่งพอหลังจากผมได้กระทำกับหน้าอกหน้าใจของเธออย่างหนำใจแล้ว...(ใช่ กระทำจนทิ้งร่องรอยให้ดูต่างหน้า 2-3 รอยบนหน้าอกของเธอนั้น)
ผมก็ขยับร่างไปยังเป้าหมายต่อไป อย่างทันที...ใช่ไปยังของสงวน ของลับของเธอ ซึ่งจะว่าไป ผมไปพร้อมกับหวั่นๆกลัวๆว่าเธอจะทำอะไรผมกลับในจังหวะตอนที่ผมมัวแต่สนุกกับเรือนร่างของเธอรึเปล่า ใช่ เป็นมุขที่เห็นบ่อยไปในตามหนัง ซึ่งผมก็หวั่นๆและระวังตัว ตั้งแต่ตอนดูดนมของเธอแล้ว...
ถึงแม้ผมจะพูดว่า ‘ไม่ได้คิดอะไรกับเธอแล้วก็ตาม’ ใช่ถึงจะพูดอย่างงั้น ใจของผมก็ยังคงเต้นแรงทันทีที่ จับแข้งขาของเธฮแบะอ้าและเชยชมยังของสงวนของเธออย่างเต็มๆตา...ซึ่งมันก็ทำให้ผมใจเต้น และไม่อยากเชื่อว่า ผู้หญิงที่เห็นความรักเป็นของเล่นอย่างเดียร์ จะยังบริสุทธิ์อยู่!!!
ของสงวนของเธอที่ยังคงมีสภาพปิดบิดอย่างไม่เคยถูกใช้งานใดๆ....ซึ่งสภาพของมันก็แตกต่างจากของสงวนของพี่สาวนางฟ้าคนนั้นพอควร รายนั้นทั้งแหกทั้งปลิ้นแต่ถึงกระนั้นก็ดูสวย ใช่..มันสวยเร้าใจในคนละแบบ..แต่ถึงแม้ของสงวนของเดียร์จะปิดมิด แต่ขนของเธอกลับรกรุงรังจนหักความสวยงามนั้นไปเสียนี่...
และพอผมเหลือบไปมองหน้าของเดียร์ในเวลานี้ ก็พบว่าหน้าของเธอนั้นก็แดงก่ำอย่างจัดๆ ด้วยความเขินอาย ซึ่งผมก็หาได้ใส่ใจไม่ ก้มหน้า เข้าไปลิ้มรสของสงวนของเธออย่างไม่รอช้า..แน่นอนว่านั้นก็ทำให้เสียงครางของเดียร์ก็เอ่ยดังขึ้นอีกครั้ง
“อ๊าาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา...” เสียงครางของเดียร์ที่ค่อยๆเอ่ยร้องดังขึ้นอย่างสะท้านเสียวๆให้กับการกระทำของผม ที่กระทำกับของสงวนของเธอนั้น ซึ่งผมก็ทั้งแหกละเลงเลียรวมถึงสอดลิ้นเข้าคว้านข้างใน แต่ก็มิได้สอดไปลึก เนื่องจากมันเหมือนจะติดอะไรบางอย่าง..จนทำให้ผมต้องขยับมองดู....
และบางอย่างที่ทำให้ลิ้นผมไม่สามารถสอดใส่ไปได้นั้น ผมก็ถึงกับอึ้ง เมื่อพบว่าสิ่งที่ทำให้ผมไม่สามารถดันสอดลิ้นไปได้นั้น คือ เยื่อพรหมจรรย์ของเธอเยื่อ ขาวๆบางๆ...และนั้นก็เหมือนเป็นการตอกย้ำในสิ่งที่ผมคาดไว้ว่า เดียร์ ยังบริสุทธิ์อยู่...พอเห็นและผมได้ขยับหน้าแหงกขึ้นมองเดียร์นั้นก็เห็นเธอมีสีหน้าแดงก่ำ ก่ำกว่าเมื่อครู่เสียอีก...
แต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่สนใจ ขยับร่างลุกขึ้น และทำการปลดเปลื้องช่วงล่างของผมออกทันที และนั้นก็ทำให้ เดียร์ถึงกับตกใจ หน้าถอดสี เมื่อเห็นท่อนเอ็นของผม ที่ขนาดพี่สาวนางฟ้าคนนั้นยังต้องตกใจ อุทานเชิงแซวว่า ‘ผมเป็นหมู รึ ม้ากันแน่...’
