ผมกลายเป็นคน เอาเพื่อนเอาฝูง...ภาค 2

ผมกลายเป็นคน เอาเพื่อนเอาฝูง...ภาค 2 -เพื่อนผมเป็นไอดอล-

หวัดดีครับ ผมกาย เองครับ จำกันได้มัย? ถ้าใครจำไม่ได้ขอให้กลับไปอ่าน ‘ผมกลายเป็นคน เอาเพื่อนเอาฝูง...ภาค 1’ นะครับ เอาละมาต่อกันเลยดีกว่า หลังจากวันนั้น ผม กับ ตาล ก็อยู่ในสถานะ คบหากัน แต่ยังไม่ถึงขั้นเรียกว่าแฟนหรอก...นั้นเพราะ ตาลยังไม่เลิกกับแฟนเก่าของเขานั้นเอง...

“ผมขอเป็นแฟน ตาลได้มัย?...” ผมเอ่ยเชิงขอและถามขึ้น หลังจากที่ตาลทำแผลในปากและที่แก้มที่ช้ำให้กับผม ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอตกใจเหมือนเป็นการตกใจรอบ 2 หลังจากเจอผมเอ่ยสารภาพรัก หน้าประตูนั้นไป....

“มะ ไม่ได้หรอก...ตาลมีแฟนอยู่นะ กาย..” เธอตอบ...

“แต่ผมได้ยินว่า เขากำลังเลิกกับตาลไม่ใช่เหรอ?..” ผมเอ่ยตอบเชิงถามกลับ ซึ่งนั้นทำให้ตาลชะงักและเอ่ยเชิงถามผม

“ได้ยินมาจากใคร? หรือ เมื่อคืน ตาลพูดอะไรแปลกๆออกไป...” ตาล สาวผมดำยาวที่เอ่ยถามผมด้วยท่าทีกังวล ราวกับกลัวว่าเมื่อคืนตอนที่เมาจะพูดอะไรแปลกๆออกไป ก็เธอเมาขนาดเห็นผม เป็นแฟนหนุ่มของเธอเลยนี่นะ...แน่นอนว่าผมตอบไปอย่างโกหกผสมกับความจริงนิดๆ...

“ไม่ได้พูด...แต่ได้ยินเค้าพูดกันในงานเลี้ยงเมื่อวาน...” ผมตอบโดยที่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องโกหกซะทีเดียว...ซึ่งตาลก็มีทีท่าเหมือนไม่สงสัยไร ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามผม อีกครั้ง...

“เมื่อคืน ตาลไม่ได้พูดอะไรแปลกๆใช่มัย นอกจากจะเห็นกายเป็นแฟน และเย็ดกับกายนะ..” เธอถามย้ำอย่างเห็นได้ชัดว่ากังวลมาก ซึ่งผมเองก็อยากจะตอบไปตรงๆ ว่าเอหลุดปากมาเยอะ แต่เพราะเห็นท่าทีกังวลแบบนั้นของเธอ เกิดตอบไปตามตรงละก็ อาจจะมีเรื่องได้...ทั้งๆที่ผมก็มีเรื่องสงสัยอยู่มากเหมือนกัน...

“ไม่มี นอกจาก จะร่ำร้องบอกให้ผมเย็ดแรงๆแล้วก็ไม่มีนี่..” ผมตอบอย่างยิ้มๆและนั้นก็ทำให้ตาลหน้าแดงก่ำและเอ่ยค้อนพร้อมทุบผมด้วยความเขินอาย....

“บ้า...” ตาลเอ่ย และทุบผมด้วยสีหน้าแดงก่ำอย่างน่ารักมากๆ ซึ่งผมไม่เข้าใจเลยว่า แฟนของเขาทำกับคนน่ารักๆแบบเธอนั้นได้ยังไง...แน่นอนว่าผมนั้นทั้งหัวเราะและอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี ขณะที่ถูกเธอทุบ...

“งั้น กาย ไม่คิด จะถามอะไรบ้างเหรอ? กายก็น่าจะเห็นบางอย่างแล้วนี่...” เธอที่เอ่ยถามต่อด้วยใบหน้าที่ยังระเรือแดงไม่หาย ซึ่งคำถามของเธอ ก็เห็นได้ชัดว่า กังวลกับเรื่องเมื่อคืนมากๆ...

“บางอย่างนี่หมายถึงอะไรเหรอ?..” ผมถามกลับอย่างแกล้งจำไม่ได้ ทั้งๆที่เหมือนพอจะรู้ว่า สิ่งที่เธอเอ่ยนั้น คงหมายถึงรอยสัก และ ตรงติ่งเสียวของเธอที่มีการใส่เม็ดอะไรไว้...

“ปะ เปล่าไม่มีอะไรหรอก..” ตาลเอ่ยตอบอย่างหันไปทางอื่นอย่างไม่กล้ามองหน้าผม...ก่อนที่ผมจะตัดสินใจถามบางเรื่อง

“ช่วยบอกผมได้มัย ว่าแฟนที่ตาลคบอยู่นี่เป็นคนยังไง...” ผมถามทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมอยากรู้น้อยที่สุด แต่อย่างว่า ถ้าถามเรื่องที่ผมโคตรอยากรู้ละก็...และมันอาจจะทำให้หล่อนไม่พูดคุยกับผมอีกเลยก็ได้..แต่ด้วยความที่ผมอยากจะรู้เรื่องของเธอมากขึ้นกว่าเดิม หวยจึงมาออก ให้กับคำถามนี้นั้นเอง...และมันก็ทำให้ ตาลหันกลับมามองหน้าของผมอีกครั้ง

“แฟนของตาลเหรอ?...เขาเป็นคนที่นิสัยไม่ดีมากๆ ทั้งขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ แถมชอบบังคับให้ตาลทำตามอย่างที่เค้าต้องการ ทั้งๆที่ตาลไม่ต้องการเลยสักนิด...” ตาลเอ่ยตอบอย่างตรงๆเป็นชุดๆ มันทำให้ผมแปลกใจมากๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบ ตรงๆแบบไม่มีการแทงกั๊กแบบนี้...

“ที่ว่า ชอบใช้กำลังนี่..อย่าบอกนะว่า....” ผมถามอย่างอยากได้คำอธิบายเพิ่มเติม ถึงความหมายนี้ ซึ่งตาลก็ยินดีเอ่ยขยายความให้ผมฟังแต่โดยดี.....

“อื้ออออ อย่างที่กายคิดแหละ เค้าทำร้ายตาล เป็นบางครั้ง ไม่สิ.. แทบทุกครั้งต่างหาก ทุกครั้งที่ตาลขัดใจเค้า..” คำกล่าวตอบของตาลก็ทำให้ผมถึงกับอึ้ง และทุกอย่างนิ่งไปครู่หนึ่ง..

“เท่าที่ฟังก็ไม่มีอะไรดีเลยนี่ แล้วทำไม...” ผมที่เริ่มถามด้วยความสงสัย ออกมาอย่างตรงๆ โดยลืมไปเลยว่า ตาลนั้นจะรู้สึกยังไง แต่เธอกลับไม่มีท่าทีใดๆ แถมยังเอ่ยสวน อย่างเติมเต็มคำถามของผมอีกต่างหาก....

“แล้วทำไมถึงยังอยู่กับเค้านะเหรอ?...” เธอเอ่ยเสริมเติมสิ่งที่ผมอยากถาม โดยสมบูรณ์ ก่อนที่เธอจะเว้นช่วงไปเล็กน้อยและเอ่ยกล่าวต่อ

“ มันเป็นคำถามที่ตอบยากนะ แม้แต่ตาลเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน..ทั้งๆที่เค้าไม่มีอะไรดีซะอย่าง ตั้งแต่เริ่ม จนถึงตอนนี้”

คำกล่าวตอบของตาลที่ทำให้ผมถามต่อด้วยความสงสัย

“ตั้งแต่เริ่มเหรอ?...”

“อื้อออ ตาลคบกับเค้าไม่ได้เพราะคบเพราะชอบเค้าหรอก แต่เพราะดันมีเหตุสุดวิสัย คล้ายๆสิ่งที่เกิดขึ้นกับกาย เมื่อคืนนั้นแหละ แต่เลวร้ายกว่ามาก...” ตาลตอบ อย่างอ้อมๆ ถึงจะไม่เอ่ยตรงๆออกมา ถ้าให้เดาจากคำว่า ‘เลวร้ายกว่ามาก’ ตาลน่าจะถูกหมอนั้นมอมยาและข่มขืนแน่ๆ ดีไม่ดีอาจจะมีรูปถ่ายแบล็คเมล์ไว้แน่ๆ...

“งั้นเพราะเหตุนี้ ตาล ถึงได้โกรธ และตบหน้าผมไม่ยั้งสินะ..” ผมเอ่ยเชิงถามอย่างเริ่มจะเข้าใจ ซึ่งนั้นก็ทำให้ตาลมองหน้าและพยักหน้าช้าๆ พร้อมกับตอบสั้น...

“อื้ออออออ..ก็ประมาณนั้นแหละ....”

“ไม่เป็นไร...ผมเข้าใจ และอีกอย่าง เรื่องเมื่อคืน ไม่ว่าจะยังไง ผมก็เป็นฝ่ายผิด ผิดมากด้วยแหละ..” ผมเอ่ยตอบกลับทันที เพื่อไม่ทำให้ ตาล เครียดมากไปนะ ซึ่งมันก็ได้ผล เธอมีท่าทีดีขึ้นจนยิ้มแย้ม เอ่ยพูดเล่นกับผมได้...

“อื้อออ...รู้ตัวแบบนี้ก็ดีแล้ว ถ้าตาลท้อง กายต้องรับผิดชอบด้วยเข้าใจมัย?..” เธอเอ่ยอย่างทีเล่นทีจริงด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ซึ่งผมก็เอ่ยตอบเธออย่างไม่ลังเล...

“อือออ ได้สิ..จะให้รับผิดชอบตอนนี้เลยก็ได้นะ..” คำกล่าวตอบของผมก็ทำให้สีหน้าเธอระเรือแดงก่ำและเธอก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เก็บข้าวของ (พวกยาที่ซื้อมา) ด้วยท่าทีหมายจะกลับแล้ว....

“จะกลับแล้วเหรอ?..” ผมที่ร้องถาม ซึ่งตาลก็มองผมและตอบสั้นๆ

“อืออออ...” เธอเอ่ยและหันหลังตรงไปที่ประตู ซึ่งผมก็มองและตัดสินใจเอ่ยกับเธอ 

“ตาล....ผมอยากให้ตาลจำไว้นะ ไม่ใช่ว่าตาลจะไม่มีใคร ตาลยังมีผู้ชายคนนี้อยู่นะ...” คำกล่าวชวนลิเกของผมก็ทำให้เธอหันกลับมามองและเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม...

“อื้ออ .รู้แล้ว....แล้วเราจะโทรมาหานะ..” ตาลตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะเดินออกไป หลังจากนั้น เธอก็ติดต่อมาหาผมจริงๆ ซึ่งผมและเธอก็มีการติดต่อกันและกัน มีการไปเที่ยวด้วยกัน หรือให้พูดโดยสรุปคือ เริ่มมีการสานความสัมพันธ์...ถึงแม้ความสัมพันธ์ของผมและเธอจะไม่เรียกว่า เป็นแฟนกัน อย่างเต็มปากก็ตาม (น่าจะเรียกได้ว่า กำลังคบหากันอยู่…)

และผมก็เชื่อว่าทันทีที่แฟนเธอบอกเลิก ผมก็คงได้เป็นแฟนเธออย่างเต็มตัวอย่างแน่นอน และระหว่างที่ผมอิ่มเอิบกับความรู้สึกดีๆนี้ ผมก็ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า หลังจากนั้นอีก 2 เดือนต่อมา ผมก็สร้างวีรกรรมเอาเพื่อนอีกครั้ง....