“อะ...อย่ารุนแรงนะ..”เดียร์ที่ค่อยๆเอ่ยร้องขอกับผม...ซึ่งถือว่านี่เป็นถ้อยคำที่ 2 ที่เธอได้เอ่ยขึ้น ขณะถูกผมกระทำอย่างว่านี้ (ครั้งแรกก็ตอนดูดนม จนเอ่ยครวญว่าเจ็บ..) แน่นอนว่าผมก็ไม่ได้ใส่ใจ ในถ้อยคำนั้นแต่อย่างใด มีแต่ยิ่งชอบและสะใจนิดๆ ที่รู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่...
ผมที่ขยับมือไม้เข้าแบะถ่างขาของเดียร์อย่างอ้าซ่า ก่อนจะจ่อท่อนเอ็นยาวใหญ่ของผมเข้ายังของสงวนของเธอ และทำการดันมันเข้าไปในรูอันแฉะนิดๆนั้น อย่างมิดด้าม ซึ่งนั้นก็ทำให้เดียร์ถึงกับสะดุ้งเฮือก และเอ่ยร้องครางลั่นทันที..
“อ๊าาาาาาาาาา าาาาาาาาาา าาาาาาาาาา...” เสียงครางของเธอที่เอ่ยร้องดังลั่น ด้วยสีหน้าที่เหยเก ด้วยความเจ็บปวด ซึ่งผมก็หาได้สนใจไม่ หากแต่ขยับกระทุ้งท่อนเอ็นตอกย้ำถึงความเป็น ชายคนแรกของเธออีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่านั้นก็ทำให้เสียงร้องของเธอดังลั่นขึ้นอีกครั้ง...
“อืมมมมม...” ผมที่เอ่ยร้องครางในลำคอ ด้วยความเสียวจากการตอดรัดที่แสนฟิตของรูหีนั้น ซึ่งผมก็แช่ควยคาอยู่ในรูหีของเธอ สักแป๊บ ก่อนจะขยับสาวกระแทกใส่หีของเธอ อย่างต่อเนื่อง...ท่ามกลางเสียงครวญครางของเดียร์ที่เอ่ยร้องระงมด้วยความเสียวจากการเย็ดของผม...
“อ๊าาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา..” เสียงร้องของเธอที่ดังต่อเนื่องไม่หยุด ขณะที่ผมทำการซอยควยเย็ดหีของเธออย่างอย่างไม่ยั้ง...แต่ละดอกที่ควยของผมกระทุ้งไปนั้นก็แฝงด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งแค้น ทั้งรักแบบหน่อยๆ...
“อ๊าาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา ขะ ขอร้อง อย่าแตกข้างในนะ ดะ เดี๋ยวเดียร์ท้อง...” เดียร์ที่เอ่ยปากร้องขอกับผม หลังจากโดนผมตะบั่นซอยควยอยู่ครู่ใหญ่ๆ ซึ่งผมก็ได้สนใจฟังคำร้องขอของเธอไม่ ยังคงตั้งหน้าตะบั่นลำควยใส่หีของเธออย่างรุนแรง ก่อนจะสบคำรามและกับทำการแตกในใส่หีของเธออย่างเต็มเหนี่ยว อย่างมิสนคำร้องขอเมื่อครู่นั้นเลย....
“อ๊าาาาาาาาาา าาาาาาาาาา าาาาาาาาาา าาาาาาาาาา าาาาาาาาาา...” เสียงครางยาวของเดียร์ที่เอ่ยร้องดังลั่นด้วยความเสียวสุข จากทั้งการเย็ดและจากน้ำควยของผม ที่ทำให้เธอต้องสะท้าน จากการหลั่ง 2 จังหวะของผม ซึ่งผมก็เหมือนเห็นเธอหลั่งน้ำตาออกมานิดๆ...
ถึงแม้น้ำตาดั่งกล่าวจะทำให้ผมรู้สึกแย่ แต่ผมก็หาได้หยุดการกระทำสวาทกับเธอไม่ ใช่ ผมปล่อยให้เธอได้พักและหอบครางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะจับเธอพลิกให้นอนคว่ำ และจับเธอเย็ดในท่าหมาเริงกาม...
“อื้ออออออ....อ๊าาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาา...” เสียงครางของเดียร์ที่เอ่ยร้องระงมขึ้น เมื่อถูกผมทำการเย็ดอีกครั้งในท่าหมาเริงกามนั้น ร่างอรชรข่าวนวลของเดียร์ที่ค่อยๆขยับสั่นไหวอย่างไปมา ขณะที่ท่อนเอ็นของผมยังคงขยับกระทุ้งใส่หีของเธอดังปึกๆๆๆป้าบๆๆๆ…
ก่อนที่การเย็ดในท่วงท่าดั่งกล่าวจะเรียกเสียงหวีดร้องของเดียร์ได้ถึง 2 ครา รวมถึงน้ำควยร้อนๆ ของผม อีก 1 น้ำ และแน่นอนว่า มันยังคงไม่พอ สำหรับผม แถมเดียร์เองก็มิเอ่ยร้องขอ ขัดถึงความต้องการของผม เพียงแค่ ผมเอ่ยปากขอ เธอ เธอก็เพียงมองผมอย่างเหนื่อยล้า
ก่อนจะพยักหน้าและยินยอมให้ผมเย็ดอีกหลายครั้งในค่ำคืนนั้น...และไม่รู้ว่าการที่เธอตามใจยอมผมอย่างว่าง่ายนั้น เป็นเพราะความตั้งใจของเธอที่เอ่ยไว้ตั้งแต่แรกรึไม่ ที่บอกว่า การนอนครั้งนี้ เป็นเหมือนการไถ่โทษ ในสิ่งที่กระทำกับผมไว้? จึงทำให้เธอยอมและว่าง่ายเช่นนี้ ซึ่งในคืนนั้นผมก็จัดการเธอไปถึง 5 ครั้งด้วยกัน....
และโชคดีที่หลังจากเสร็จกิจ 5 ยกนั้น ผม ไม่เผลอหลับยาว...แบบ เดียร์ รายนั้นถึงกับหลับสนิทเลย และนั้นก็ทำให้ผมสามารถที่จะทำบางอย่างที่เป็นเหมือนคำสัญญานั้นได้...ผมที่ลุกขึ้นลงจากเตียง เดินไปหยิบโทรศัพท์ พร้อมกับกดโทรไปหาใครบางคนที่น่าจะรอโทรศัพท์ของผมอยู่....
“พี่ชาติ เหรอครับ ผมเรียบร้อยแล้วนะครับ..” ผมเอ่ยขึ้น ทันทีที่ปลายสายนั้นได้ทำการรับสาย..ใช่ผม โทรไปหาชายที่ทำการแก้แค้น เดียร์และเพื่อนของเธอ ในคืนนี้ ซึ่งทั้งหมดมันมิใช่ แผน แต่มันเป็นทางเลือกที่เขาให้ผมเลือกต่างหาก...
ใช่ ในตอนนั้นที่ พี่ชาติ เค้าเคาะประตู หลังจากเดียร์เข้ามาในห้องผมได้เพียงแป๊บเดียวนั้น...
“อ้าว พี่มีธุระอะไรเหรอครับ...” ผมที่เอ่ยทักทาย หลังจากที่ทำการเปิดประตู จากการที่ เค้ามาเคาะหน้าห้องของผม ซึ่งเค้าก็มอง ก่อนถามตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม..
“อีนั้น หลบอยู่ในห้องพี่สินะ..” คำกล่าวของเขาที่ทำให้ผมชะงัก ก่อนที่เขาจะขยับเอามือมาวางยังบนบ่าและเอ่ยกล่าวต่อ
“ไม่ต้องตอบพี่ก็ได้ แต่โอกาสแก้แค้นมาแล้วนะ ใช้ให้เต็มที่ และหลังจากที่ทำกับแม่นั้นเสร็จแล้ว น้องอยากจะช่วยมัน หรือ ถีบมันลงนรกที่พี่เตรียมไว้ให้ ก็แล้วแต่น้องละกัน ” พี่ชาติ ที่เอ่ย กล่าวต่อ พร้อมกับยื่น แผ่นกระดาษที่มีเบอร์โทรของพี่เค้า
และการที่ผมโทรไปหาเค้าก็เป็นคำตอบกลายๆ ว่าผมตัดสินใจแบบใดกับเดียร์ ไม่นานหลังจากที่ผมโทรไปหา พี่ชาติก็มายังห้องของผม พร้อมกับเพื่อนของเขา ที่รู้สึกชื่อ เจ๋ง หรืออะไรเนี่ย ก่อนจะพาตัวของเดียร์ที่หลับสนิทอย่างหมดแรงนั้นไป...