และการเอาเพื่อนอีกครั้งของผม จุดเริ่มต้นมาจาก วันหยุดที่แสนธรรมดา ที่ผมไม่ได้มีนัดเที่ยวกับตาล แต่ออกมาทำงาน ก่อนจะกลับเข้าบ้าน ก็ได้แวะห้างดังในแถวๆนั้น และนั้นจึงทำให้ผมได้พบกับ ‘เพื่อนในสมัยเด็ก’ คนหนึ่งของผมโดยบังเอิญ..

“พะ....พี่กาย...” เสียงเอ่ยทักทายของหญิงสาวที่สวมใส่หมวกและแว่นกันแดดที่ เดินเข้ามาทักผม ขณะที่ผมนั้นก็กำลังมองซ้ายมอง ขวา เนื่องจากเพิ่งมายังห้างแห่งนี้ เป็นครั้งแรก ห้างกลางกรุงที่ จัดในลักษณะเหมือนสนามบินแบบนี้...

คำกล่าวทักดั่งกล่าวที่ทำให้ผมที่ มองหาบันไดเลื่อนทางขึ้นนั้น ก็กลับมามองยังที่เธอด้วยความฉงน สงสัย...และไม่ทันที่ผมจะเอ่ยถามอะไร เธอก็เป็นฝ่ายเอ่ยต่อขึ้นมาเอง...

“เต้ยเองไงค่ะ น้องเต้ยของพี่กายไง...” หญิงสาวร่างบางที่ตัวเล็กและเตี้ยกว่าผม โดยที่ เธอน่าจะสูงราวๆ 140-150 ซม. ได้ เพราะศีรษะเธอนั้นก็อยู่ที่ประมาณไหล่ของผมเท่านั้น เธอเอ่ยพร้อมกับถอดแว่นกันแดด เพื่อให้ผมเห็นหน้าที่แท้จริงของเธอ ซึ่งหน้าตาของเธอนั้นก็ทำให้ผมครุ่นคิดตั้งนาน ประกอบกับชื่อของเธอก็คุ้นเคย ด้วย  ก่อนที่ผมจะนึกออก..

“เต้ย หลานของย่าภา นะเหรอ?...” ผมเอ่ยอย่างนึกออกด้วยท่าทีที่อุทาน และตกใจพอควร เพราะ น้องเต้ยที่ผมจำได้ ไม่ได้เป็นคนที่สวยมากถึงขนาดนี้นี่ และสิ่งที่ทำให้ผมต้องตกใจ ไม่ใช่เธอจะสวยผิดหูผิดตา เท่านั้น..หากแต่เป็นสแตนด์โชว์ ที่เป็นรูปคนที่เป็นฟรีเซนเตอร์ของสินค้าที่ตั้งโชว์อยู่ด้านหลังและห่างเธอไปพอควรนั้น เป็นรูปเธอนั้นเอง...

ใช่....มันทำให้ผมอึ้ง ก่อนจะเอ่ยร้องอย่างชี้นิ้วไปข้างหลัง ซึ่งทำให้หญิงสาวหันไปมอง และหันกลับมาเอ่ยกล่าวกับผม..

“อ้าว พี่กายไม่ได้มางานของเต้ยเหรอค่ะ?...” เธอเอ่ยเชิงถาม ด้วยท่าที งงๆ กับท่าทีของผม ซึ่งผมก็เอ่ยตอบอย่างตามตรง

“อือออ ไม่ได้มางานของเราหรอก...พี่แวะมานี่ เพราะเพิ่งทำธุระเสร็จ และกะหาอะไรกินก่อนกลับเนี่ยแหละ...” คำตอบของผม ก็ทำให้เธอมีสีหน้าที่ดูผิดหวังพอควร...

“อย่างงั้นเหรอค่ะ?...” เธอเอ่ยอย่างหน้าเศร้านิดๆ...

“แต่เราก็สวยขึ้นนะ สวยขึ้นจนพี่จำไม่ได้เลย..” ผมที่เห็นสีหน้าของเธอที่แสดงออกมานั้นก็เอ่ยชม ซึ่งนั้นไม่ได้เป็นคำชมที่เอ่ยส่งๆเพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้นหรอก หากแต่เธอดูหน้าตาดี และสวยมากขึ้นจริงๆ แน่นอนว่ามันได้ผล มันทำให้เธอมีท่าทียิ้มแย้มทันที...

“ขอบคุณค่ะ แต่ไหนๆเจอพี่กายแล้ว เต้นขอถามหน่อยค่ะ พี่กายได้รับจดหมายเต้ยบ้างมัย?..” หญิงสาวเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและเอ่ยถามต่อ ซึ่งมันก็ทำให้ผมนึกได้...

“ได้...เพราะช่วงแรกๆนะ เพราะเมื่อ 7 ปีก่อน พี่ก็ได้ย้ายบ้านอีกรอบนะ แล้วดันที่อยู่ของเราหายด้วย..” ผมที่เอ่ยตอบเธอไป ใช่สาเหตุที่ผมแยกจากเธอ ก็เพราะได้ย้ายบ้าน ไปอยู่ที่อื่น และไม่ได้ย้ายแค่ครั้งเดียว แต่ 2 ครั้ง ตอนที่ อายุ21 กับ ตอนอายุ 26และตอนย้าย ครั้งที่ 2 นั้นก็ทำที่อยู่ที่จดไว้หาย ยังทำจดหมายเก่าๆของเธอหายหมดด้วย...

“งั้นเหรอค่ะ..” เธอเอ่ย ด้วยสีหน้าที่ผมอธิบายไม่ถูก มันเป็นสีหน้าที่แสดงถึงความเศร้าและกับโล่งอก..และไม่ทันที่เธอจะเอ่ยอะไรต่อ มือถือของเธอก็ดังขึ้น...

“ผู้จัดการเรียกซะแล้ว...”เธอเอ่ยด้วยท่าทีสีหน้าบงบอกถึงความเสียดาย..ก่อนที่จะหันมามองผมและเอ่ยถาม..

“ตอนนี้พี่กายอยู่ที่ไหนค่ะ...” เธอหันหน้ากลับมาถามผม และเอ่ยถามอย่างจริงจัง ท่าทีนั้นก็ทำให้ผมเอ่ยบอกเธอออกไปอย่าง งงๆ ใช่ตอนนั้น งง แทนที่จะขอเบอร์โทรศัพท์กันมัน ไม่ง่ายหว่าเหรอ?...

“ที่xxxx........โอเคค่ะ แล้วเจอกันนะค่ะ พี่กาย..” เธอเอ่ยทวนที่อยู่ของผม ที่ได้เอ่ยบอกกับเธอไป ก่อนจะรำลา หันหลังพร้อมกับกดรับมือถือที่ดังอยู่นั้น และเดินเข้าไปที่งานที่ เธอเป็นฟรีเซนเตอร์ ท่ามกลางสายตาของผมที่จ้องมองอย่างอึ้งๆ เพราะไม่อยากเชื่อเลยว่า ผมจะมีคนรู้จัก เป็น ดารา นางแบบ ด้วย...

วันนั้นสิ่งแรกที่ผมทำหลังจากกลับมาถึงบ้านนั้น คือ การหาข้อมูล เกี่ยวกับ ตัวของ ‘เต้ย’ เพื่อนในสมัยเด็กของผม เพื่อนๆไม่ต้องสงสัยหรอก ว่าทำไมผมไม่รู้จักเธอ เพราะข่าวสาร ดาราในประเทศ ผมไม่ได้ติดตามนานแล้ว...อย่าว่าแต่ เต้ย ผมไม่รู้จักเลย 5 ท่านชายจตุ ที่ฮิตๆ กันนั้น ผมก็ยังไม่รู้จักเลย อย่าว่าแต่ท่านชายเลย แค่ แตงโม โดนัท ผมก็ไม่รู้เลยว่าพวกเธอหน้าตาเป็นไง รู้แค่ว่า เป็นนางเอกรุ่นใหม่ของช่องหลายสี ที่หน้าตาดีคนหนึ่งเอง...

พอหาข้อมูลเกี่ยวกับเธอ มันก็ทำให้ผมไม่ค่อยอยากเชื่อเลยว่า เด็กสาวที่ขี้กลัว ขี้แง๊ ติดผมเป็นแจ แถม เคยมี กระฝ้าที่หน้านั้น บัดนี้ได้กลายเป็น เนตไอดอล เป็น ดารา นางแบบ ชื่อดังที่วัยรุ่นพูดถึงคนหนึ่งไปแล้ว....ใช่..มันเป็นอะไรที่ผมไม่อยากเชื่อมากๆ....

ก่อนที่คืนนั้นผมจะฝันถึงเรื่องราวในอดีต เรื่องในสมัยเด็ก แถมเป็นวันแรกที่ได้รู้จักกับเต้ยด้วย ซึ่งย่าของเต้ยนั้นได้พามารู้จักกับผมและฝากฝั่งให้ผมช่วยดูแล เป็นเพื่อนเล่น ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาในวัยเยาว์ที่ชวนคิดถึงไม่น้อย..ไม่คิดเลยว่าการได้พบเจอเธอนั้น จะทำให้ผมฝันถึงช่วงเวลานั้น ทั้งๆที่ไม่เคยฝันถึงเลย....

โดยที่การฝันถึงนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ผมเอะใจเลยสักนิด ไม่สิ จริงๆแล้วต้องบอกว่า ผมควรจะเอะใจกับคำพูดสุดท้ายของเต้ยมากกว่านี้ซะหน่อย คำพูดที่บอกว่า ‘แล้วเจอกันนะค่ะ..’ ใช่ผมไม่ได้คิดอะไรกับถ้อยคำนี้เลย...

จนกระทั้ง 2 สัปดาห์ถัดมา...

“สวัสดีค่ะ พี่กาย...” ถ้อยคำทักทายที่เอ่ยอย่างยิ้มหวานแทบทันทีที่ ผมทำการเปิดประตูห้อง ในช่วงบ่ายของวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งตอนที่ผมจะเปิดประตูนั้น ผมก็ค่อนข้างสงสัยเหลือเกินว่า ใครมาหาผมในวันนี้ ตัด ตาล ทิ้งไป ได้เลย อาทิตย์นี้เธอไม่ว่างครับ..และพอเปิดประตูและเจอคำทักทายนั้นก็ทำให้ผมชะงักอย่างอึ้งๆ...

เมื่อคนที่มาหา เอ่ยทักทายอย่างยิ้มหวานนั้น คือ “เต้ย” หญิงสาววัย 24 ผมดำสั้น ร่างบางเล็ก ที่เป็นทั้ง เนตไอดอล นางแบบ ดารา ขวัญใจวัยรุ่น ในเวลานี้..

“ตะ เต้ย!!!” ผมที่เอ่ยอุทานทันทีที่เห็นเธอ อย่างท่าทีอึ้งๆทำอะไรไม่ถูก ส่วนเธอขานรับอย่างยิ้มหวาน..

“ค่ะ เต้ยเองค่ะ พี่กาย....”เธอเอ่ยตอบ และตอนนี่แหละ ที่ทำให้ผมถึงเข้าใจในถ้อยคำสุดท้ายของเธอ แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะมาหาผมถึงที่ห้อง บนคอนโดของผม!!

“วะ...วันนี้ ว่างเหรอ ถึงได้มาหาพี่นะ..” ผมร้องถาม และยังไม่อยากเชื่อว่าเธอมาหาผม และไอ้ผมก็คันปากอยากถามต่อเหลือเกิน อยากรู้ว่าเธอมาหา ผม ด้วยการท่องจำที่อยู่ โดยไม่ได้ทำการจดนั้นรึเปล่า?..แต่ก็ไม่ได้ถามข้อนี้ออกไป เพราะอะไรนะเหรอ สิ่งที่เอตอบมันทำให้ผมอึ้งมากๆนะสิ...