“ไม่ต้องคิดมากนะ....สิ่งที่น้องทำมันถูกต้องอยู่แล้ว เพราะถ้าปล่อยไว้ ก็ไม่รู้ว่าแม่นี่กับเพื่อนของมันจะ ไปยำยีความรู้สึกของใครอีกไม่รู้กี่คน..” พี่ชาติที่เอ่ยบอกเชิงปลอบกับผมราวกับรู้ว่า ผมรู้สึกไม่ดีเล็กๆกับสิ่งที่ผมตัดสินใจทำลงไป...
แค่การฉวยโอกาสหลับนอนกับเธอ ผมว่า แรงแล้ว นี่ผมยังตัดใจถีบเธอลงนรกอีก....จึงทำให้ผมรู้สึกแย่พอสมควร เนื่องจากกมลสันดานของผม ไม่ใช่คนเลวนี่ครับ พอทำครั้งแรกมันถึงรู้สึกแย่ๆๆ...แน่นอนว่าถ้อยคำของพี่ชาตินั้น ผมก็เห็นด้วยกับเค้า ก่อนที่ผมจะร้องถาม...
“ทำไม พี่ถึงให้โอกาสแก้แค้นแก่ผม...” ผมถาม ซึ่งมันเป็นข้อสงสัย เพราะ พี่ชาติ ไม่มีความจำเป็นต้องแบ่งโอกาสนี้ให้กับผมเลย...
“ก็แววตาของน้องมันเหมือน แววตาของน้องชายพี่มากนะสิ...แถมยังถูกกระทำเหมือนกัน พี่เลยคิดว่า ถ้าให้น้องได้แก้แค้นก็เหมือนกับน้องชายพี่ได้แก้แค้นไปด้วย..และแน่นอนว่า ไม่ว่าน้องตัดสินใจยังไง พี่ก็ถือว่า เป็นการตัดสินใจแทนน้องชายของพี่ด้วย...” คำกล่าวตอบของพี่ชาติที่เอ่ยขึ้น ซึ่งมันก็ทำให้ผมเข้าใจ และมันก็หมายความว่า เค้าจะไม่มีการต่อว่าใดๆหากผมได้ทำการตัดสินใจอีกแบบหนึ่งนั้น....
“แล้วจากนี้ พวกพี่จะทำยังไงต่อ...” ผมเอ่ยถาม ซึ่งพี่ชาติก็เอ่ยตอบ...
“คนดีๆอย่างน้องนะ อย่ารู้เลย...เอาเป็นว่า อีนี่กับเพื่อนมัน จะไม่มีวันกลับมาให้น้องได้เห็นหน้าอีก..” พี่ชาติตอบ พร้อมกับเดินออกไปจากห้องของผม ตามเพื่อนของเขาที่เดินออกไปก่อนหน้านี้ ที่ได้อุ้มเดียร์ออกไปด้วย ซึ่งคงไม่มีใครเห็นหรอกเพราะนี่เพิ่งตี 4 เอง...
และแน่นอนว่า ถ้อยคำนั้นของพี่ชาติก็ทำให้ผมรู้สึกขบขันตัวเอง เพราะตั้งแต่ ผมตัดสินใจถีบเดียร์ลงนรกที่พี่ชาติเตรียมไว้ ผมก็ไม่ใช่คนดีอีกต่อไป และผมก็ไม่อยากนึกเลยว่า เมื่อเดียร์ตื่นขึ้นมาพบว่า ผมได้ทำการหักหลังเธอ ไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกยังไง หรือจะด่าทอผม หรือ สาปแช่งผมยังไงบ้าง..
หลังจากนั้น ก็เป็นดั่งที่พี่ชาติบอก ผมก็ไม่ได้เห็นหน้าของเดียร์อีกเลย...แถมเคยมีตำรวจมาถามเรื่องเดียร์กับผมด้วย ซึ่งผมก็ตีหน้าซื่อ ตอบกับคุณตำรวจไปว่า ‘ไม่รู้ อะไรทั้งนั้น เพราะไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว...’ พร้อมกับให้เหตุผล ถึงเรื่องนิสัยอันร้ายของเธอที่กระทำกับผมไปด้วย...
จนกระทั้ง ผ่านไป 6 เดือน (นับตั้งแต่ คืนที่ผมถีบเธอตกนรก) ก็มีซองพัสดุ ที่ไม่ได้จ่าหน้าซอง วางอยู่ไว้หน้าห้องของผม ซึ่งข้างในนั้น บรรจุ DVD 1 แผ่น ซึ่งพอผมได้นำมาเปิดก็พบว่า ในDVD นั้นบันทึก ของเดียร์กับเพื่อนๆ 2 คน....ใช่ พอเปิดมา ก็จะเป็นภาพของเดียร์กำลังนั่งหันหลังดูดอมควยของชายคนหนึ่ง อยู่...(ที่รู้ว่าเป็นเธอเพราะได้ยินเสียงของผู้ชายที่กำลังถูกเธอดูดนั้นเอ่ยเรียกเธอ..)
โดยที่สภาพของเธอนั้น ก็เหมือนมิได้อาบน้ำมานานพอควร ทั้งผมเผ้าและเนื้อตัวที่ดูสกปรก....ใช่เธอดูดควยของชายคนนั้นอยู่ครู่ ก่อนจะมีเสียงใครบางคนที่เอ่ยเรียกทำให้เธอหันไปมอง ก่อนจะยิ้มหวานให้กับคนที่เอ่ยเรียกพร้อมกับหันร่าง เหมือนหันมาหาชายคนที่เอ่ยเรียกนั้น ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้ผมเห็นหน้าของเธออย่างชัดๆ ซึ่งก็เป็นเดียร์จริงๆ...
ก่อนจะต้องตกใจกับสภาพร่างกายของเธอ ที่เธอได้หันมาหาชายคนนั้นและทำการขยับนอนแหกแข้งขาแหกหี ซึ่งสภาพของเธอนั้นแทบไม่เหลือความสวยงามอีกแล้ว หน้าอกหน้าใจที่เคยเต่งตรึง และหัวนมที่มีสีสันสดสวยในค่ำคืนนั้น ในเวลานี้ ก็ทั้งหย่อนเหลว แถมหัวนมก็ดำปี๊ แถมถูกจับใส่ห่วง อีกด้วย...
ที่น่าตกใจมากกว่าเต้านมของเธอ ก็คือ สภาพหีของเธอ ซึ่งในคืนนั้น หลังจากที่โนผมเย็ดไป หีของเธอจากที่ปิดมิดก็มีสภาพปริปลิ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (มองดูตอนที่โทรศัพท์เรียกนายชาติ) แต่ในเวลานี้ ในDVDนี้ สภาพหีของเธอนั้นก็ทั้งแหกทั้งปลิ้นอย่างหนัก แถมแคมที่ปลิ้นย้วยอย่างน่าเกลียดนั้นก็ ถูกจับใส่ห่วงเล็กๆ มากมาย และสีของแคมนั้นก็เป็นสีดำปี๊อีกด้วย...
ผมที่มองอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะเห็นร่างของชายคนหนึ่งเดินเข้าไปทำการเย็ดหีของเดียร์ที่นอนถ่างขาอ้าซ่านั้น เอที่ส่งเสียงครวญครางอย่างเสียงดังอย่างชอบพอในรสสวาทนั้น ซึ่งชายคนนั้นก็ขยับควยตอกใส่รูหีของเดียร์อย่างไม่ยั้งราวกับหมายพังหีของเธอให้ปลิ้นให้บานมากยิ่งขึ้น....และไม่กี่อึดใจ เสียงหวีดร้องดังยาวของเดียร์ก็ดังขึ้น....
ก่อนที่จะเห็นรูหีปลิ้นๆบานๆของเธอที่มีน้ำควยอย่างเต็มล้นรู ทันทีที่ชายคนดั่งกล่าว ขยับถอนลำควยออกไปนั้น...และภายในDVD นั้นก็หาได้มีแค่นั้น หากแต่ยังมีบันทึกการเย็ดของเดียร์อีกเพียบ และที่สำคัญกว่านั้น คือเป็นการเย็ดแบบรุมโทรม หรือ เธอ โดนคราวเดียวครั้งละ หลายควยนั้นเอง...
และในบันทึกนั้น ผมก็ไม่ได้ยินถึงเสียงโอดครวญหรือร้องขอให้หยุดกระทำแต่อย่างใด หากแต่ได้ยินเสียงที่เอ่ยพล่ามของเดียร์ที่เอ่ยร้องแก่ชายที่ทำการเย็ดเธอว่า ‘ให้ทำอีก ทำให้เยอะๆเลย’ ใช่ ไม่มีท่าทีที่โศกเศร้าเสียใจเลย..หรือที่ไม่โศกเศร้าก็คงเพราะเธออาจจะชินชาแล้วก็ได้.....