“ค่ะ วันนี้ว่าง แต่ ไม่ได้มาหาค่ะ ถ้าพูดให้ถูก คือ มาทักทายตามประสา เพื่อนบ้านห้องข้างเคียงค่ะ..” เธอตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนที่ผมจะชะงักและเอ่ยร้องลั่นด้วยความตกใจ....

“หา!!!!!!!...” ผมที่ส่งเสียงร้อง ขณะที่เธอก็ยิ้มหวานให้กับท่าทีนั้นของผม...

“พะ เพื่อนบ้านเหรอ?..” ผมเอ่ยกล่าวเชิงถาม และได้พาเต้ยเข้ามาในห้อง เพราะถ้าจะยืนคุยกันข้างนอก มันดูยังไงอยู่ แถมเธอก็ไม่ใช่คนธรรมดาด้วย ทางที่ดีให้คุยในห้องมันจะเป็นการดีสำหรับเธอ...และคำถามของผมนั้น ก็ทำให้เต้ยที่เดินนำหน้านั้นตอบสั้นๆ

“ค่ะ...” เธอตอบสั้นๆแบบน้ำเสียงชัดเจน.. แต่ผมก็ไม่อาจจะยอมรับคำตอบนั้นได้เท่าไร...เพราะเหมือนมีหลายอย่างประดั่งเข้ามา ถึงแม้จะจริงที่ พี่ห้องข้างๆ นั้นจะทำการประกาศขายห้อง...แต่มันบังเอิญไปรึเปล่า? ที่คนซื้อ เป็น “เธอ” คนนี้นะ....

“ที่นี้เราก็อยู่ใกล้กันอีกครั้งแล้วนะ พี่กาย...” เธอเอ่ยต่ออย่างหันมามองผมอย่างยิ้มหวาน ซึ่งมันก็ทำให้ผมไม่รู้จะพูดไงดี ถึงแม้ มันจะจริงดั่งที่เธอพูดก็เถอะ เพราะเมื่อก่อนเราอยู่บ้านใกล้กัน เธอมาหาที่บ้านผมบ่อยครั้ง เพราะติดผมแจ เหมือนพี่ชายจริงๆของเธอก็ไม่ป่าน...

“เดี๋ยวพี่ไปหยิบน้ำมาให้ทานนะ...” ผมที่เอ่ยเชิงบอกเธอ ซึ่งเธอก็พยักหน้าอย่างรับรู้ จริงๆผมไม่ได้แค่ไปหยิบน้ำเท่านั้น แต่ไปตั้งหลัก ตั้งสติกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ แค่รู้ว่า มีคนรู้จัก เป็น เนตไอดอล /ดารา/ นางแบบ มันก็ทำให้ผมอึ้งจนไม่อยากเชื่อ พออยู่แล้ว...ใครจะไปคิดว่าหล่อนจะเล่นมาหาผมถึงบ้านแบบนี้ด้วย...

“ขอบคุณค่ะ...” เธอเอ่ยพร้อมกับรับแก้วน้ำที่ผมทำมาให้นั้น โดยที่ผมนั้นก็ไม่ได้สังเกตเลยว่า เธอนั้นได้จ้องมองผมอยู่ ที่ไม่ได้สังเกตนั้น เพราะระงับความตื่นเต้น ของตนเองอยู่นั้นเอง...

‘เป็นบ้าอะไรของเราวะ ก็แค่ เต้ย น้องสาวตัวเล็กของเราเองไม่ใช่เหรอไง..’ ผมเอ่ยต่อว่าตัวเองที่รู้สึกตื่นเต้นอย่างรุนแรงแบบนั้น แต่ไม่ใช่ว่า ผมจะไม่เข้าใจตัวเองนะ ใช่เข้าใจ และไม่แปลกใจหรอกที่ตัวผมจะตื่นเต้น ก็ คนรู้จักที่เหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่งนั้น ที่ไม่ได้เจอกันนาน มาเจอกันอีกที ก็ได้กลายเป็นสาวสวย หุ่นดี แถมมีชื่อเสียงอีก...

และสิ่งที่ทำให้ผมยิ่งตื่นเต้นนั้น มิได้ มีแค่เรื่องพวกนั้น หากแต่ยังมีเรื่องเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ด้วย...

ใช่...ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า เต้ย มาหาผมด้วย ชุดลำลองอยู่บ้านแบบสบายๆ อย่างชุดเสื้อกล้ามสีหวาน กับกางเกงขาสั้นสุดๆ ชนิดที่เผยเรียวขาทั้งหมดของเธอเลย...โดยที่ผมเชื่อสุดใจเลยว่า ถ้าใครมาเห็นน้องเต้ยในเวลานี้ ถ้าไม่หื่น เฮ้ย ไม่ตื่นเต้น ผมยินดีให้เตะเลย...

แต่จะว่าไป ถ้าผมสังเกตชุดของเธอตั้งแต่แรก ผมก็คงไม่ถามเธอแน่ ว่า มาหาผมเหรอ? เพราะคงไม่มีใครกล้าใส่ชุดนี้ออกจากบ้านแน่ๆ...และในขณะที่ผมกำลังคิดอย่างระงับความฟุ้งซ่านของตนเองนั้น เต้ยที่ไม่รู้ว่าลุกขึ้นตั้งแต่ตอนไหน และได้เดินเข้ามา ก่อนจะทำการลงนั่งที่ตักของผม...

“!!!!...” ผมที่ตกใจถึงกับสะดุ้งเฮือก กับการกระทำของเธอ ที่ลงมาที่ตักของผมนั้น แน่นอนว่า ทำเอาผมพูดอะไรไม่ออก ขณะที่เต้ย กลับมีท่าทีต่างจากผมสิ้นเชิง...

“ไม่ได้ทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว รู้สึกคิดถึงจังเลยค่ะ..” เธอเอ่ยเชิงบอก อย่างไม่ได้คิดอะไร แถมยังเอนกายเข้ามาพิงยังร่างของผมอีกด้วย...ขณะที่ผมนั้นก็ได้แต่มองและเอ่ยตอบรับสั้นๆ...

“อะ อืมมมม..” ผมตอบ ด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เริ่มแปรป่วน ถึงแม้ผมจะพอเข้าใจในการกระทำของเธอ จากถ้อยคำเมื่อครู่ เพราะตอนเด็กๆตักของผมก็เหมือนที่นั่งส่วนตัวของเธอก็ไม่ป่าน หรือ พูดให้ถูก คือ เธอชอบมานั่งตักผมนั้นเอง..

ถึงผมพอเข้าใจ...แต่ก็อย่าคัดค้าน ต่อว่า การกระทำนี้ของเธอจริงๆ ซึ่งเธอจะรู้ จะเข้าใจมัยนะว่า ทุกอย่างมันไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วนะ การมานั่งตักผู้ชายแบบนี้มัน...ดูไม่งามเท่าไร ใช่ผมน่าจะบอก น่าเตือนเธอ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกไป เพราะ ถ้าพูดหรือ เตือน ก็ไม่แคล้ว มีสิทธิ์อาจจะโดนเข้าใจว่าเป็นคนลามกก็ได้...

แต่ถ้าไม่บอก ผมอาจจะคลั่งตาย ก่อนก็ได้ จากความรู้สึกที่ถูกสะโพกนุ่มๆทับอยู่นั้น...

“จะว่าไปห้องพี่กายนี่ สวยจังเลยนะ ห้องของเต้ยยังรกอยู่เลย..” เต้ยที่เอ่ย พร้อมกับหันมองซ้ายขวา อย่างมองสำรวจห้องของผม และด้วยความที่เธอไม่นั่งนิ่งๆนี่แหละ ทำให้ผมอยากบ้าตายเพราะขยับแต่ละครั้ง มันเหมือนสะโพกของเธอกำลังบดคลึงควยผมอยู่...

‘อย่าลุกนะลูก อย่าลุก...’ ผมเอ่ยในใจ และพยายามสงบสติอารมณ์ เพื่อ ไม่ให้น้องชายตัวดีผมตื่นลุกขึ้นสู้...ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ยากมากๆ ใช่...ห้ามมันไม่ได้เลย ได้แต่หวังว่า เต้ยจะไม่รู้สึกถึงการตื่นของมันนะ...ไม่งั้นผม อาจจะโดนเธอด่าได้...

“แล้วเราย้ายมาเมื่อไรละ..” ผมที่ฝืนเอ่ยถาม โดยหมายกะให้การพูดคุยนั้น เป็นตัวทำให้ลืมความปั่นป่วนนี้ได้...แต่มันกลับให้ผลตรงกันข้าม...

“สักอาทิตย์ได้แล้วค่ะ แต่ไม่มีเวลาว่างที่จะมาทัก หรือ จัดห้องเลย..” เธอหันมา เอ่ยตอบ และคำตอบของเธอก็ทำให้ผม นึกอะไรขึ้นมาได้ ใช่ จะว่าไป เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตาลที่มาหาผมนั้น ก็ถามผมเหมือนกันว่า ข้างห้องผมมีคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เหรอ? แน่นอนว่า ผมก็ตอบ ตาลไปว่า ‘ไม่ทราบ รู้แค่ว่า พี่ที่อยู่ เค้าตั้งขายมานานแล้ว..’

“อะ อืมมมม แล้วคุณย่าภา ยังสบายดีมัย?...” ผมที่เอ่ยเชิงถามหมายชวนคุยกับเธอ แต่ดูเหมือนผมจะเลือกคำถามที่แย่มากๆ

“คุณย่า...ท่าน เสียไปได้ 2 ปีแล้วค่ะ พี่กาย...” คำตอบของเธอที่เอ่ยอย่างเรียบๆก็ทำให้ผมนั้นแทบอยากตบปากตัวเองที่ดันถามอะไรไม่เข้าท่า แถม จะว่าไป ข้อมูลใน เนต ที่ผมหาเมื่อวันที่เจอเธอในวันนั้น ก็รู้สึกมีบอกเรื่องนี้อยู่นะ...

“ขอโทษนะ ที่ดันถามอะไรไม่เข้าท่านะ..”ผมเอ่ยตอบกลับด้วยท่าทีที่รู้สึกแย่ อย่างแทบจะตบปากตัวเองเลยก็ว่าได้....

“อือออ ไม่เป็นไรค่ะ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดค่ะ ...” เต้ยที่เอ่ยตอบกลับ อย่างไม่ถือสา ก่อนที่จะชวนผมพูดคุย ถึงเรื่องราวในอดีต พร้อมกับเล่าอีกหลายเรื่อง หลังจากที่ผมได้ย้ายออกไปจากที่นั้น และ 1 ในเรื่องนั้น ก็คือ หมาจรจัดที่ผมกับเธอได้ช่วยกันเลี้ยงดูมันเอาไว้..

“อย่างงั้นเหรอ?...” ผมที่เอ่ยอย่างเศร้าๆ หลังจากที่ เต้ยได้ ได้เล่า เรื่องของ ไอ้ดำ สุนัขจรจัดที่ผมกับเต้ยช่วยกันเลี้ยงมัน มาตั้งแต่เป็นลูกหมานั้น ซึ่งมันก็ทำให้รู้สึกแย่ ตรงที่เธอบอกกับผมว่า มันมีท่าทีเหงา และ รอคอยผมทุกวัน ทันที หลังจากที่ผมได้ย้ายออกไป และเหมือนรอคอย การมาของผมตลอดเวลาด้วย...

ที่แย่สุดๆคือ มันได้ตาย หลังจากที่ผมย้ายออกไปได้ 2 ปี..เพราะถูกรถชนตาย..

“พี่กายค่ะ?..” เต้ยที่เอ่ยเรียกผม และขยับกายอย่างเอนลงนอน เมื่อผมมีท่าทีนิ่งไปครู่ใหญ่ หลังจากได้ฟังเรื่องดั่งกล่าว ซึ่งการเอ่ยเรียกของเธอนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด และเธอก็ไม่ได้ใช่เพียงแค่การเอ่ยเรียกเท่านั้น ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า เต้ยรู้ตัวรึเปล่านะ ว่าการเอนกายลงมาพิงผมแทบจะล้มลงนอนนั้น มันทำให้ ตัวของเธอยืดขึ้นและเสื้อกล้ามที่เธอสวมใส่นั้นก็รัดตึงจนเน้นหน้าอกของเธออย่างชัดเจน จนเห็นเม็ดเล็กๆบางอย่างที่นู่นๆออกมาด้วย...

ถึงแม้ ผมจะหันไปมองเธอ และเหลือบเห็น จุดนู่นๆ 2 เม็ดนั้นก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมดีขึ้นเลย ขนาด มี Service ขนาดนั้นแล้วแท้ๆ...เพราะในหัวของผมตอนนี้ มันมีแต่อารมณ์ เศร้าอย่างรู้สึกผิด ต่อไอ้ดำ อย่างค่อนข้างมากอยู่... ยิ่งคิดว่าช่วงวาระสุดท้ายของมัน มันคงอาจจะอยาก เจอกับผมมากที่สุดก็ได้...ยิ่งทำให้ผมยิ่งเศร้าหนักเลย...

‘ทำไมตอนนั้น ถึงไม่เคยมีความคิดจะไปเยี่ยมมัน มังนะ? ด้วยความ เป็นเด็กจึงลืมอะไรง่ายๆเหรอ? หรือ วางใจว่า มีเต้ย
อยู่?..’ ผมคิดและค่อนข้างรู้สึกผิดไม่น้อย โดยไม่ทันสังเกตมองเลยว่า เต้ยนั้นก็จับจ้องมองดูท่าทีของผมแทบตลอดเวลา

“ขะ ขอโทษนะค่ะ ที่เล่า เรื่องไอ้ดำจนทำให้พี่กาย เศร้าแบบนี้นะ..” เต้ยที่ขยับอย่างค่อยๆลุกขึ้นและหันมาหาผมแบบเต็มตัว ซึ่งผมก็แหงกหน้ามองเธอและเอ่ยตอบ..

“ไม่หรอก เต้ย จะว่าไป พี่เองก็อยากรู้เรื่องของมันเหมือนกัน จะช้า จะเร็ว พี่ก็คงถามเรื่องไอ้ดำกับมันเหมือนกัน..” ผมเอ่ยตอบ อย่างมองหน้าของเต้ยเล็กน้อย และก็กลับไปก้มหน้าอีกรอบ อย่างรู้สึกผิดอยู่...โดยที่เต้ยนั้นก็จ้องมองผม ก่อนจะเอ่ย

“งั้นเต้ย มีอีกเรื่องที่จะบอกพี่กายค่ะ และเชื่อว่าพี่กายต้องรู้สึกดีขึ้นแน่ๆค่ะ...” คำกล่าวของเธอที่ทำให้ผม ค่อยๆแหงกหน้าเงยหน้าขึ้น เพื่อมองเธอ และทันทีที่ เงยหน้าขึ้น เธอก็ได้ขยับใบหน้า เข้าจูบยังที่ปากของผม และทำการเอ่ยบอก เมื่อได้ถอนริมฝีปากออกไป...

“เต้ย รัก พี่กายค่ะ..” ถ้อยคำนั้นที่ทำให้ทุกอย่างของผมแทบหยุดนิ่งไปไม่รู้กี่วินาที ก่อนจะเอ่ยร้องด้วยความตกใจ

“หะ หา!!!!...” ผมเอ่ยร้องด้วยท่าทีที่ตกใจ และ งุง งง อย่างสุดๆ...ขณะที่ตัวของหญิงสาวนั้นก็ยังจ้องมองและยิ้มน้อยๆด้วยสีหน้าระเรือแดง...

“รัก...รักมานานแล้วด้วย ตั้งแต่สมัยเด็กๆเลยด้วย ถึงขั้นตั้งใจจะแต่งงานเลยด้วยละ..” เต้ยที่เอ่ยกล่าวต่อ ด้วยสีหน้าที่ระเรือแดงอย่างเขินอายนั้น..ขณะที่ผมก็ยังคงอึ้งและอึ้งมากขึ้น ให้กับประโยคที่น่าจะมีเพียงแค่ในการ์ตูนเท่านั้น...

“ฉะนั้นเป็นแฟนเต้ยนะค่ะ พี่กาย..” เธอเอ่ยกล่าวต่อ ด้วยท่าทีที่จริงจังมากขึ้น ขณะที่ผมก็ยังคงทำอะไรไม่ถูก...

“ดะ เดี๋ยวสิ...” ผมที่เอ่ยร้อง กับการสารภาพและรุกใส่ อย่างสายฟ้าแลบของเธอนั้น..ซึ่งเต้ยก็ชะงักและมองเล็กน้อย ก่อนจะร้องถาม...

“พี่กายมีแฟนแล้วเหรอค่ะ?...” เธอร้องถามขึ้น คงเพราะผมเอ่ยร้อง “เดี๋ยว” ด้วยละมัง แน่นอนว่าคำถามของเธอก็ทำให้ผมตอบไม่ถูก ครั้นจะบอกว่า มี มันก็ไม่เชิง เพราะความสัมพันธ์ของผมกับตาลนั้น ยังไม่สามารถเรียกว่าแฟน ได้เต็มปาก เธอก็ยังไม่ได้เลิกกับแฟนเก่า ผมก็เป็นเพียงแค่ คนที่เธอกำลังคบด้วย หรือ อาจจะเป็นทางเลือกทางหนึ่งเท่านั้น..(ถ้าพูดถึงสถานะของผมที่เป็นกับตาลนั้นก็คงราวๆนี้แหละ..)

“ยัง..ยังไม่มี...มีแต่คนที่กำลังคบหาดูใจอยู่ แต่ยังไม่ถึงขั้นนั้น...” ผมตอบไปตามตรง ซึ่งคำตอบของผมก็ทำให้ เต้ย เนตไอดอล ดารา/นางแบบแสนสวยนั้น ชะงักเล็กน้อย และเหมือนเธอจะพึมพำอย่างทวนกับคำตอบของผมอยู่...

“แค่คบกัน? แต่ยังไม่ได้เป็นแฟน?..” เธอเอ่ยทวนและนิ่งไป แวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยกล่าวต่อ ด้วยสีหน้าท่าทีที่ดูจริงจังมากขึ้น

“งั้นหมายความว่า เต้ยก็ยังมีสิทธิ์สินะค่ะ..” ถ้อยคำที่เอ่ยต่อของเธอนั้น ก็ทำให้ผมอึ้งอย่างตาโต อย่างไม่คิดเลยว่าคำกล่าวตอบของเธอจะออกมาในรูปนี้ และที่สำคัญเธอขยับเข้าทำการจูบปากของผมซ้ำอีกครั้งทันทีที่ เอ่ยกล่าวจบ..

“อะ อือออออออออ...อือออออออออ...” เสียงครางในลำคอของผมกับเธอที่เอ่ยร้องขึ้น โดยที่การจูบซ้ำครั้งที่ 2 นั้นมันเป็นอะไรที่ต่างจากครั้งแรกมากๆ เธอที่กดริมฝีปากเข้าสัมผัสกับริมฝีปากของผมอย่างแนบแน่นมากขึ้น...แถมมิได้แค่กดริมฝีปากอย่างหนักหน่วงมากขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น..

หากแต่.....

“!!! อะ อืออออออออ..” ผมที่เอ่ยร้องด้วยความตกใจหน่อยๆ เมื่อรู้สึกลิ้นเรียวๆของเธอที่ได้ค่อยๆสอดใส่เข้าไปในปากของผม..ใช่ ได้สอดใส่และสัมผัสกับลิ้นของผม ซึ่งเธอก็ตวัดลิ้นเข้าสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆถอนริมฝีปากออก ซึ่งใบหน้าสวยๆของเธอนั้นก็แดงก่ำกว่าเดิม...

เต้ยที่จ้องมองผมด้วยใบหน้าที่เขินอาย และหอบคราง...ส่วนผมนั้นก็จ้องมองเธอตอบเช่นกัน โดยที่ความรู้สึกของผมในเวลานี้มันค่อนข้างปั่นป่วนมากๆ และก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไรดีด้วย...ใช่ ไม่รู้ว่าจะจัดการ และก็ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรกับผมต่อ...

แต่แล้วความตึงเครียดนั้น ก็พังทลายด้วยถ้อยคำของเต้ยเอง....

“ถึงตรงนี้แล้ว เต้ยควรทำไงต่อค่ะ?..” คำกล่าวเชิงถามของเธอก็เล่นทำให้ผมที่กำลังเครียดๆนั้น ต้องสะดุดชะงัก กึก กันเลยทีเดียว..แถมเธอเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่จริงจังสุดๆด้วย ก่อนที่เธอจะเอ่ยพึมพำกับตนเอง.. ซึ่งผมก็พอได้ยินสิ่งที่เธอเอ่ยบ่นนั้นด้วย...

“ถ้าเป็นละครส่วนใหญ่ พอจูบแล้ว ก็จะตัดไปนี่นะ.... ” ถ้อยคำที่เธอเอ่ยนั้นก็แทบทำให้ผมเหงื่อตก อย่างไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี…

‘ที่พูด ที่บ่นเมื่อกี้ มันมุข หรือ พูดจริงๆเนี่ย!!!’ ผมคิดอย่างอยากขำ แต่ก็ขำไม่ออก เพราะสีหน้าของเต้ยนั้นดูจริงจังมากๆ ใช่ ดูท่าเธอจริงจังจะรุกผมมากๆเลย...แต่ติดขัดที่ เธอไม่เคย? ไร้ประสบการณ์งั้นเหรอ?...

ก่อนที่ไม่กี่อึดใจเธอก็เอ่ยโพล่งขึ้น เหมือนนึกขั้นตอนต่อไปได้แล้ว....

“ใช่แล้วค่ะ!! ถอดกางเกงออกค่ะ พี่กาย..ถอดกางเกงออก..” เต้ยทีเอ่ยโพล่งขึ้น และขยับร่าง และมือไม้หมายจะจัดการถอดกางเกงผมอย่างทันที ซึ่งนั้นก็ทำให้ผมสะดุ้งโหยงอย่างตกใจให้กับคำกล่าวโพล่งอย่างเสียงดังที่อยู่ๆ ได้เอ่ยออกมานั้น

“ฮะ เฮ้ยยย เดี๋ยว...” ผมที่เอ่ยร้องและพยายามขัดขืน แต่ด้วยเหตุสุดวิสัย และไม่รู้ผมขัดขืนอีกท่าไหน เต้ยก็ตกจากการคร่อมยังที่ร่างของผม ลงไปนั่งที่พื้น แต่เธอไม่ได้ตกไปเปล่าๆ แต่ไปพร้อมกับกางเกงของผมที่อยู่ในมือของเธอด้วย!!

“ปะ เป็นอะไรรึเปล่า..” ผมเอ่ยร้องถาม อย่างตกใจและเป็นห่วง โดยที่ตอนนั้นลืมและไม่สนเรื่องกางเกงไปเลย...

“อูยยยยย มะ ไม่ค่ะ..” เต้ยที่ส่งเสียงตอบและ สูดปากร้องด้วยความเจ็บนิดๆกับสะโพกที่กระแทกกับพื้นอย่างเต็มแรงนั้น ซึ่งพอเธอตอบจบและแหงกเงยหน้ามามองผม ก็ต้องชะงักอย่างตาโตอ้าปากหวออย่างทันที...