และภายใน DVD นั้นก็มีบางช่วงที่ถ่ายให้เห็นสภาพของเพื่อนอีก 2 คนของเดียร์ ซึ่งสภาพของเธอ รวมถึงสภาพหีนั้นก็แทบไม่ต่างจากเดียร์เลย ที่สำคัญ โดนจับเย็ดแทบไม่ต่างจากเดียร์เช่นกัน แต่รู้สึกว่า จะมีคนหนึ่ง ซึ่งผมจำไม่ผิด น่าจะชื่อ เอ๋ อะไรเนี่ย ถูกจับให้เย็ดกับหมาด้วย...
ภายสุดท้ายของDVD นั้นคือ ภาพของ 3 สาวที่นอนจมกองน้ำกาม ซึ่งกล้องก็จับภาพของเดียร์อย่างเน้นๆ ราวกับเฉพาะเจาะจงมาเพื่อผมโดยเฉพาะ...ก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืดลง...ภายหลังที่ดูDVD นั้นเสร็จ ผมก็ทำการหัก DVD แผ่นนั้นทันที เพราะไม่อยากเหลืออะไรไว้ให้ระลึกถึงเธออีก...
ถึงแม้ภายในใจของผม ตอนนี้จะค่อนข้างสงสารในสิ่งที่เธอโดนก็ตาม แต่ผมก็คิดว่านั้นคือกรรมของเธอ กรรมที่เธอต้องชดใช้ ซึ่งตอนที่ผมทิ้งซาก แผ่นDVD นั้น ก็พบว่าภายในซอง ก็ยังมีของอีกอย่างอยู่ก้นถุงด้วย มารู้เอาตอนจะทิ้งเนี่ยแหละ และของที่ว่านั้นก็คือ เครื่องมือตรวจครรภ์ ซึ่งตรงด้ามแปะชื่อ เดียร์ไว้ ซึ่งเจ้าเครื่องมือนั้นก็ออกผลออกมาเป็น 2 ขีด!!..
ผมมองดูผลของการตรวจนั้น อย่างพอเข้าใจถึงสภาพของเดียร์ในเวลานี้ แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังคงทิ้งมันลงถัง อย่างไร้เยื่อใย และเอ่ยกล่าวในใจกับตัวเองว่า ‘ลาก่อน รักแรกของผม..’
และการทิ้งแผ่นDVD นั้น สำหรับผมก็เหมือนเป็นการสิ้นสุดของเรื่องราวรักแรกและความผิดหวังนั้นเอง....
[แถมท้าย....]
ถึงแม้จะบอกว่า เป็นการสิ้นสุด แต่ผลของการดูDVD นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกแย่ หลายวัน ใช่ทั้งรู้สึแย่ และรู้สึกผิดที่เป็นคนทำให้เดียร์มีสภาพแบบนั้น..แต่ถึงกระนั้นในใจอีกด้านของผมก็นึกแย้งแทน...ว่า ผมไม่ผิด ที่ผิด คือ เธอกับเพื่อนต่างหาก หากเธอกับเพื่อนไม่อุตรีเล่นเกมบ้าๆ พวกเธอก็คงไม่โดนแบบนี้หรอก...ฉะนั้นสิ่งที่ผมทำนั้นมันไม่ผิด...
สิ่งที่เธอโดนในขณะนี้มันคือผลกรรมต่างหาก...ใช่ถึงจะนึกเข้าข้างแบบนั้น ก็หาได้ทำให้ผมดีขึ้นซะเท่าไร ถึงแม้จะพยายามด้วยการเดินเล่นห้าง ก็ตาม....และขณะที่ผมเดินเล่นอย่างรู้สึกแย่ๆนั้น...
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ....น้องหมู ทำหน้าเศร้าอีกแล้ว ครั้งนี้เจออะไรมาละ?...” เสียงทักทายนั้นที่ทำให้ผมที่กำลังเดินแบบจิตตกนั้น ก็ต้องกลับหันไปมอง และพบว่าผู้ที่เอ่ยทักทายผมก็คือ..........
ขอบคุณนะครับ
ตอบลบมีต่ออีกไหมครับเหมือนจะเริ่ม turn to the dark side แล้วด้วย น่าสนใจ
ตอบลบยอดเยี่ยมเลยครับ
ตอบลบชอบการชำระแค้นมาก...ขอบคุณครับ!
ตอบลบ