ขณะที่ผมก็ งง กับท่าทีของเธอเล็กน้อย ก่อนจะเข้าใจว่า สิ่งที่ทำให้ เต้ยมีท่าทีเช่นนั้น ก็คือ ท่อนเอ็นของผมนั้นเอง ใช่ ท่อนเอ็นของผมที่ได้เผยอยู่ตรงหน้าของเธออย่างแข็งโด่แบบเต็มขั้น...

“......หะ ใหญ่จัง...” เต้ยที่เอ่ยรำพึง อย่างจับจ้องมองควยของผม อย่างไม่ละสายตาไปจากมันเลย แถมดูเหมือนเธอจะหลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึกอีกด้วย... ส่วนตัวผมเองก็อายไม่น้อยเหมือนกัน กับสภาพที่เป็นอยู่ แต่พริบตานั้นเองที่ทำให้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้ และมันเป็นทางออกสำหรับสถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้มันจะทำให้เต้ยเกลียดผมไปตลอดการณ์ก็ตาม

“ดูดควยของพี่สิ...” ผมที่เอ่ยพร้อมกับขยับกายอย่างเดินเข้าไปหาเต้ยที่นั่งที่พื้น อย่างเอาควยไปจ่อใกล้ตรงหน้าของเธอนั้น ถ้อยคำดั่งกล่าวของผม ก็ทำให้เธอดูตกตอตกใจไม่น้อย...ก่อนที่ผมจะเอ่ยอธิบาย..

“ก็ถามพี่เองไม่ใช่เหรอ? ว่าควรทำไงต่อ..” ผมเอ่ยเชิงอธิบาย ซึ่ง เต้ยก็พอมีท่าทีเข้าใจ และยังรู้สึกตื่นตากับท่อนควยของผมเอามากๆ แถมตัวของผมเองก็รุกไล่เธอด้วยการขยับควยเข้าไปจ่อปากสวยๆของเธอ หลังเอ่ยถ้อยคำนั้นจบได้สักแป๊บ ซึ่งผมเองก็หวั่นๆกับการกระทำนั้นอยู่เหมือนกัน เกิดเต้ยจัดการงับปลายหัวควยผมขึ้นมานี่..จะทำไงดีนะ?..

ใช่...ผมก็กังวลอยู่เหมือนกัน แต่เพราะสิ่งที่ผมตอนนี้ คือต้องการให้เธอเตลิดหนีผมออกไปจากห้องนี้ ส่วนเรื่องนี้มันจะทำให้เธอโกรธ และ เกลียดจนไม่ยอมพูดอะไรกับผมนั้น เรื่องพวกนั้นเอาไว้ทีหลัง...วินาทีนี้ผมคาดหวังกับผลลัพธ์นั้นมากๆ

แต่สิ่งที่ออกนั้น กลับไม่ใช่อย่างที่ผมต้องการ!!

“อะ อืออออออ...” เสียงครางเบาๆของเต้ยที่เอ่ยร้องขึ้น พร้อมกับค่อยๆตวัดลิ้นออกมาอย่างทำการเลียยังปลายหัวควยของผม หลังจากที่เธอทำการจ้องมองอย่างชั่งใจอยู่แวบหนึ่งนั้น และการกระทำนั้นก็ทำให้ผมถึงกับอึ้ง และเอ่ยร้องในใจทันที

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย!!!...ผมที่ร้องในใจ อย่างตัวแข็งแทบทำอะไรไม่ถูกกับผลลัพธ์ที่ออกมานั้น ทั้งที่ผมให้เธอเอ่ยร้อง และวิ่งออกไป...แต่มันทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ละ?..ผมคิดและจ้องมองดูการกระทำของเธออย่างทำอะไรไม่ถูก..

“อะ อือออออ อือออออออ อือออออออ” เสียงครางเบาๆของเต้ยที่ค่อยๆเอ่ยร้อง ขณะทำการใช้ลิ้นเข้าโลมเลียยังท่อนควยของผมอย่างไปมา โดยเริ่มจากการเลียที่ปลายหัวควยของผมอย่างไปมา ใช่ ลิ้นของเธอค่อยๆแตะเลียขึ้นๆลงๆ ยังที่ปลายหัวควยที่มีลักษณะอย่างดอกเห็ดนั้น...

ก่อนที่จะขยับเลียวนรอบๆข้างหัวควยอย่างเป็นวงกลม..และค่อยลากลิ้นเลียไปตามความยาวของท่อนเอ็นนั้น...

“ตะ เต้ย...” เมที่เอ่ยเรียกอย่างเบาๆ ด้วยน้ำเสียงและสายตาที่ไม่อยากเชื่อ ว่า ผลลัพธ์ที่คาดไว้มันจะกลายเป็นคนละอย่างไปเสียแล้ว และไม่กี่อึดใจผมก็ต้องตกใจและสะท้านมากขึ้น เมื่อเธอได้ ทำการดูดอมท่อนควยของผม...

“อูยยยยยยยย...” ผมร้องอย่างสะท้าน ขณะที่เต้ยนั้นก็ค่อยๆขยับปากเข้าทำการดูดอมควยของผมอย่างไปมา ด้วยสีหน้าระเรือแดง โดยที่ลีลาของเธอนั้นก็หาได้ลื่นไหล แต่อย่างใดไม่ ออกจะมีท่าที ติดๆขัดๆ เหมือนคนไม่เคย แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด....ถึงจะบอกว่าท่าทีของเธอไม่เคย แต่ลีลาที่เธอขยับนั้นมันใช้ได้เลย ถ้าไม่เคยดูดมาก่อน ก็คงไปลักจำที่ไหนมาแน่ๆ

และแน่นอนว่ามันอาจจะดูขัดแย้งและขัดกับเมื่อครู่ที่เธอบอกกับผมว่า ‘ควรทำไงต่อดี...’

“ตะ เต้ยยยยย...” ผมที่เอ่ยเรียกเธออย่างเสียงดัง ด้วยความเสียว และนั้นก็ทำให้เธอหยุดสิ่งที่กระทำอยู่...

“ค่ะ พี่กาย..” เต้ยสาวสวยผมสั้นนั้น ก็ได้หยุดสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ และขานรับ อย่างแหงกหน้าเงยขึ้นมองผม โดยที่ใบหน้าสวยๆนั้นก็อยู่ใต้ท่อนเอ็นของผม...หรือพูดให้เข้าใจคือ ควยของผมยังคงพาดอยู่บนหน้าของเธอนั้นเอง...

“เต้ยทำอะไรผิดรึเปล่า?ค่ะ..” เธอเอ่ยถาม ซึ่งผมก็ดันเผลอตอบไปอย่างพาซื่อ...

“มะ ไม่...”

“งั้นเต้ยขอทำต่อนะ..” เธอตอบ พร้อมกับขยับใบหน้าอย่างลงต่ำ เพื่อทำการเลียยังที่พวงไข่ของผม ซึ่งทั้งคำตอบและการกระทำของเธอก็ทำให้ผมต้องตกใจอย่างทำอะไรไม่ถูก...

“ดะ เดี๋ยวไม่ใช่ อย่างงั้น..” ผมเอ่ยร้องบอก แต่เสียงที่เอ่ยนั้นก็ค่อนข้างเบาซะเหลือเกิน ประหนึ่งว่าผมเองก็ไม่อยากจะให้เธอหยุดการกระทำนั้นเสียเท่าไร ขณะที่เต้ยนั้นก็เข้าทำการดูดไข่ทั้ง 2 อย่างไปมา ซึ่งเธอก็ดูดไข่ไปเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะวกกลับมาเล่นที่ปลายหัวของผม ซึ่งคราวนี้แทบทำให้ผมนั้นคลุ้มคลั่ง เพราะเธอเล่นดูดอย่างเน้นๆนั้นเอง...

“ตะ เต้ยยยย..” ผมเอ่ยร้องเรียกชื่อของเธอ เมื่อถูกเธอดูดยังช่วงปลายหัวอย่างเน้นๆ เสียงดูดที่ดังจ๊วบๆ...ซึ่งมันก็ทำให้ผมต้องยืนตัวตรงเกร็งด้วยความเสียวสชนิด แทบตัวลอยเลยก็ว่าได้...ก่อนที่เต้ยจะขยับริมฝีปากเข้าทำการดูดอมท่อนควยของผมอีกครั้ง และวินาทีนั้นเองที่ความอดทนของผมนั้นได้หมดลง หรือ ต้องพูดว่า ได้ขาดสะบั่นลงมากกว่า...ผมขยับมือไม้เข้าควส้าจับยังศีรษะของเต้ย และแย่งการควบคุมในการดูดอมควยนั้นมาจากเธอ

ใช่...จากที่เธอเคยดูดอม ก็กลายเป็นว่าเธอกำลังถูกผมรั่วควยเย็ดใส่ปากแทน....

“อะ...อื้ออออออ!!! อืออออออออ อือออออออออ..”เสียงครางของเต้ยที่เอ่ยร้องขึ้นด้วยความตกใจ กับการกระทำของผม ก่อนที่จะต้องทนรับการกระทำนั้นของผม แต่ผมก็ไม่ได้รั่วเย็ดปากของเธอนานอะไรเท่าไร แค่รั่วท่อนเอ็นอัดใส่ปากของเธอเพียงแค่ 1 ชุด ราวๆ 10-15 ทีเท่านั้น ผมก็สบคำรามดังออกมาอย่างถึงจุดหมาย...

“อัคคคคคคคคคคค...” ผมที่แหงกหน้าเอ่ยร้องอย่างเสียงดัง พร้อมกับกดศีรษะของเต้ย ให้ดูดอมควยของผมอย่างสุดๆ ชนิดที่ใบหน้าของเธอนั้น เข้าแนบ เข้าชิดยังโค่นควยของผมเลย...และด้วยความที่ผมแหงกหน้าอยู่นั้นจึงไม่ได้ทำให้เห็นสีหน้าท่าทีของเต้ย ในที่โดนน้ำควยราดเข้าใส่ปากอย่างเต็มๆนั้น...

“อูยยยยยยยย” ผมที่เอ่ยร้องด้วยความรู้สึกที่เสียวสุข ใบหน้าที่ยังคงแหงกขึ้นบนฟ้า อย่างมีความสุขอย่างสุดๆ ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง และบางอย่างที่ว่านั้นก็ทำให้ผมรู้สึกตกใจพอควร เมื่อเต้ยได้ขยับริมฝีปาก เข้าทำการกลืนกินน้ำควยที่มีอยู่เต็มปากนั้นลงคอลงท้องไป...

ผมที่ค่อยๆก้มลงไปมองทันทีที่รู้สึกเช่นนั้น พร้อมกับขยับมือไม้ออกจากศีรษะของเต้ย แต่เต้ยนั้นก็ยังคงคาบอมท่อนควยของผม และทำการดูดดื่มน้ำควยของผมอยู่สักแป๊บ ก่อนจะค่อยๆขยับปากออกจากท่อนเอ็นของผม...ซึ่งทันทีที่ถอนปากออกจากควยของผม เต้ย ก็มีท่าทีทั้งหอบ ทั้งไอ สำลักนิดๆ....

“ตะ เต้ย พะ...พี่..ขอโทษ...” ผมเอ่ยร้องบอก กับสิ่งที่ทำกับเธอเมื่อกี้ ซึ่งเธอก็แหงกหน้าขึ้นมามองผม และเอ่ยตอบ...

“แฮ่ก...ไม่เป็นไรค่ะ แต่รสชาติน้ำควยของพี่กายเนี่ย มันอร่อยกว่าที่คิดอีกนะค่ะ..” คำกล่าวตอบอย่างหอบเนื่อยของเธอก็ทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกเลย ทั้งคำตอบ ทั้งใบหน้าที่ยิ้มหวาน ยิ้มสวย ด้วย ด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ อย่างมีน้ำควยเยิ้มที่มุมปากเล็กๆนั้น...

ผมที่ไม่รู้จะพูด หรือ ทำอะไรต่อ ก็ได้แต่เกาหัว และขยับถอยกลับไปลงนั่งที่โซฟา ด้วยความเหนื่อย...ขณะที่ผมครุ่นคิดถึงทางออกอยู่นั้น ก็เหมือนเห็น เต้ยขยับร่างลุกขึ้นยืน ใช่เหมือนเป็นเธอขยับลุกขึ้น..ก่อนเธอจะร้องเรียกผม..

“พี่กายค่ะ...” ถ้อยคำที่เอ่ยเรียกของเธอนั้น ก็ทำให้ผม หันกลับไปมอง ก่อนจะต้องตกใจ เมื่อเธอนั้นไม่ได้ลุกขึ้นยืนเฉยๆ หากแต่ยังแก้ผ้าออกจนหมดอีกต่างหาก...

“ตาพี่กายทำให้เต้ยบ้างแล้วนะค่ะ...” เธอเอ่ย ด้วยแววตาที่จับจ้องมองผม อย่างผ่อนลมหายใจเบาๆออกมา ด้วยท่าทีที่บงบอกถึงความต้องการที่ล้นเหลือ และทันทีที่เธอเอ่ยจบ เต้ยก็ทำการทิ้งเสื้อกล้ามที่อยู่ในมือนั้นลงกับพื้นทันที พร้อมกับขยับเดินเข้ามาหาผมด้วยร่างที่เปลือยเปล่าอย่างหมดจดนั้น...

โดยที่ผมก็เหมือนถูกต้องด้วยมนตราก็ไม่ป่าน เอาแต่จ้องมองเรือนร่างของเธออย่างตาโตและไม่อาจจะละสายตาได้ ร่างอรชรอันขาวนวลที่ มีทรวดทรงที่เข้ารูป กับร่างเล็กๆนั้นได้อย่างหมดจดพอดี...

“ทำตามใจ เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ..” เต้ยเอ่ยกล่าวต่อ ด้วยน้ำเสียงสั่นๆที่แฝงไปด้วยความเขินอายนิดๆ ซึ่งเธอได้เอ่ยถ้อยคำนั้น เมื่อได้ขยับขึ้นมาคร่อมยังบนร่างของผมที่นั่งอยู่บนโซฟานั้น..แถมไม่ได้เอ่ยกล่าวธรรมดาเท่านั้น หากแต่ยื่นปทุมถั่นข้างหนึ่ง เข้าจ่อยังที่ปากของผมอีกด้วย ประหนึ่งเหมือนเป็นการเอาคืนผมกลายๆ...

และด้วยความที่ปทุมถั่นสีสวยจ่อที่ปาก..บวกกับกลิ่นกายหอมๆที่มีทั้งกลิ่นกายและกลิ่นสบู่นั้น มันก็ทำให้ผมแทบไม่สนอะไรอีกแล้ว ใช่...ถ้าสภาพแบบนี้ยังทนต่อไปได้ ผมคงต้องไปบวชพระ ไม่ก็ คงต้องเป็นเกย์แหงๆ..

“อะ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!..”เสียงครางยาวของเต้ยที่เอ่ยร้องลั่น ด้วยใบหน้าที่แหงกหน้าเงยขึ้นมองที่เพดาน อย่างสะดุ้งสะท้าน จากริมฝีปากของผมที่ได้เข้าทำการดูดยังปทุมถั่นที่ยื่นจ่อยังที่ปากของผมนั้น ซึ่งผมก็มิได้แค่ทำการดูดปทุมถั่น หรือ หัวนม ข้างนั้นของเต้ย เพียงอย่างเดียว หากแต่ขยับมือไม้เข้าสวมกอดยังร่างอันบอกบางที่เข้าคร่อมอยู่บนร่างของผมในเวลานี้อีกด้วย...

“อะ อือออออออ อื้ออออออออออ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา..” เต้ยที่เอ่ยร้องครวญครางด้วยความสยิวเสียว จากการที่ถูกผมขบดูดที่ปทุมถั่นข้างนั้น...ซึ่งผมก็ทั้งเลียและขบดูดอย่างหัวนมข้างนั้นของเต้ยอย่างเต็มที่เต็มเหนี่ยวเหมือนกัน..ซึ่งมันก็ทำให้ร่างอรชรของเต้ยนั้นสะดุ้งเฮือกและแอ่นมาหาผมอย่างเป็นระยะๆ...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา...” เต้ยที่ยังคงส่งเสียงครางดัง ด้วยความสยิวเสียว จากการกระทำนั้น ซึ่งเธอก็มิเอ่ยปากบ่นถึงความรุนแรงในการขบดูดนั้นแต่อย่างใด แถมทีแรกผมก็กะจะเย็ดเธอทั้งๆแบบนี้แล้ว เพราะควยของผมก็ยังคงแข็งอยู่ ไหนจะ มือไม้ของผมที่โอบกอดเธอนั้น ค่อยๆขยับเลื้อยไปยังช่วงล่างของเธออย่างเตรียมพร้อมที่หมายทำเช่นนั้น...

แต่ผมก็ดันมาเปลี่ยนใจซะก่อน เพราะนึกสงสาร หากทำการเย็ดเธอทันทีทั้งอย่างงี้ ละก็ และถ้ามันเป็นครั้งแรกของเธอด้วยแล้วละก็ มันก็ควรทำให้ดีกว่านี้...และเมื่อคิดอย่างงี้มันก็ทำให้ผมหยุดที่หมายจะเย็ดเธอในท่วงท่านี้ ทั้งๆที่มือไม้ของผมนั้นเข้าประจำตำแหน่งอย่างพร้อมที่จับหันเสาเข้าบุกทะลุทะลวงแล้วแท้ๆ...

“เต้ย...” ผมที่ผละปากออกจากหัวนมของเธอนั้นก็แหงกหน้าขึ้น และเอ่ยเรียกเธอ พร้อมกับขยับมือไม้ข้างหนึ่งขึ้นมาประคองยังศีรษะของเธอ ซึ่งทางเต้ยนั้นก็ได้ก้มหน้าลงมองผม เมื่อได้ยินเสียงเรียกของผม...ก่อนที่ผมจะโน้มเธอลงมาจูบดูดปาก..และทำให้เสียงครางในลำคอของเธอเอ่ยร้องขึ้น...

“อืออออออ อือออออออออออ...” เต้ยที่เอ่ยร้องคราง ขณะทำการขยับริมฝีปากอย่างตอบรับการจูบของผมไปด้วยนั้น และผมก็หาได้แค่จูบเธอเท่านั้น หากแต่ทำการจับร่างของเธอและพลิกให้นอนลงยังที่โซฟา โดยมีร่างของผมเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมแทน หรือ ถ้าให้พูดอย่างง่ายๆ คือ จับพลิกกระดาน/พลิกเกมนั้นเอง...

“อือออออ พี่กายค่ะ..” เต้ยที่เอ่ยเรียกชื่อผม อย่างหอบ ครางเบาๆ ใบหน้าของเธอที่แดงก่ำอย่างจัดๆ ด้วยความเขินอาย กับสภาพท่าทางของตน และการถูกผมเข้าขึ้นคร่อมอยู่ในเวลานี้ ซึ่งผมที่คร่อมอยู่บนร่างของเธอนั้น ก็ยิ้มแต่มิได้เอ่ยตอบอะไร พร้อมกับก้มลงทำการดูดหัวนมอีกข้างของเธอ...

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา...” เต้ยที่ร้องครางอย่างสะท้านแทบทันทีที่ผมเข้าก้มจัดการยังหัวนมอีกข้างของเธอ และผมก็ใช้มือไม้ข้างหนึ่งขยับเข้าเคล้นคลึงเบาๆยังที่เต้านมอีกข้าง ข้างที่ผมได้ทำการดูดไปนั้น ไปด้วย...รสสัมผัสที่ได้จากมือข้างนั้น ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของผมพลุ่นพล่านมากขึ้นไปอีก ความนุ่มความนิ่มที่ได้จากหน้าอกข้างนั้นของเต้ย...

“อืออออออออ อูยยยยยยย...”เสียงครวญของเต้ยที่เอ่ยร้องด้วยความสยิว จากหน้าอกหน้าใจที่โดนผมทั้งดูด และบีบคลึงไปมานั้น ก่อนที่เธอจะต้องร้องครวญด้วยความสยิวเสียวมากขึ้น เมื่อผมได้ผละปากออกจากหัวนมของเธอ และค่อยๆลากลิ้นลงต่ำไปยังที่หน้าท้องของเธอ...แน่นอนว่าผมก็ขยับตัวเลื่อนต่ำไปด้วย...

“พี่กายค่ะ..” เสียงเรียกที่เอ่ยออกมาจากปากของเต้ยที่ เอ่ยออกมาอย่างเบาๆและหอบครางด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเขินอาย เมื่อเธอนั้นถูกผมจับแบะแข้งขาอย่างถ่างอ้า และจับจ้องมองยังของสงวนอันสำคัญยิ่งของเธอ...โดยผมนั้นก็ยิ้มเล็กๆขณะที่จ้องมองยังตรงนั้นของเธอ ที่มีพื้นป่าเล็กน้อยที่ไม่รกเสียเท่าไร แถมตรงนั้นก็ยังปิดชิดสนิทอีกด้วย...

“อูยยยยย...” เต้ยที่ส่งเสียงร้องครางขึ้น และสะดุ้งสะท้านนิดๆ เมื่อนิ้วมือของผมได้ขยับไปแตะยังตรงบริเวณนั้นของเธอ ซึ่งผมก็ค่อยๆใช้นิ้วโป้งคลี่กลีบรักสวยๆที่ปิดมิดนั้น ให้ถ่างอ้าออกมาอย่างต้องการเห็นเนื้อในที่อมชมพูนั้น...แน่นอนว่าผมก็ยิ้มกว้างมากขึ้นเมื่อได้เห็นเนื้อในตรงนั้นของเธอ... พร้อมกับเหลือบมองยังใบหน้าของเธอ ในขณะนี้อย่างเล็กน้อย...

ใบหน้าของเต้ยที่แดงก่ำอย่างจัดๆ และกำลังก้ม จ้องมองผม อย่างไม่พูดอะไร หรือพูดให้ถูกคือ เธอมีท่าทีเหมือนจะพูดแต่ไม่พูด...เอาแต่มองและผ่อนลมหายใจถี่อย่างมีท่าทีตื่นเต้น... ผมที่เหลือบมองท่าทีของเธอนั้นอยู่เล็กน้อย ก่อนจะค่อยขยับใบหน้าเข้าก้มลงเข้าไปหายังรูรักของเธอเพื่อทำการลิ้มรสมัน

“อะ....อ๊าาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาา...”เต้ยที่เอ่ยครวญครางอย่างเสียงดังขึ้น พร้อมกับสะดุ้งสะท้านอย่างสุดตัวราวกับถูกไฟซ็อตก็ไม่ป่าน เมื่อลิ้นของผมนั้นได้ต้องสัมผัสยังที่รูรัก รูสวาทของเธอ...

“อืมมมมม อืออออออ...” ผมที่เอ่ยร้องครางเบาๆ พร้อมกับขยับลิ้นอย่างเข้าสำรวจและลิ้มลองทุกซอกทุกมุมของรูรักของเต้ย ซึ่งมันก็มีแต่ทำให้เสียงครางของเธอนั้นดังขึ้น เรื่อยๆ ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงมือไม้ของเธอที่ได้ขยับเข้าจับประคองยังศีรษะของผม ทีแรกผมก็นึกว่าเธอจะทำการผลักออกไปเสียอีก...

ถึงจะผลัก หรือ ไม่ผลัก ผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่หยุดการกระทำดั่งกล่าวง่ายๆ...จะละเลงลิ้นอย่างเต็มที่ เสมือนเป็นการเอาคืนจากการที่ถูกเธอดูดอมควยเมื่อกี้ ก็ไม่ป่าน...

“อ๊าาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาา..” เสียงครางอย่างสะท้านด้วยความเสียวของเต้ยที่เอ่ยร้องขึ้นเรื่อยๆจากการละเลงลิ้นที่เข้าสัมผัสตามรอยแยก รวมไปถึงการชอกไซเข้าไปยังข้างในนั้นด้วย...รสชาติที่ได้จากรูรักรูสวาทของเต้ยนั้น มันก็บอกไม่ถูก รู้แต่ว่ามันหยุดไม่ได้จริงๆ...

“อืมมมมม อืมมมม...”ผมที่เอ่ยร้องพร้อมกับละเลงลิ้นเข้าเลียยังหีของเต้ย ด้วยความเมามันส์และหนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเธอก็เอ่ยร้องครางดังเรื่อยๆเช่นกันแถมดูท่า เธอจะเสียวมากๆด้วย เพราะเพียงแป็บเดียว จากที่มีมือไม้ข้างเดียวที่จับประคองที่ศีรษะของผมอยู่นั้น ก็กลายเป็น 2 ข้างไปเสียแล้ว..

ก่อนที่เสียงร้องครางของเธอจะดังลั่นขึ้น เมื่อผมได้เข้าทำการขบดูดที่ติ่งเสียวของเธออย่างเบาๆนั้น...ใช่ทั้งร้องครางและสะดุ้งอย่างสุดตัวมากๆเลย....

“อ๊าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา...” เสียงครางลั่นของเต้ยที่เอ่ยร้องขึ้น พร้อมกับร่างที่กระตุกอย่างเร้าๆ และที่บริเวณรูรักของเธอนั้นก็มีสายน้ำใสๆแตกนองออกมาเล็กน้อยด้วย...โดยที่ภาพดั่งกล่าวนั้นก็เป็นภาพที่น่าตื่นตาไม่น้อย ผมที่ยังจ้องมองยังที่รูรักของเธออย่างฉีกยิ้ม..

ก่อนที่ผมกลับไปจ้องมองยังที่ใบหน้าของเธอ เมื่อเธอได้เอ่ยเรียกผม...

“พี่กายค่ะ?..” เต้นเอ่ยเรียก ด้วยเสียงสั่นๆ ดั่งเช่นเนื้อตัวที่ยังคงสั่นเทิ้มไม่หยุดเช่นกันนั้น...

“ครับ..” ผมขานรับและจ้องมอง หน้าของเธอ ก่อนที่ไม่กี่อึดใจเต้ยจะเอ่ยกล่าวถึงสิ่งที่เธอต้องการ...

“เย็ดเต้ยนะค่ะ..”คำกล่าวสั้นๆของเธอ ก็ทำให้ผมที่จ้องมองเธอนั้นถึงกับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะจับจ้องมองเธอ เพื่อหมายดูท่าทีของเธอ และสิ่งที่เธอแสดงออกมานั้น ก็คือแววตาและท่าทีที่จริงจัง ถึงสิ่งที่ได้เอ่ยขอผมออกไปนั้น และนั้นก็ทำให้ผมค่อยๆขยับร่างเข้าไปคร่อมยังร่างของเต้ย..

โดยที่ผมนั้นก็ไม่ได้มีความคิดที่จะหยุด หรือ ยับยั้งการกระทำนี้แต่อย่างใด เพราะมันไกลเกินกว่าที่ผมจะหยุดได้แล้ว...ผมที่เข้าคร่อมร่างของเต้ยนั้น ก็ขยับใบหน้าเข้าทำการจูบปากของเธออย่างทันที ใช่...จูบปาก พร้อมกับค่อยๆขยับมือไม้เข้าลูบไล้ทางด้านข้างของเธอ...ลูบไล้ ตั้งแต่หัวไหล่ จนถึงเรียวขา....

ก่อนที่ผมจะจับเรียวขานั้นอย่างยกขึ้นแนบไว้ที่ข้างตัว พร้อมกับสอดตัว โดยเฉพาะช่วงล่างนั้นเข้าไปหา..

“อะ อ๊าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาา..”เต้ยที่ผละปากออกจากริมฝีปากของผม และเอ่ยร้องครางอย่างเสียงดัง พอสมควร และที่เธอเอ่ยร้องครางอย่างเสียงดังนั้น เพราะโดนท่อนเอ็นของผมปักมุดเข้าไปในรูรักอย่างมิดด้ามในคราเดียวนั้นเอง...

เล่นทำให้เธอทั้งร้องลั่น และขยับมือไม้เข้าสวมกอดร่างของผมอย่างแนบแน่น....ขณะที่ผมนั้นก็แปลกใจพอควร ที่สามารถสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปได้ ง่ายกว่าที่คิด...เพราะทีแรกผมก็คิดว่า มันต้องยากลำบากกว่านี้แน่ๆ บางทีที่เข้าไปได้อย่างไม่ยากเย็นนั้น...ส่วนหนึ่งมาจากการเล้าโลมที่ได้ทำไว้ด้วยรึเปล่านะ..

“เจ็บเหรอ?...” ผมที่เอ่ยถาม เมื่อเห็นสีหน้าของเต้ยที่แสดงท่าทีอย่างเจ็บปวดสุดๆ...

“อือออออ ค่ะ...แต่ก็ไม่มากเท่าไร..” เต้ยตอบคำถามของผมด้วยน้ำเสียงที่สั่นนิดๆ แต่สีหน้าของเธอนั้น ไม่ได้แสดงเหมือนดั่งที่เธอเอ่ยบอกกับผมเลย สีหน้าของเธอที่แสดงออกมานั้น เหมือนบงบอกว่า เธอเจ็บมากในระดับหนึ่ง ดูจากสีหน้าและน้ำตาที่เออคลอนั้น....

“.....ทนหน่อยนะ อีกเดี๋ยวมันก็หายแล้วละ..” ผมเอ่ยเชิงปลอบ พร้อมกับเช็ดน้ำตาที่เออคลอของเธอนั้น...ก่อนจะทำการจูบปากของเธออย่างแผ่วเบา อย่างเป็นการปลอบขวัญเธอ และขยับซอยควยเบาๆไปด้วย....

“อะ อื้อออออ อืออออออ.....” เต้ยทีเอ่ยปากร้องคราง ขณะที่ริมฝีปากของเธอนั้น ยังถูกริมฝีปากของผมประกบจูบอยู่ โดยที่เธอนั้นก็ร้องครางในลำคอด้วยความเสียว จากการกระทำของผมที่ ทั้งการจูบ และการซอยควยใส่หีของเธอนั้น....

และเพียงไม่นาน เต้ยก็แสดงท่าทีเหมือนบงบอกกลายๆว่า ความเจ็บปวด จากการถูกผมสอดใส่นั้น ได้เริ่มหายไปแล้ว ท่าทีดั่งกล่าวนั้น ก็คือการที่ เธอขยับทั้งมือไม้ และ เรียวขาทั้ง 2 เข้ามาเกาะกอดยังร่างของผมนั้นเอง และนั้นก็ทำให้ผมยิ้มทันทีที่เธอกอดยังร่างของผมนั้น...

“อะ อาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาา..” เต้ยที่เอ่ยร้องครางดังขึ้น ด้วยความเสียว จากการที่ผมเร่งเครื่องซอยควยใส่หีของเธอนั้น ซึ่งผมก็กระทำการดั่งกล่าวแทบทันทีที่ เธอขยับมือไม้และเรียวขาเข้ากอดผมนั้นเอง..

ใช่ ผมเร่งเครื่องกระหน่ำใส่รูหีของเต้ย เพื่อนในวัยเด็ก และยังเป็น เนตไอดอล นางแบบ/ดารา ชื่อดังนั้นอย่างไม่ยั้ง...ซึ่งผมก็อัดรั่วไปประมาณ 10-20 ทีได้ ก่อนจะกระทุ้งอย่างใส่สุดแรง และนั้นก็ทำให้เธอครางลั่นครางยาวประหนึ่งเสร็จสมออกมา

“อ๊าาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาา..” เต้ยที่ส่งเสียงร้องคราง พร้อมกับผวาเข้ากอดรัดร่างของผมอย่างแนบแน่น ขณะที่ผมก็เรียกได้ว่า นอนทับร่างของเธอก็เอาให้เธอแบนเลยทีเดียว..ใช่ ครั้งสุดท้ายที่กดท่อนเอ็นไปนั้นก็เต็มเหนี่ยวเอามากๆ...

แต่ผมก็ยังไม่ได้ถึงขั้นน้ำแตกออกมาหรอกนะ จริงๆแล้วก็เกือบๆเสร็จเหมือนกัน ด้วยความที่รูรักของเต้ยนั้นมันฟิตและรัดแน่นอย่างหนึบหนับมากๆ ถึงตอนนี้ก็ยังรัดแน่นโคตรๆอยู่เลย เล่นทำเอาผมเสียวควยสุดๆไม่น้อยเหมือนกัน...เสียวชนิดที่อาจจะน้ำแตกเมื่อไรก็ได้ หากไม่ระวังตัว!!...

“แฮ่ก...แฮ่ก...เราไปต่อกันที่เตียงเถอะนะ...” ผมที่หอบครางอย่างเหนื่อยนิดๆ และจึงค่อยขยับจ้องมองหน้าอย่างเอ่ยชวนเธอ ซึ่งเต้ยเองก็หอบคราง อย่างตัวสั่นเทา เธอที่จ้องมองผมตอบด้วยสีหน้าที่ระเรือแดง ก่อนจะตอบตกลงด้วยการพยักหน้าเชิงตอบรับ...

สาเหตุ ที่ผมชวนเต้ยไปต่อที่เตียงนั้น มันไม่มีอะไรมาก นอกจาก ที่โซฟานั้นมันทำอะไรไม่ค่อยถนัดเสียเท่าไร...แน่นอนว่าพอไปถึงที่เตียง ผมก็ทำการจัดการเย็ดเต้ย เพื่อนในวัยเด็ก ที่เหมือนน้องสาวคนสวยนี้ต่อทันที...

“อูยยยยยยย...พี่กายค่ะ...เต้ยเสียวค่ะ ดูดแบบนั้นเต้ยเสียวนะค่ะ...” เต้ยที่ส่งเสียงร้องออกมา ขณะกำลังถูกผมทำการดูดเต้านมแสนงามของเธอนั้น ใช่ พอผมได้วางเธอลงบนเตียง (ผมอุ้มเธอเข้ามาในห้อง) ก็เข้ากอดนัวเนีย บีบคลึงและ ขบดูดยังเต้านมของเธอ..

โดยที่ผมก็กอดนัวเนีย ดูด นมของเธอ ไม่นานนัก เรียกว่าแป๊บเดียว ก็จับเธอเย็ดต่อ...

“อือออออออออ อาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาา อาาาาาาาาาาาาาา..” เต้ยที่ส่งเสียงร้องครางออกมาแทบทันที ที่ถูกผมจับเย็ดในท่ายกล้อ ร่างของผมและเธอที่ต่างนอนตะแคง ซึ่งผมนอนอยู่ที่ด้านหลังและจับยกเรียวขาข้างหนึ่งของเธอเอาไว้....

ใช่ เต้ยส่งเสียงร้องทันทีที่ โดนผมกระทุ้งหีในท่าดั่งกล่าว ใบหน้าสวยๆของเธอที่ค่อยๆแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆอีกครั้ง

ขณะที่ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาซอยควย เย่อ หีของเต้ย ในท่วงท่านี้อย่างเมามันส์...และมันก็เป็นอะไรที่เร้าอารมณ์ไม่น้อย เมื่อผมเหลือบไปมองยังที่กระจกที่อยู่ในห้องนอน ซึ่งสิ่งที่อยู่ในเงากระจกนั้น คือ ภาพช่วงล่างของเต้ยกับผมนั้นเอง ใช่ภาพท่อนควยที่กำลังขยับสาวมุดเข้า-ออกยังรูรักของเต้ยอย่างไปมานั้น มันทำให้ผมเสียวซ่านมากขึ้นไปอีก..

จากเดิมที่เสียวอย่างมากมายจาก ความผิต ความแน่น ของรูหีอยู่แล้ว...

“เต้ย เต้ยจ้า...” ผมเอ่ยเรียกชื่อเธอ พร้อมกับซอยควยอย่างถี่ยิบมากยิ่งขึ้น...ด้วยท่าทีที่ไม่อาจจะทัดทาน ทนต่อไปได้อีก ท่ามกลางเสียงครางระงมของเต้ยที่เอ่ยร้องไม่หยุด ขณะโดนผมเย็ดนั้น..ก่อนที่ไม่กี่อึดใจผมจะสบคำรามดังขึ้น พร้อมกับหวดท่อนเอ็นใส่รูหีสวยๆของเต้ยอย่างเต็มแรง...และนั้นก็ทำให้เต้ยร้องครางดังยาว ด้วยน้ำเสียงที่เสียวสุข ยิ่งกว่าตอนโดนหวดครั้งสุดท้ายที่โซฟานั้นซะอีก...(แหงละ ก็คราวนี้ มีน้ำควยด้วยนี่นะ..)

“อ๊าาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาาาาาา..” เต้ยที่เอ่นร้องครางลั่น ร่างอรชรที่นอนตะแคงนั้น ก็แอ่นกาย สะดุ้งสะท้านอย่างมีท่าทีเสียวสุดๆ...ขณะที่ผมเองนั้นก็มีท่าทีไม่ต่างจากเธอเลย...

“อูยยยยยยยยยยยยยย..” ผมที่เอ่ยร้องครวญด้วยความเสียวอย่างสุดๆ เพราะรูหีของเธอเล่นตอดรัดควยผมแบบแน่นโคตรๆ ซึ่งผมก็แช่ควยคารูหีของเธออยู่ ครู่หนึ่ง และจึงค่อยๆขยับถอนท่อนควยออก...พร้อมกับเหลือบมองดูจากเงาสะท้อนที่กระจกบานเดิมนั้น...ใช่...จ้องมองภาพสะท้อนที่เป็นภาพช่วงล่างของเต้ยที่ถูกผมจับยกขาข้างหนึ่งกางเอาไว้..

และหลังจากที่ผมถอนควยไม่กี่อึดใจ น้ำควยขาวขุ่นของผมก็ค่อยๆไหลเยิ้มออกจากรูหีของเต้ย ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก...ถ้าหยาบๆหน่อยก็ต้องบอกว่า รู้สึกสะใจละครับ..ก่อนที่ผมจะขยับท่อนเอ็นเข้าเสียบเข้ายัด ยังรูหีของเต้ยอีกครั้ง...ซึ่งนั้นก็ทำให้เต้ยสะดุ้งสะท้านร้องครางดังเล็กน้อย...

“อาาาาาาาาาาาาาา...” เต้ยที่ส่งเสียงร้อง อย่างสะดุ้งนิดๆกับการถูกผมเสียบควยเข้าไปใหม่อย่างมิดด้าม และหลังจากที่ผมสอดใส่ควย ผมก็ทำการขยับมือไม้เข้าโอบกอดเธอ...มิได้ทำการเย็ดเธอต่อแต่อย่างใด....ใช่ แค่สอดใส่ กับทำการโอบกอดร่างของเต้ยไว้อย่างแนบแน่นเท่านั้น...

“อือออออออออ... นะ นี่เต้ยเท่ากับเป็นของพี่กายแล้วใช่มัยค่ะ...” เต้ยที่เอ่ยถามขึ้น เมื่อเธอเริ่มหายเหนื่อยจากการถูกเย็ดนั้น ซึ่งผมเองก็เช่นกัน และคำถามของเธอนั้นก็ทำให้ผมนิ่งไปเล็กน้อย เพราระมันทำให้ผมเหมือนได้สติขึ้นมากลายๆกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป...นั้นจึงทำให้ผม คลายการกอดเธอ และขยับตัวออกมาจากเธอ...

“อะ อืมมม...เต้ยคือ พี่....”ผมที่เอ่ย หมายจะขอโทษเธอ อย่างรู้สึกผิดจริงๆ ขณะที่เธอก็หันกลับมามองผมและชิงเอ่ยขึ้นมา

“ถ้าจะขอโทษ เหมือนพระเอกหนังไทยละก็ เต้ยไม่ต้องการค่ะ..” เธอเอ่ยกล่าวขึ้น อย่างดักคอของผม เล่นทำผมชะงักจนไปต่อไม่ถูก...

“แล้วก็ เต้ยไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรจากพี่กายด้วย ไม่คิด...ไม่หวังว่าการกระทำนี้ จะทำให้พี่กายมาเป็นของเต้ย แน่นอนว่าเต้ยไม่ได้ขอให้พี่กายเลิกกับคนที่พี่กายเพิ่งคบอยู่ด้วย..” คำกล่าวต่อของเธอ ก็ทำให้ผมยิ่งอึ้ง ยิ่ง งง มากขึ้น ก่อนที่เธอจะเอ่ยต่อ เชิงเฉลยถึงสิ่งที่เอต้องการจากผม...

“ขอแค่ เต้ยอยู่เป็น 1 ในตัวเลือกของพี่กายอีกคน จนกว่า พี่กายจะตัดสินใจ ว่าจะเลือกใครเป็นแฟน แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ ” เต้ยเอ่ย ด้วยน้ำเสียงและแววตาที่จ้องมองผมอย่างจริงจัง ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกแย่นิดๆ และก็เข้าใจ ถึงสิ่งที่เธอต้องการ ความรู้สึกของเธอ ที่มันคงคล้ายกับความรู้สึกของผมที่มีต่อตาลนั้นเอง...

ไม่จำเป็นต้องได้ครอบครอง ขอแค่อยู่ข้างๆก็ยังดี...ความคล้ายคลึงนั้นมันทำให้ผมจุกอย่างพูดไม่ออก...

และมันก็เป็นโจทย์ยากสำหรับผมเลยก็ว่าได้ หากต้องเลือกใครสักคน ระหว่าง ตาล กับ เต้ย คนหนึ่ง คือ คนที่ผมแอบชอบ อีกคน เป็นคนที่แอบชอบผม...คนหนึ่งเหมือนผ่านอะไรมามากมาย อีกคน ใสบริสุทธิ์... ใช่ มันเป็นโจทย์ยาก ที่แสนปวดกบาลในเวลานี้สำหรับผม ถ้ากากผมไม่เจอตาล ก่อนหน้านี้ ผมคงตอบรับเต้ยอย่างสนิทใจอย่างไม่กังวลไปแล้ว...

แต่เพราะเจอ และความรักที่ผมมีต่อตาลนั้นก็ยังมีอยู่เยอะ จึงทำให้ผมพูดลำบาก…

“เต้ย ขอแค่นี้...คงได้ใช่มัยค่ะ พี่กาย..” เธอเอ่ยเชิงถามผม ซึ่งผมที่ครุ่นคิดอยู่นั้นก็จ้องมอง และเอ่ยตอบสั้นๆ อย่างพยักหน้าตอบรับ...

“อะ อืมมมมมม...” ผมตอบ ด้วยท่าทีที่เหมือนมักง่ายไปสักนิด แต่เต้ยก็ไม่มีท่าทีแย้งอะไร เธออมยิ้มน้อยๆ ไม่รุ้ว่าเป็นเพราะสีหน้าของผมในเวลานี้มันทำท่าทางบอกไม่ถูกด้วยรึเปล่า เธอถึงได้ไม่ว่าอะไรกับคำตอบนั้น ใช่ เต้ยยิ้มๆน้อยๆและขยับเข้ามาเป็นฝ่ายกอดผม.....

“เออ....ถ้าเต้ยจะขออีกอย่างจะได้มัยค่ะ พี่กาย?...” เต้ยที่เอ่ยกล่าวต่อ หลังจากที่เข้ามาเป็นฝ่ายสวมกอดผมนั้น ซึ่งคำกล่าวของเธอนั้นก็ทำให้ผมมองเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ...

“ว่ามาสิ...” ผมเอ่ยตอบ อย่างไม่มีท่าทีขัดข้อง และคำขออีกอย่างที่เธอขอนั้น ก็ทำให้ผมอึ้งเล็กๆด้วย....

“เต้ย อยากถูกพี่กายกอด เออ เย็ดอีกค่ะ ช่วยเย็ดเต้ยอีกทีได้มัยค่ะ...แล้วก็เรื่องท้องพี่กายไม่ต้องเป็นห่วง... กาย เต้ยทานยากันไว้แล้ว ยังไงก็คงไม่ท้องแน่ๆค่ะ..” เต้ยเอ่ย อย่างเหลือบมองหน้าผม ด้วยท่าทีที่ร้องขอ ถึงแม้ใบหน้านั้นจะแดงก่ำอย่างสุดๆก็ตาม ขณะที่ผมก็ถึงกับอึ้ง ให้กับถ้อยคำนั้นของเธอ...

‘ทานไว้แล้ว? หมายความว่า เธอตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ตั้งแต่แรกเหรอ?...’ ผมคิดอย่างตกใจเล็กน้อยและสงสัย แต่ไม่ได้เอ่ยถามเต้ยออกไป ได้แต่ก้มลงมองเธอ ที่ยังคงจ้องมองผมอย่างรอฟังคำตอบ...

“ อืมมม ได้สิ จะเย็ดจนกว่าเราจะขอให้พอเลย..” ผมเอ่ยตอบ พร้อมกับผลักร่างของเต้ยให้ลงนอน โดยที่ร่างของผมนั้นก็ขยับตามเข้าคร่อมร่าง อย่างทันที ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความตกใจของเต้ยที่ดังขึ้นเล็กๆ เนื่องจากผมเอ่ยจบก็ลงมือทันทีนั้นเอง...

“วะ ว้ายยยยยยยย...” เต้ยที่เอ่ยร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่เสียงร้องนั้นจะเงียบหายไปเหลือเพียงครางเบาๆในลำคอ เมื่อถูกผมเข้าทำการจูบปาก...และกว่าที่เสียงของเธอจะเอ่ยร้องดังอีกครั้ง ก็หลังจากนั้นราวๆ 5 นาทีได้ ใช่ เธอร้องครางด้วยความเสียว จากท่อนเอ็นที่กระหน่ำรูของเธอ ดัง ปึกๆๆๆๆๆป้าบๆๆๆๆๆ อย่างไม่หยุดนั้นเอง....

โดยที่วันนั้นผมก็กดกระหน่ำหีของเต้ย เพื่อนสมัยเด็กของผม ไป 3 น้ำด้วยกัน...ถึงจะแค่ 3 น้ำแต่เหมือนน้ำควยของผมจะถูกสูบออกไปจนหมดเลย ด้วยความฟิตแน่น และตอดรัดแรงอย่างรุนแรงนั้นเอง ก่อนที่จะได้รับความกระจ่างในสิ่งที่ผมสงสัยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการตั้งใจของเธอนั้นรึเปล่า?

ใช่....ครับได้รับความกระจ่าง เพราะ มันออกมาจากปากของเต้ยเอง ในตอนที่ผมต้องเป็นคนดูแลเธอในช่วง 2 วัน หลังจากวันเกิดเรื่อง ที่เธอได้เป็นไข้  โดยที่ไข้นั้นก็เป็นผลจากการโดนผมเย็ดเปิดซิงนั้นเอง...เห็นเธอเปรยๆว่า โดนกรรมตามสนองอะไรทำนองนั้นแหละ...